. . . ชีวิตคือละคร . . . ละครชีวิตของเรา


คำว่า ชีวิตคือละคร เป็นคำที่สะท้อนชีวิตได้ดีเหลือเกิน

แต่จะมีสักกี่คนกันที่สามารถ เข้าถึง ความหมายที่ว่านี้

และเห็นว่าละครนี้แท้ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการฝัน

เป็นการฝันที่ต่อเนื่องยาวนาน ทั้งกลางวันและกลางคืน 

ทั้งในตอนตื่นและตอนหลับ พวกเราล้วนขยับตัวอยู่ในนั้น

ช่างเป็นฝันอันบรรเจิดชวนให้หลงใหลเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ

จนออกมาเป็นละคร ฟอร์มใหญ่ อันสุดแสนอลังการ

นี่คือผลงานอันยิ่งใหญ่ที่คนทั้งหลายได้ร่วมกันสร้างสรรค์ 

เป็นผลงานที่มี ผู้หวังดี เข้ามาทำหน้าที่กำกับการแสดง

บางฉากที่ทำท่าว่าจะออก มาแรง ก็มักจะถูกปรับแก้

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามกระแส และเป็นไปตามใจของผู้ชม

โดยที่ไม่มีใครสนใจใยดีว่าผู้แสดงจะคิดหรือรู้สึกอย่างไร 

จะเกิดอะไรขึ้น? หากอยู่มาวันหนึ่งผู้แสดงต่างก็ ถอดใจ

ไม่ยอมสวมบทบาท ไม่สามารถแสดงละครเรื่องนี้ต่อไปได้

ต่างพร้อมกันตะโกนออกมาว่า พอกันทีๆ กับละครเรื่องนี้

ได้เวลาปิดฉากกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกันซะที 

แต่ เดี๋ยว . . . ช้าก่อน อย่าเพิ่งด่วนใจร้อน รีบลงมาจากเวที

นั่นเป็นเสียงที่มาจากผู้ชม และผู้ที่ทำหน้าที่กำกับการแสดง 

พวกเขายอมรับอย่างตรงๆ ว่า ยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับชีวิตจริง

ต้องการจะประวิงเวลาเอาไว้ เพื่อจะได้อยู่กับความฝันนี้ไปนานๆ 

ให้ได้อยู่กับฝันนานเท่าที่จะทำได้ นั่นคือคำร้องขอของพวกเขา

เขาพูดว่า พวกเรายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

จงแสดงต่อไปเถิด เพราะละครเรื่องนี้ไม่ได้เขียนบทตอนจบไว้

จะเขียนตอนจบไว้ได้อย่างไร ในเมื่อมันคือ ละครชีวิตของเรา.  

หมายเลขบันทึก: 155904เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2007 21:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 14:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับ

ผมเป็นคนหนึ่งที่พยายามจะออกมาเป็นผู้ดู  แต่ทำอย่างไรก็เผลอเข้าไปเป็นผู้แสดงทุกที

อย่างที่อาจารย์ว่าแหละครับ  โลกนี้เป็นละครโรงใหญ่  เราหลงเป็นตัวละครโดยไม่เคยรู้ตัว  แล้วก็หลงเปลี่ยนบทบาท เปลี่ยนตัวละครไปเรื่อยไม่รู้จบ

เมื่อไหร่ที่เราออกมาเป็นผู้ดู(โดยไม่อินไปกับตัวละคร)ได้นั่นแหละ ละครเรื่องนี้จึงจะได้จบลง

ขอบคุณครับ

ระหว่างแสดงละครชีวิต  เราเคยอยากออกจากเวทีเหมือนกัน

บางวันที่เราออกจากการแสดงชั่วคราว เรารู้สึกลืมความทุกข์

แต่ออกจากเวทีนานไป เราก็รู้สึกเบื่อ และคิดถึงเวทีอีก

แต่พอกลับมาเราเริ่มเครียด เราก็ออกจากเวทีอีก ไปชาร์ตแบตใหม่

มันคงเป็นเรื่องธรรมดานะคะ

เมื่อไหร่..ที่เราทำใจได้ ออกไปเป็นผู้ดู ตลอดไป

เราคงสุขใจได้

ขอบคุณ คุณธรรมาวุธ และคุณอุบล ที่ทำให้ blog นี้มีชีวิตชีวา ไม่รู้สึกว่าคุยอยู่คนเดียว . . . เมื่อไรเราออกมาจากการเป็น "ผู้แสดง" ได้  คงจะเบาสบาย . . . เมื่อไรเราออกมาจากการเป็น "ผู้ดู ผู้ชม" ได้  คงจะยิ่งเบาสบาย เพราะคงจะเข้าใจ "ความว่าง" ได้อย่างแท้จริง
ละครชีวิต บางคนก็หลงไปกับบทที่ผู้คนรอบข้างปั้นแต่งให้เป็น จะมีกี่คนที่สามารถเล่นละครโดยไม่อินเข้ากับตัวจริง  ทุกคนรู้ว่านี่คือละคร แต่ก็เอาความรู้สึกทั้งหมดไปผูกไว้ ถ้าเราเล่นแบบชิวๆๆ  เล่นแบบสนุกๆ มีความสุขทุกครั้ง ละครที่เราเล่นคงมีความหมายมากเลย

ผมชอบที่ "loy" บอกว่า "บางคนหลงไปกับบทที่ผู้คนรอบข้างปั้นแต่งให้เป็น. . ." ก็เพราะบรรดาคนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ที่อ้างว่าเป็น "ผู้หวังดี" นี่แหล่ะครับ ที่ทำให้ "ละคร" เรื่องนี้ไม่งดงาม และไม่เป็นธรรมชาติ

ขอบคุณสำหรับ comment ยามเช้าจากระยอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท