เวทีเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโพธิวิชชาลัย


การไปสู่ชัยชนะของน้ำดี

         เมื่อวานนี้ (7 ม.ค. ) ผมได้มีโอกาสร่วมเวทีเพื่อแสดงจุดยืนของโพธิวิชชาลัย เวทีนี้จัดที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหมากฝ้าย  อำเภอวัฒนานคร ผู้มีเกียรติที่ร่วมบนเวที มีอยู่  3 ท่าน ท่านแรกคือผู้ช่วยศาสตราจารย์อำนาจ  เย็นสบาย รองอธิการมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ  อาจารย์วิวัฒน์  ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง  และท่านสุดท้ายคือคุณสมิทธิ์  เย็นสบาย ผู้จัดการศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสระแก้ว ( บ้านดิน ) โดยมาผมเป็นผู้ดำเนินการอภิปราย

         จำนวนผู้เข้าร่วมเวที ประมาณ 80 คน เป็นเวทีขนาดเล็ก เหตุผลของการจัดเวที เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนละแวกใกล้เคียงกับโพธิวิชชาลัย รวมทั้งเป็นการเตรียมการเกี่ยวกับการรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯในวันที่ 28 มกราคมนี้ 

        เราสรุปถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องสร้างสถาบันทางการศึกษาที่เป็นทางเลือกใหม่ให้กับสังคม เป็นมหาวิทยาลัยในฝัน ผู้ที่จบการศึกษาจะเป็นคนสำนึกรักบ้านเกิด ทำมาหากินที่บ้านเกิดและพัฒนาท้องถิ่นชุมชนของตนอย่างมีคุณภาพ มีจิตใจที่มีคุณธรรม สามารถต้านกระแสสังคมทุนนิยมได้เป็นอย่างดี  ปีหนึ่งเรารับไม่มากเพียง 30 -50 คน เท่านั้น โดยเป็นการรับตรงไม่ต้องผ่านทบวงมหาวิทยาลัย คุณสมบัติเรามองไปถึงพ่อ แม่ ของผู้สมัครด้วย และข้อสำคัญนิสิตรุ่นแรกจะเป็นนิสิตที่ได้รับทุนจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ หลักสูตรยังไม่ตกผลึกว่าจะต้องเรียน 4 หรือ 5 ปี

          ผมพยายามซักถามในรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการคัดเลือก ท่านรองอธิการบอกว่าวิธีการยังไม่ผ่านสภามหาวิทยาลัย แต่บอกคร่าว ๆ ได้ว่ามีทั้งการสอบข้อเขียนและการสัมภาษณื โดยสัมภาษณืเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวทั้งสิ้น และผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือ ต้องมีความอดทนเป็นเลิศ

        เมื่อมีการเปิดโอกาสให้ซักถาม ช่วงนี้สนุกมากเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสังคมไทย  มีคำถามหนึ่งน่าสนใจมาก ชาวบ้านท่านหนึ่งถามว่า ผู้ที่จบการศึกษาจากโพธิวิชชาลัย เมื่อออกไปสู่สังคม เนื่องจากกลุ่มคนที่จบมีจำนวนน้อยมาก  พวกเขาเหล่านี้จะทานกระแสสังคมไหวหรือ? และในที่สุดก็จะถูกกลืนไปกับกระแสทุนนิยม  ผมหันไปมองวิทยากรทั้งหลาย แล้วถามว่าเป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมมาก  ใครจะเป็นคนตอบ  อาจารย์ยักษ์ยกมือขอเป็นผู้ตอบ คำตอบของอาจารย์ยักษ์เป็นคำตอบที่ผมคาดไม่ถึง อาจารย์แสดงความเป็นปราชญ์ได้ค่อนข้างชัดเจนมาก  อาจารย์ตอบว่า  ย้อนไปสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ท่ามกลางกระแสของความเชื่อทางศาสนาที่หลากหลาย และพระองค์ตรัสรู้เพียงพระองค์เดียว ด้วยความหนักแน่นและรู้จริงในสัจจธรรม  ทำให้พระองค์จึงเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่มาตราบเท่าทุกวันนี้  ดังนั้น ท่านจึงมีความเชื่อมั่นว่าผู้ที่จบจากโพธิวิชชาลัย รุ่นละ 30 - 50 คน จะเป็นคนที่เปลี่ยนสังคมได้ ข้อสำคัญถ้าเราไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เท่ากับเราจำนนต่อการยอมเป็นทาสของทุนนิยมตลอดไป  ทางออกทางเดียวของสังคมไทย คือการเดินตามรอยพ่อ ใครจะคิดอย่างไรไม่รู้ แต่พวกเราที่อยู่บนเวทีนี้ (รวมทั้งตัวผมด้วย) จะขอทวนกระแสจนถึงที่สุด

        บทสุดท้ายของเวทีนี้ ทุกคนมีแต่ความสุข หลายคนต่างเร่งวัน เวลา ให้ โพธิวิชชาลัย  ก่อร่างสร้างตัวให้ถึงที่หมายเร็ววัน และปรารถนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งนี้

หมายเลขบันทึก: 158085เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2008 12:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 18:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ได้ยินชื่อ "โพธิวิชชาลัย" เป็นครั้งแรกก็เลยลองหาคำแปล (จากhttp://www.agalico.com/board/archive/index.php?t-1647.html)

"โพธิ" แปลว่า ความตรัสรู้หรือความรู้แจ้ง


คำว่า "ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย" เป็นชื่อที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ"พระมหาชนก" ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ

http://www.plantgenetics-rspg.org/rspg_webboard/dir_txtsql/imagefiles/RRSPG120.jpg
ทั้งนี้ ท่านอาจารย์ ดร.พิศิษฐ์ วรอุไร  เป็นผู้ให้คำจำกัดความถึงนัยแห่งคำว่า "ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย" ไว้ คือเป็น" สถานอบรมสั่งสอนเบ็ดเสร็จ" และได้ขยายความเพื่อมุ่งสู่แนวทางการปฏิบัติ

  เยี่ยมยอดและยั่งยืนนาน แน่นอน แนวทางนี้จะช่วยต่ออายุโลกใบนี้ ให้รุ่นลูกหลาน เหลน ลื้อ ได้อยู่เย็นเป็นสุข จะไม่ต้องอยู่ร้อน เป็นทุกข์ อย่างทุกวันนี้ ขอเป็นพลังด้วยครับท่าน ศรัทธาและเชื่อมั่น มานานแล้ว

โพธิวิชชาลัย  เป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะเกิดกับจังหวัดสระแก้ว  เพราะสระแก้วดูจากสภาพพื้นที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นป่ายูคาลิปไปแล้ว คิดว่าโครงการนี้อาจจะหยุดเมืองยูคาได้บ้างไม่มากก็น้อย  ป่าจะได้มีมากขึ้นสระแก้วจะได้กลับมาอุดมสมบูรณ์ดังแต่กอ่น  ขอเอาใจช่วยทุกฝ่าย

       ผมชื่นชมกับแนวคิดของท่านผอ.สมนึกอย่างยิ่ง ในฐานะผอ.กศน.สระแก้ว ที่ออกจะฟันธงในแนวทางการศึกษา สมกับเป็นผู้บริหารกศน.จริงๆ

      ระบบการศึกษาอันเหลวไหล ปัจจุบันส่งให้บุตรหลานคนชนบท กลับกลายเป็นพวกสมาธิสั้น มีเพศสัมพันธ์อันก่อนวัย ไร้จุดเด่น สุด้ายไม่รักชาติบ้านเมือง

       ดังนั้น กศน.จะต้องเป็นหลักชัยในการต่อสู้กับกระแสเหล่านี้ให้ได้ครับ

                                                     สมิทธิ์  เย็นสบาย 

สวัสดีคุณสมิทธิ์  (นักรบที่ไร้กระบวนท่า)

          ขอบคุณที่ชื่นชมผม ที่จริงผมไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ผมพยายามทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และโลก เราคิดเหมือนกัน และเพี้ยนคล้ายกัน เราจึงมองสังคมในภาพเดียวกัน ต่างกันตรงเวลาผมคิดอะไรผมต้องคำนึงถึงนโยบาย  ความเข้าใจของทีมงาน รวมทั้งผลที่จะเกิดต่อองค์รวม  แต่ผมไม่กังวลว่างานนั้นจะเป็นของใคร ถ้าเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องสระแก้ว ผมลุยได้ทันที มันก็แค่นี้เองครับ

        

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท