โรงเรียนของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผนกอนุบาล
ไม่ได้อยู่ในกระแสความนิยมของคนส่วนใหญ่ในเมืองนี้
ด้วยไม่ได้สอนเขียนอ่านตั้งแต่อยู่ในวัยแรกเรียน
และไม่ได้เขียน A B C D ตั้งแต่ยังพูดได้ไม่ครบเสียง
ผู้ร่วมคิด ร่วมสร้าง เด็กๆ ของเรา
จึงมีเพียงผู้ที่เห็นประโยชน์ของการดูแลเด็กให้เติบโตตามวัย
ให้ได้เรียนรู้ ได้ลงมือปฏิบัติผ่านประสบการณ์อย่างมีความสุข
ให้ได้รับการบ่มเพาะ จิตใจ ความคิด อันเป็นฐานของการเรียนรู้ชีวิตที่ยั่งยืน
และสามารถมองเห็น สามารถรอคอย ผลของการเรียน
ที่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในแต่ละวัน จนมั่นใจในวิถีของการดูแลร่วมกัน
วิถีของการเชื่อมั่นว่า “เด็กทำอะไร ได้มากกว่าที่คิด”
ก่อให้เกิดความวางใจและให้เด็กลงมือทำในสิ่งที่ใครอื่นคิดว่าเด็กจะทำไม่ได้
จึงมีเรื่องราวมากมาย ที่เกินความคาดหมายของผู้ได้พบเห็น
เช่นในเช้าวันหนึ่ง.. ที่เด็กๆ อนุบาลซักซ้อมการเดินขบวนเพื่อจะแข่งกีฬาสี
ภาพของเด็กตัวน้อย เดินตามกัน..ตามจังหวะเป่านกหวีดเสียงปริ๊ด..ปรี๊..ปริ๊ด
ดึงดูดให้ฉันก้าวเดินออกจากห้องทำงานไปยืนดู
เพื่อจะพบว่า.. เสียง ปริ๊ด..ปรี๊..ปริ๊ด.. ปรี๊ด..ปรี๊..ปริ๊ด...แหลมใส เป็นจังหวะชัดเจนนั้น
มาจากเจ้าตัวเล็กวัยซน ที่ตั้งใจทำหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็ง..!!!
<div style="text-align: center"></div>
</span><p></p><p>และด้วยความเชื่อมั่นในพลังการเรียนรู้ของเด็ก
คุณครูจึงมีเรื่องราวที่หลากหลาย ทั้งเชิงลึก เชิงกว้าง มาชวนกันคิด ชวนกันดู ในหมู่เด็กๆ
ทำให้ได้พบกับคำถาม ที่ครูต้องคิดต่อ..ต้องค้นคว้ากันเป็นการใหญ่
เพื่อจะได้ตอบคำถามอย่างถูกต้อง และบางครั้งก็ใช้ศัพท์วิชาการกันจริงจัง </p><p></p><p>คุณครู…
ทำไม่สัตว์บางตัวมีหาง..บางตัวไม่มีหาง
ทำไมสุนัขไม่ใส่รองเท้า
ทำไมทุเรียนจึงมีหนาม
ทำไมเข็มนาฬิกาเดินวนขวา..ไม่เดินวนซ้าย
ทำไมผลไม้ถึงมีสีต่างๆ กัน
ทำไมปลวกถึงชอบกินไม้
ทำไมเครื่องบินถึงบินได้เหมือนนก
ทำไมหมอกถึงมีสีขาว
ฮิปโป..ดำน้ำได้ลึกแค่ไหน
แล้วสัตว์ เกิดมาจากอะไร…ฯลฯ </p><p></p><p>และด้วยการเรียนรู้เช่นนี้ บางทีก็มีเรื่องราวให้ได้ขบคิดหาวิธีตอบ..</p><p></p><p>หลังจากที่คุณครูประจำชั้นอนุบาล 3 ท่านหนึ่ง
เริ่มสวมชุดคลุมท้องเป็นวันแรกในวันเปิดภาคเรียนที่สอง
คุณครูรู้สึกว่า..เด่เด๊..เด็กชายตัวเล็ก ผู้คล่องแคล่ว ช่างคิด..ช่างถาม
เฝ้ามองดูคุณครูตั้งแต่เช้า อย่างไม่วางตา
ก็เพียงคิดว่า คงชื่นชอบชุดสวยที่สดใสกว่าทุกวันที่ผ่านมา </p><p>จนถึงตอนเย็น..
เด่เด๊..เดินเข้ามาหาคุณครูด้วยหน้าตาครุ่นคิด..จริงจัง..
ตามด้วยคำถามว่า..
คุณครูครับ... ปิดเทอมแค่ยี่สิบวันเอง.. คุณครูไปผสมพันธุ์กับใครมาเหรอครับ..!!!!! </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ช่วยด้วย...ใครก็ได้..ช่วยตอบที....</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><div style="text-align: center"></div> <p> </p>
สวัสดีครับ
เรื่องเล่าอาจารย์มีคุณค่าต่อผมมากนะครับ
เพราะตอนนี้เลี่ยงลูกเองที่บ้านครับ
ผมเริ่มแปลกใจมากที่มักมีคนถามว่า เอาลูกเข้าโรงเรียนที่ไหน หรือเข้าหรือยัง
แต่ผมก็ตอบแบบภูมิใจมากครับ ว่าลูกผมจะเรียนที่บ้าน เรียนกับคุณยายที่เคยเป็นครู และเรียนกับพ่อแม่
เรียนกับอื่นๆอีกมากมายครับ
ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะให้เข้าเรียนเมื่อใหร่ครับ
อาจจะได้ขอคำแนะนำอาจารย์ครับ
แนวทางของท่านเป็นสิ่งที่ถูกต้องนะครับ ผมเชื่อ
วันหน้าผู้คนอาจจะหวนกลับมาก็ได้ครับ เพราะตอนนี้ก็เริ่มมาแบบนี้บ้างแล้วครับ อาจจะต้องระกระแสอีกเล็กน้อยครับ
เป็นกำลัใจให้คุณครูครับ
อิอิ...
ตอบไม่ได้สักข้อ...
คุณครู...
ทำไมสัตว์บางตัวมีหาง..บางตัวไม่มีหาง
ทำไมสุนัขไม่ใส่รองเท้า
ทำไมทุเรียนจึงมีหนาม
ทำไมเข็มนาฬิกาเดินวนขวา..ไม่เดินวนซ้าย
ทำไมผลไม้ถึงมีสีต่างๆ กัน
ทำไมปลวกถึงชอบกินไม้
ทำไมเครื่องบินถึงบินได้เหมือนนก
ทำไมหมอกถึงมีสีขาว
ฮิปโป..ดำน้ำได้ลึกแค่ไหน
แล้วสัตว์ เกิดมาจากอะไร
คุณครูครับ... ปิดเทอมแค่ยี่สิบวันเอง.. คุณครูไปผสมพันธุ์กับใครมาเหรอครับ
ขอไปเป็นเด็กอนุบาลด้วยคนค่า...อิอิ
สวัสดีครับ คุณครูที่น่ารัก dd_L
มาขออนุญาตินำข้อความดีๆไปรวมในรวมตะกอนครับ ขอบคุณมากครับ
ครูพี่อึ่งขา
ต้อมตามน้องขวดคนข้างบนมา อิอิ ต้อมชอบความสดใส ไร้เดียงสา ของเด็กๆ ค่ะ ความคิดของพวกเขาน่ารัก บางครั้งอาจจะถูกหรือผิด
..............................................................................
เด่เด๊..เดินเข้ามาหาคุณครูด้วยหน้าตาครุ่นคิด..จริงจัง..
ตามด้วยคำถามว่า..
คุณครูครับ... ปิดเทอมแค่ยี่สิบวันเอง.. คุณครูไปผสมพันธุ์กับใครมาเหรอครับ..!!!!!
.................................................................................
เจ้าเด็กน้อยนี้คงตั้งใจชมคุณครูว่า "สวย" น่ะค่ะ แต่ที่เขาเรียนรู้มาอาจจะเป็น นกยูงเวลาหาคู่จะรำแพนสวยงาม อิอิ ต้อมอยากไปเป็นเด็กอนุบาลมั่ง
ถ้าเริ่มที่ทำไม..สนุกแน่
ทำไม ถึงอิอิ
หรือ อิอิ ทำไม
เด็กรุ่นนี้โตไป เก่งแน่ๆ
สวัสดีค่ะคุณครูอึ่ง
อึ้งกับคำถามเด็กๆ ค่ะ บางครั้งสอน หรืออธิบายในกรณีหนึ่ง แต่ก็เอาไปใช้กับอีกกรณีหนึ่ง ... น่าจะนับว่าเป็นความฉลาดของเด็กที่รู้จะ apply ... อิอิอิ
คำตอบคงจะตอบยาก แต่สิ่งแรกที่คิดจะทำ ให้ต้องอธิบายคำว่าผสมพันธุ์ก่อนค่ะ ว่าคำนี้ไม่ควรใช้กับคน แต่ใช้กับสัตว์...อิอิ
สวัสดค่ะครูพี่อึ่ง
คุณครูครับ... ปิดเทอมแค่ยี่สิบวันเอง.. คุณครูไปผสมพันธุ์กับใครมาเหรอครับ อ่านแล้วถึงกับปล่อยก๊าก (ดีนะคนนอกห้องเขานอนกันหมดแล้ว)
ต้องยกให้เป็นเจ้าหนูจำไม..แล้วตกลงมีใครให้คำตอบหรือยังคะ
คิดถึงค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูดวงพร
วนมาอ่านบันทึกนี้สี่รอบแล้วก็ยังตอบไม่ถูกอยู่ดีอะค่ะ คำถามของเด็กๆน่าทึ่งจริงๆ
แอมแปร์เคยงงสุดขีดอยู่หลายหนเมื่อเจอคำถามหลาน โดยเฉพาะคำถามแบบพิเศษ : ) เลยต้องบอกเขาว่า "เอาไว้โตขึ้นแล้วลูกจะเข้าใจ" หรือไม่ก็เบนความสนใจเขาไปเลย หลานจะรู้ทันรึปล่าวก็ไม่ทราบนะคะ แต่น้าหมดมุกจริงๆอะค่ะ : ) : )
มีความน่ารัก สดใสของเด็ก ๆ มาฝาก คำถามที่ไม่มีคำตอบรอให้กาลเวลาผ่านอีกซักหน่อยเถอะ หมูเคยเจอคำถาม ท้องลูกคนแรกท้องโตมากประมาณ 8 เดือนไปซื้อของ กำลังเดินเข้าคิวชำระเงิน มีเด็กผู้หญิงวัยประมาณเด็ก ๆ คุณอึ่งละค่ะเขามากับคุณแม่ยืนอยู่เข้าคิวชำระเงินต่อจากหมู เขาจะเดินมายืนมองหน้าหมูและมองท้องโต เดินไประหว่างหมูกับแม่เขา หมูก็ส่งยิ้มหวานและทักว่าสวัสดีคะ เด็กไม่ตอบหน้าไม่ยิ้มก็เดินกลับไปหาแม่ ทำอย่างนี้อยู่ 3 หน จนครั้งที่ 4 เขาคงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าเขาต้องถามสิ่งที่เขาสงสัยให้ได้ คำถามที่ถามหมู "น้าใส่กางเกงในหรือเปล่า"พูดแล้วยังเอานิ้วมือเล็ก ๆ มาจิ้มชี้ที่ท้องหมูทั้งงงทั้งตกใจ แต่ก็ตอบไปอย่างปกติว่า"ใส่คะ" คุณแม่เขาก็อยู่ใกล้ ๆ ก็ได้ยินดุลูกใหญ่เลยว่าทำไมพูดอย่างนั้น หมูไม่ทันจะเอ่ยกับแม่เขาว่า .. เด็กก็ท่าทางไม่ยอมตอบแม่ทันที"ท้องน้าเขาโตมากมีกางเกงในด้วยเหรอ" เป็นความสงสัยที่น่ารักของเด็ก ๆ น้ากับแม่เลยต้องอธิบายกันต่อ อิ อิ อิ
สวัสดีค่ะ คุณ สิทธิรักษ์
ภาพเด็กๆน่ารักมากค่ะ ดูตั้งอกตั้งใจมาก
คำถามของเขาซื่อๆดีนะคะ เป็นคำถามที่ผู้ใหญ่นึกไม่ถึง ทำให้ได้หัวเราะ เรื่องของอาจารย์หมูก็ตลกนะคะ
เอก co.21
มาตามเด่เด๊ค่ะ
สวัสดี..พี่อึ่งที่รัก
ฟังเรื่องเล่าทีแรกก็หัวเราะจนท้องแข็ง มาอ่านเองอีกครั้ง ก็ยังขำและทึ่งทบทวนตัวเองว่าตอนเด็กๆ เราเคยตั้งคำถามทำไม ทำไม และทำไม บ้างไหม แต่ก็จำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าเวลานี้ ต้องเฝ้าคอยให้เด็กๆ ในห้องเรียนของหนูถามคำถาม ซึ่งมีน้อยมาก เวลาที่ผ่ามาในโรงเรียนทำลายคำถามของเด็กเกือบหมด ...น่าเศร้าจริง
สวัสดีครับพี่อึ่ง
ได้ฟังพี่อึ่งเล่าเรื่องข้างบนเมื่อวานนี้ตอนเราเดินทางกลับจากบ้านมกราด้วยกัน วันนี้มาอ่านพร้อมภาพประกอบ สนุกดีครับ
ถ้าอ่านฝ่ายเดียวดูจะเอาเปรียบไปหน่อย เลยขอเล่าเพื่อแลกเปลี่ยนบ้างครับ
ผมมีหลานชายอยู่คนหนึ่งที่สนิทกันมาก ตอนนี้อายุได้ 5 ขวบแล้ว และในวันเกิดของผมในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็ได้แวะไปเยี่ยมหลานชายคนนี้ แล้วตอนที่พ่อแม่เค้าเอาของขวัญวันเกิดให้กับผมโดยให้คุณหลานเป็นผู้มอบให้และผมก็แกะห่อของขวัญเพื่อจะดูว่าข้างในมีอะไร
กระดาษห่อของขวัญถูกฉีกออกทำให้เห็นกล่องที่อยู่ข้างใน
เป็นกล่องเหล้ายี่ห้อหนึ่งครับ
พอเห็นดังนั้น คุณหลานสุดที่รักก็หันหน้ามาถามพวกเราที่อยู่ตรงนั้นทันทีว่า "มีประโยชน์รึปล่าวเนี่ย?"
ตอบไม่ทันครับ เพราะมัวแต่หัวเราะกับคำถามนี้ แล้วพอผมเอาของที่อยู่ข้างในกล่องออกมาให้เค้าได้เห็นว่าเป็นเสื้อเชิ๊ต เค้าก็พูดขึ้นมาเองว่า "อ่อ แล้วไป"
... เรื่องที่เล่าน่าจะเข้ากับเรื่องที่พี่อึ่งเจอมานะครับ เพราะเราต่างก็ได้เห็นแล้วว่า เด็กๆ คิดและทำได้มากกว่าที่พวกเราคิดไว้เสียอีก