เย็นวันนี้ ( ๙ ธันวาคม ๒๕๕๐) ผมได้รับเชิญให้ไปร่วมงานในพิธีมงคลสมรสของบ่าวสาวคู่หนึ่งที่โรงแรมไพลิน เจ้าบ่าวเป็นนายแพทย์อยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก เจ้าสาวเป็นนักวิชาการสาธารณสุขอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร ทั้งคู่อยู่ในวัยไม่เกิน ๒๗ ปี น่ารักสมวัย โดยเฉพาะเจ้าบ่าว หล่อน่ารักในทุกมุมมอง ทราบว่าพยาบาลสาวๆที่โรงพยาบาลอกหักไปตามๆกัน.....ผมยังคิดเล่นๆว่า ถ้าผมเป็นนายแพทย์ท่านนั้น ผมคงยังไม่ตัดสินใจแต่งงานเป็นแน่ ผมคิดว่าการเกิดมาเป็นผู้ชายก็เพื่อเป็นที่รักของผู้หญิงทุกคน ชีวิตจะมีคุณค่ามากในสายตา ความรู้สึกดีๆ จากผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ชีวิตจึงเป็นของใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้..หากชีวิตต้องถูกรั้งหยุดอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง ส่วนที่เหลือเขาจะสูญเสียความรัก น้ำตาที่ต้องหลั่ง ความรู้สึกที่เคยมี และในที่สุด ชีวิตก็เหมือนสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกกักบริเวณ... แล้วผมก็ตื่นจากความคิดนั้น เพราะโลกแห่งความเป็นจริงนายแพทย์ท่านนั้นกำลังทำให้ผู้หญิงหลายๆคนที่แอบปลื้มร้องไห้....
ความรักเป็นสิ่งงดงามและมีค่าต่อชีวิต คนเราจึงมีจิตใจใฝ่ให้มีคนรัก และให้ความรักแก่คนอื่น หลายท่านอาจให้นิยามความหมายของความรักไว้อย่างที่ใจอยากจะให้ เช่น ความรักคือการมีเวลาอยู่ด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน พูดคุยกัน คนรักกันย่อมมีเวลาให้กันและกันได้เสมอ ความรักเป็นความสุขที่เกิดจากการกระทำสิ่งพิเศษให้แก่กัน เช่น ของขวัญ แทนใจในวันเกิด วันแห่งความสำเร็จในชีวิต ความรักคือความห่วงใยและการร่วมชีวิต (Love is to care,love is to share) เหมือนเราเป็นหุ้นชีวิตกัน ต้องลงทุนชีวิต จิตใจ เป็นลมหายใจของกันและกัน คำที่เหมาะสมของชีวิตคู่ คือ การร่วมทุกข์ร่วมสุข เป็นต้น ผมอ่านหนังสือเรื่อง เวลาแห่งรอยยิ้มของ อ้อม ประนอม ได้กล่าวถึงช่วงวัยแห่งการครองชีวิตคู่ มี ๕ ช่วงวัย กล่าวคือ ช่วงแห่งการร่วมรัก รัดรึงด้วยความรักแบบเสน่หา คือช่วงแรกของการแต่งงาน สุขสนานเบิกบานใจ บางครั้งกลายเป็นความยึดติด หรือหลงไปบ้าง ช่วงการเรียนรู้มองเห็นความจริง ว่าชีวิตคู่อยู่กันมีทุกข์ มีสุข ขัดแย้งทางความคิด รสนิยม เพราะเราเป็นคนต่างจิตต่างใจ มาจากคนละครอบครัวกัน จะต้องปรับตัวอย่างมาก ช่วงการอยู่อย่างรับผิดชอบ รอบคอบเพราะมีลูกเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นในการวางแผนบริหารชีวิตและครอบครัว ลูกคือความหวัง คือพลังใจแก่เรา แต่สิ่งสำคัญเราต้องเลี้ยงอย่างดี เงินทองจึงมีบทบาทสำคัญ ช่วงอยู่อย่างผูกมัด จัดระบบชีวิต ลูกโตขึ้น รายจ่ายมากขึ้น งานหนักขึ้นจึงต้องจัดการบริหารการเงิน บริหารงาน รวมทั้งการบริหารตนเอง วางตนอย่างไรจึงจะดี เพื่อเตรียมเงินไว้เพื่อการศึกษาของลูก ชีวิตคือการแก้ปัญหา ช่วงอยู่อย่างราบรื่น ภาระหนักลดลงเมื่อลูกสำเร็จการศึกษามีงานทำ ช่วงนี้น่าจะเป็นเวลาพักผ่อนอยู่กับบ้านและงานสังคม
การมีชีวิตคู่จึงไม่ใช่ของง่ายที่ใครอยากจะหามีหาได้ ในเร็ววัน เมื่อมาเร็วก็อาจไปเร็ว เมื่อช้าก็อาจจะสายไป ความพอเหมาะลงตัวสำหรับชีวิตที่ต้องตัดสินใจ ชีวิตคู่ได้อยู่กันตามลำดับจนกลายเป็นเพื่อนคู่ชีวิต คู่ทุกข์คู่ยากอยู่เป็นกำลังใจ คอยปลุก คอยปลอบใจอย่างกัลยาณมิตรในเรือนเรา ดังคำที่กล่าวว่า “เสื้อผ้าเก่าไม่ดี แต่เพื่อนและภรรยายิ่งเก่ายิ่งดี” อย่างไรก็ตามหลายคนก็ยังมีความรู้สึกว่าการที่ชีวิตยังมีอิสรภาพ ไม่ต้องการให้ใครมาเป็นเจ้าชีวิต คอยบงการความเป็นตัวตนในทุกเรื่อง เป็นหนทางแห่งสวรรค์ใช่นรกอเวจี ก็แล้วแต่มุมมองจะคิด...สวัสดีครับ.สวัสดีครับ Padaeng
ขอบคุณนะครับที่กรุณามาเยี่ยม สังคมปัจจุบันคนมีความคิดที่แปลกต่างไปจากสังคมไทยสมัยก่อน..การมีชีวิตอยู่ของคนหนุ่มสาวบางกลุ่มมีชีวิตอย่างไร้เป้าหมายในชีวิตอนาคต ขออยู่กับปัจจุบัน ปัญหาสังคมจึงเกิดมีขึ้นมากมาย โดยเฉพาะปัญหาความร้าวฉานทางเพศของคนสองคน..โอกาสหน้ามาคุยกันใหม่นะครับ..สวัสดีครับ.
สวัสดีครับคุณครูสกาย
ถูกต้องแล้วครับชีวิตคู่ของคนสองคนต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน จึงจะทำให้ชีวิตคู่อยู่อย่างอบอุ่นและราบรื่น ผมชื่นชมคุณครูสกายกับคุณครูสุรพลนะครับที่มีชีวิตครอบครัวแสนจะน่ารัก เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้จะมีครอบครัวใหม่
ขอบคุณนะครับกับข้อคิดดีๆที่เพิ่มเติมให้..สวัสดีครับ.