เก็บตกนี้ได้จากครั้งหนึ่ง ยายกาแฟได้เข้าร่วม ทำ workshop การเป็นวิทยากร และ การพูดในที่ชุมชน เมื่อหลายปีมาแล้ว มีชั่วโมงหนึ่งได้มีการพูดถึง การพูดแบบไม่ได้เตรียมตัวเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงค่ะ เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นเรื่องขำขัน
พยาบาลสาวนางหนึ่ง เธอจัดได้ว่าเป็นวิทยากร มือฉมัง ประจำอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแห่งหนึ่ง (ไม่ใช่อำเภอปางมะผ้า อิอิ) ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะขอสงวนนามไว้ เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน ด้วยความที่เป็นอำเภอเล็ก ๆ บุคลากร จึงจำกัดเป็นอย่างยิ่ง
สาวนางนี้เธอก็มีบุคลิกคล่องแคล่ว ฝีปากฉะฉาน หน้าตาก็หมดจด สดใส เธอทำได้หมด ตั้งแต่เป็นพิธีกร เป็น ผู้ดำเนินรายการ หรือเป็นวิทยากร นับว่าเป็นบุคลากรที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและ มีพรสวรรค์หาตัวจับยากเป็นอย่างยิ่ง จึงจะพบว่าเธอมีส่วนร่วมในงานของอำเภอ ตั้งแต่งานเล็ก ๆ งานวัด งานบุญ จนไปถึงงานระดับอำเภอ
ในงานพิธีใหญ่ ๆ ในแต่ละปี ก็จะมีไม่กี่งาน แล้วในวันพิธีสำคัญวันหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นวันพ่อแห่งชาติ ให้บังเอิญ ว่าในปีนั้น นักร้องประจำอำเภอ (น่านนนนมีซะด้วย) ซึ่งต้องเป็นต้นเสียงนำร้องเพลงไม่อยู่ หรือป่วยนี่แหล่ะ ไม่สามารถมาร่วมงานได้ เหตุการณ์ก็โกลาหล ในช่วงก่อนทำพิธีการ ว่าต้องหาคนมานำร้องเพลง ด่วนทั้งเพลง สรรเสริญพระบารมี และ เพลง สดุดีมหาราชา
นายอำเภอ สาดสายตาไปทาง พิธีกรสาว ก็ให้ยินดี เห็นทางรอดไปทาบทามให้เป็นต้นเสียงจำเป็น สาวเจ้าก็ตอบรับด้วยความยินดี โอ๊ย ของแบบนี้ หมู ๆ เคยร้องมาตั้งแต่เด็ก สบ๊าย ค่า ท่านขา
เมื่อถึงช่วงร้องเพลง สาวเจ้าก็ยืนเด่นเป็นสง่า อยู่ใกล้ไมโครโฟนล่ะค่ะ ทุกอย่างผ่านไปได้ดี และ สวยงามเป็นอย่างยิ่งสำหรับงานพิธีในอำเภอเล็ก ที่ไม่มีกระทั่งดุริยางค์หรือเทปเพลงประกอบการร้องก็ต้องเป็นร้องสด ....จนกระทั่งถึงเพลงนี้
ผู้อ่านรู้จักเพลง สดุดีมหาราชา ใช่ไหมคะ ถ้าเป็นคนไทย ต้องรู้จักและร้องเป็นด้วย เพราะฉนั้นจะอ่านต่อไปนี้อยากรบกวนให้นึกถึงท่วงทำนอง อินโทร ประกอบกับเพลงซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปด้วย จึงจะเข้าใจค่ะ อยากเข้าเรื่องให้มีอรรถรส ตามไปฟังได้ที่ link เพลงสดุดีมหาราชาค่ะ
ขอเดชะ องค์พระประมุข ภูมิพล
มิ่งขวัญ ปวงชน ประชาติไทย
มหาราช ขัตติยะ ภูวไนย
ดุจร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงประชา
ขอเดชะ องสมเด็จพระราชินี
คู่บุญ บารมี จักรีเกริกฟ้า
องค์สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มหาราชา
ข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี
แตน ตะละแล้นแตนแต่น แต๊น แต่นแตน แต๊น แต๊นๆๆ.
.........
เดี๋ยวค่ะ พี่น้อง คะ ไอ้แตน ๆ นั่นน่ะ อย่าคิดว่าเป็นเสียงดนตรีไม่ใช่เลยค่ะ แต่เป็นเสียงของเธอ คนเดียว โดด ๆ ร้องท่อนดนตรี ดัง ผ่านไมโครโฟน ขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ..และ...ตื่นตะลึง ของคนทั้งอำเภอ ผู้หลักผู้ใหญ่หันหน้ามามองกันเลิ่กลั่ก บ้างก็อมยิ้ม
............
ทะแลม ทะแลม ทะแลม
..............
เอ้าแถมก่อนจบ ... ด้วยสปิริต The show must go on เธอก็ร้องต่อจนจบ ... แต่พอจบงานพิธี อย่างไม่รอให้ใครท้วงทักถาม ... เธอก็เผ่นแน่บ..ไม่เหลียวหลัง... และไม่ยอมเป็นต้นเสียงให้กับเพลง ไม่ว่าเพลงไหน..อีกเลย...
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ...ก่อนออกงานใดๆ ก็ตาม เตรียมตัวให้พร้อม .. ซักซ้อมให้ดี..ซ้อมไว้ ซ้อมไว้ แม้กระทั่งเพลงที่คุณคิดว่า ชัวร์สุด ๆท่อนไหน ไม่ควรร้อง ก็อย่า พร่ำพิไรร้อง นะคะ อย่างท่อนอินโทร ...เอิ้ก ๆๆๆ
เอ้า ถ้ายังไม่ Get ก็ตามไปฟังที่ link แล้วเดาเอาเอนะคะ ว่าเธอ ร้องท่อนไหน ..อ้อ ..ลองร้องตามก็ได้ ..ได้อารมณ์ดีค่ะ.. อิอิอิ...............
สวัสดีค่ะ อ.ขจิตขจิต ฝอยทอง
The amazing thing about the human brain is the way it starts working as soon as you're born and stops the minute you are called to speak in public.
ฝากถามอ.ขจิต วิทยากรคนเก่งด้วยค่ะ ว่าเคยเป็นแบบนี้มั้ยค่ะ อิอิ
น้องฝุ่นดาวขาstardust
คุณ อัยการชาวเกาะ