การเขียนบันทึกที่ดี เป็นอย่างไร .. คำถามนี้ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
แต่ .. ผมจะขอใช้ "ประสบการณ์ในการอ่านและการเขียนในรอบ 3 เดือนแรก" นี้ มาลองตอบปัญหานี้ดูนะครับ
การจะเขียนบันทึกสักเรื่อง ผมก็คิดแล้วคิดอีก แต่โดยส่วนใหญ่ จะเลือกเรื่องที่เป็น "ประสบการณ์ตรง" ที่ผมได้รับ เช่น
หรือ เป็นเรื่องราวที่ผม สงสัย ใคร่รู้ คือ ไม่รู้เรื่องกับเขา เช่น
การเขียน .. ต้องสมาธิในการเขียนอย่างมาก ... เขียนบันทึกอาจจะใช้เวลาเกิน 1 ชั่วโมง เหมือนต้องใช้สมองตัวเองอย่างมากในการประมวลความคิด ... เขียนเสร็จจะล้าและอ่อนเพลีย จนต้องไปหาเครื่องดื่มชูกำลังมากินสักขวด (เปรียบเปรย)
ดังนั้น จากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสอ่านบันทึก และเขียนบันทึก ไม่ว่าจะเป็นของตัวเอง ของกัลยาณมิตร หรือของท่านอื่น ๆ ใน Gotoknow ทำให้ผมลองเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ในความคิด แล้วลองนำมาวิเคราะห์ตามความคิดเห็นของตัวเองให้ท่านลองพิจารณากันดู
ซึ่งสำหรับผมแล้ว การเขียนบันทึกที่ดี ๆ หมายถึง ...
และบันทึกที่ไม่ดี ไม่น่าสนใจ ในความคิดส่วนตัวของผม คือ
พอก่อนนะครับ ... 3 เดือน ได้มาแค่นี้แหละ ชักเริ่มเครียด ... เขียนไป ก็จะไปโดนใครเข้า ... จะเสียบรรยากาศกันเปล่า
แต่ขอถือเป็นแค่ "ความคิดส่วนตัว" ของคน ๆ หนึ่งนะครับ ... ถ้ามีอะไรอยู่ในหัวสมองขี้เลื่อยของผมอีกในภายหลัง จะมาเพิ่มเติมให้นะครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่าน
บุญรักษา .. คนดีทุกท่านนะครับ
:)
บันทึกหน้านี้ ต่อจาก ... (เรียงตามลำดับการบันทึก)
สวัสดีคะ อาจารย์
กำลังย้อนมองดู วิธีการเขียนบันทึก ของตัวเองทีละข้อ ทีละข้อ ตามที่อาจารย์เขียนไว้....ว่าเข้าข่ายบันทึกที่ไม่ดี ไม่น่าสนใจหรือไม่
ทุกครั้งที่เขียนบันทึกรู้สึกเหมือนใช้พลังไปพะเลอเกวียน...คิดนาน เขียนนาน ทั้งๆ ที่ไม่อยากหายไปจากบล็อกนานๆ แต่ถ้าคิดไม่ออก ไม่มีข้อมูลในสมอง กลั่นออกมาไม่ได้ ก็ได้แต่อ่านของคนอื่นไปเรื่อยๆ เก็บเกี่ยวความรู้ไว้รอถึงวันเกิดของบันทึกตัวเองในแต่ละเรื่องคะ
ตั้งใจไว้ว่าจะคิดให้ไวขึ้น อ่านให้ไวขึ้น และเขียนให้ไวขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้ในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ในไม่ช้า...แน่นอน
ขอบคุณมากคะ
---^.^---
สวัสดีค่ะ..อ.วสวัสดีมาร
"...แหม อาจารย์ไม่ต้องเยี่ยมบันทึกผมทุกวันก็ได้ครับ บางที ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า จะเขียนอะไรดี .. ผมถือว่าการเขียนเป็นการฝึกฝนตนเองครับ ...คิดแล้วกลั่นกรอง ประมวล เรียงลำดับความคิด แล้วค่อยเขียน ... เชื่อไหมครับว่า กว่าจะเขียนได้สักบันทึก ก็เหนื่อยครับ เตรียมการกันนานกว่าจะเขียนออกมาได้..."
ควรเขียนบันทึกจากประสบการณ์ตรง (ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ การมองเห็น การได้ยิน การรับรส การได้กลิ่น และการสัมผัส) เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ต่างความคิด ต่างมุมมอง นี่เป็นเสน่ห์ที่สุด
สวัสดีครับ ... น้อง พิมพ์ดีด
ที่น้องบอกว่า "ตั้งใจไว้ว่าจะคิดให้ไวขึ้น อ่านให้ไวขึ้น และเขียนให้ไวขึ้น"
แหม ... ถ้าทุกคนเป็นเหมือนกันแบบนั้นก็ดีซิครับ แสดงว่า เป็นคนสมองดี มีไหวพริบ คิดไว ตอบไว แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่ ใช่ไหมครับ ... มนุษย์มีความแตกต่างระหว่างบุคคล มีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน มีความสามารถแตกต่างกันไปคนละด้านเนาะ
แต่ยังไง ... ก็ให้กำลังใจนะครับ ขอให้เป็นไปตามใจปรารถนานะครับ ถ้าคิดว่า สิ่งนั้นดีจริงสำหรับตัวเอง
ขอบคุณมาก ๆ เลย
บุญรักษา คนดี ครับ :)
สวัสดีครับ ... ท่านอาจารย์ วัชราภรณ์ วัตรสุข
ยังไงก็ขอบคุณมากครับที่แวะมาให้ความเห็นเสมอ
บุญรักษา คนดี ครับ
สวัสดีครับ ท่าน Wasawat Deemarn
ช่วงนี้ผมเองรู้สึกล้ามากๆครับ ก็เลยว่างเว้นการเขียนบันทึกไป แต่ก็เข้ามาอ่านบันทึกของท่านบ่อยๆ ช่วงหลังเพิ่มความเข้มข้นขึ้นมาเรื่อยๆ น่าสนใจมากครับ
ผมเองให้ความสำคัญกับบันทึกผมมาก แต่ก็นั่นอีกหละครับ ผมแบ่งบลอกผมออกเป็น ๔ แนว แต่ละแนวก็แตกต่างกัน มีส่วนที่เขียนงานเขียนความคิดออกมา และมีส่วนที่เป็นเรื่องเบาๆอยากเขียนอะไรก็เขียน รวมถึงบันทึกธรรมะติดปีกแบบผมด้วย...
และให้ความสำคัญในการตอบด้วยครับ เป็นการให้เกียรติคนมาให้ข้อเสนอแนะ รวมถึงเกิดการต่อบอดความรู้ที่ได้ประโยชน์โดยส่วนรวม
อย่างที่บอกว่าผมชอบคนที่สมาร์ทโดยเฉพาะความคิด ชอบคนที่กล้าคิดในมุมที่เขาคิดและแสดงออกมา โดยมีเนื้อหา บริบทสนับสนุน บันทึกแบบนี้เป็นบันทึกที่ผมชื่นชอบมากครับ
แต่ทุกอย่างคือการพัฒนาครับ
ดังนั้นวันนี้เขียนได้ดีเท่านี้ ผมคิดว่าเราควรพัฒนาไปเรื่อยๆ เหมือนงานวิจัย ที่นำไปสู่การตอบโจทย์ระดับสังคมใหญ่ได้ ผมหวังถึงขนาดนั้นเลย
และผมเชื่อว่า วิธีคิดแบบตรงไปตรงมาแบบ วสวัสดีมาร ในอนาคตเป็นการระดมพลังทางสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง แบบพลังบวก พลังปัญญาครับ
ขอชื่นชมและให้กำลังใจครับ
สวัสดีครับ ... คุณเอก
ขอบคุณมากครับ คุณเอก สำหรับกำลังใจที่ฝากไว้ให้ แต่ห้ามคาดหวังว่า จะพัฒนาดีขึ้นนะครับ อาจจะพัฒนาลงก็ได้ ใครจะรู้ 5555
เห็นด้วยในหลายประเด็นครับ โดยส่วนตัวผม ผมชอบบันทึกที่มีลักษณะดังนี้
1.ไม่ยาวมาก (ผมเจอบางคนที่เขียนสั้นแต่ work เช่น อาจารย์เต็มศักดิ์)
2.ใช้สำนวนที่เป็นตัวของตัวเอง (ผมชอบของอาจารย์สกล pheonix)
3.เนื้อหาแสดง fact และ ความเห็นที่แยกกันให้ชัดเจน เพราะบางครั้งเขียนจนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร
4.สุดท้ายคือ ไม่ตัดสินอะไรจนเกินไป
หลายบันทึกน่าสนใจมากในบันทึกของ อาจารย์ Wasawat Deemarn
ยินดีรู้จักครับ
ขอบคุณ คุณหมอโรจน์ ครับ :)
ขอบคุณที่ให้เกียรติ ครับ