ด้วยรอยยิ้มและน้ำตา...ประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น


 วันนี้ 7 ธันวาคม 2550 เป็นวันประกาศผลการสอบเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยวิธีรับตรง (หรือ ที่เราเรียกง่ายๆ สั้นๆ ว่า สอบโควต้า) ของนักเรียนที่อยู่ในภาคอิสาน 19 จังหวัดค่ะ ปีนี้มีพิเศษคือ ในการสอบคัดเลือกที่จัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นในครั้งนี้ นักเรียนสามารถเลือก ม.แม่ฟ้าหลวง และ ม.สงขลานครินทร์ ได้ด้วยค่ะ 

หลังจากที่นักเรียนและผู้ปกครองต่างลุ้นมาโดยตลอดหลังการสอบเมื่อวันที่ 3-5 พฤศจิกายน 2550 ทุกคนต่างก็รอคอยผลที่จะประกาศในวันนี้ บางคนมานั่งลุ้นตั้งแต่เมื่อวาน บางคนมาแต่เช้ามืด เนื่องด้วยต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องที่สุดทั้งคะแนน และส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ มากมาย จึงไม่สามารถประกาศในช่วงเช้าได้ ... จึงทำให้ทั้งวันมีโทรศัพท์เข้ามาสอบถามข่าวคราวโดยตลอด ...  

และแล้วเมื่อเวลาประมาณบ่าย 4 โมง หลังจากที่ท่านรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการฯ ได้ลงนามในประกาศเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลผลการสอบจึงอัพโหลดขึ้น website ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ที่นี่ค่ะ http://reg1.kku.ac.th/2551/index.htm ) และประมาณบ่าย 4 โมงครึ่ง เราจึงสามารถนำใบประกาศผลที่ติดเรียบร้อยแล้วไปขึ้นบอร์ดที่เตรียมไว้ได้เรียบร้อย ที่นั่นมีนักเรียน ผู้ปกครองมารอดูผลมากมาย  

 

ณ ที่นั่น จึงเกิดทั้งรอยยิ้ม และน้ำตา หลังจากเบียดเสียดลุ้นดูรายชื่อ

  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ณ ที่ประกาศผลสอบ จึงเปรียบเสมือนเป็นที่ประกาศความสุข ความสมหวัง และความผิดหวัง ความเสียใจ... </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บางคนยิ้ม ร้องเสียงดัง…ด้วยความดีใจ ความสุข</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บางคนยิ้ม พร้อมน้ำตา… แห่งความดีใจ</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บางคนร้องไห้ พรำบ่น…ด้วยความผิดหวัง และเสียใจ</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บางคนทำหน้าเฉยเมย … หมดอาลัย </p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บางคนยิ้มแย้ม ยินดีกับเพื่อน แต่แอบร้องไห้ให้กับตัวเอง</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บางคนกอดให้กำลังใจเพื่อน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> บางคนกอดแสดงความยินดี </p><p>ส่วนความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับดิฉัน คือยินดีกับ เด็กๆ ที่สามารถสอบผ่านเข้าศึกษาได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สงสารเด็กๆ ที่ไม่สามารถสอบเข้าเรียนต่อได้ และอยากให้กำลังใจ  </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่ก็มีสิ่งที่อยากจะฝาก คือ</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สำหรับคนที่สอบไม่ได้ ว่า… ยังมีโอกาสในการสอบอีกครั้ง คือ สอบส่วนกลางที่จัดโดย สกอ. จึงควรตั้งสติ และเตรียมตัวสอบใหม่อีกครั้ง เพราะเท่าที่พบมีอีกหลายคน ที่ไม่สามารถผ่านครั้งนี้ได้ แต่ สามารถสอบได้ในโอกาสครั้งที่ 2</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หรือ ยังมีอีกหลายสถาบัน หรือแม้กระทั่งหลากหลายโปรแกรมที่เปิดรับเพิ่มเติม</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> และ สุดท้ายที่สำคัญ คือ ขอให้ผู้ปกครองที่ลูกสอบไม่ได้ กรุณาอย่าซ้ำเติมลูก แค่นี้เด็กๆก็เสียใจที่ผิดหวัง และทำให้พ่อแม่ผิดหวังมากอยู่แล้ว... โปรดจงให้กำลังใจลูกๆของท่าน เพื่อให้เขามีกำลังใจในการสอบแข่งขันครั้งต่อไป ...   </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สำหรับคนที่สอบได้ ว่า … เมื่อได้โอกาสเข้ามาศึกษาแล้ว ขอให้ตั้งใจ เรียนรู้ เอาใจใส่ต่อการเรียนอย่างเต็มที่ ... จำความรู้สึกที่ดีใจ สมหวัง ในวันนี้ไปเป็นพลังในการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย เพื่ออนาคตที่ตนเองหวังต่อไป...</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ <p> </p><p></p><p></p><p> </p>

หมายเลขบันทึก: 152116เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2007 20:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 18:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

สวัสดีค่ะP

เห็นภาพแล้ว  นึกถึงตัวเองตอนเด็กๆค่ะ

อ.แป๋วขา 

หนิงเคยมีวันแบบนี้ค่ะ  ดีใจมากมีแต่รอยยิ้ม  อิอิ  แต่พอวันรายงานตัวก็ต้องร้องไห้  คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ยอมไปรายงานตัว มข.ด้วยค่ะ 

ขอให้เรียนพยาบาล  ขอให้อยู่ในระบบหอใน 

เฮ้อ...อะไรจะหวงลูกสาวปานนั้น  (มีอะไรให้ห่วงหรือหวงซะ ) 555

สวัสดีค่ะพี่ศศินันท์

P   sasinanda

ใช่ค่ะ เห็นบรรยากาศ แล้วคิดถึงเมื่อครั้งประกาศผลเมื่อสมัยก่อน ไม่มี internet ด้วยค่ะ คราวนั้นมหาวิทยาลัยแจ้งผลไปยังโรงเรียนด้วยค่ะ ไม่ได้มาดูที่ มข. ... ความรู้สึกตอนนั้นดีใจมากๆ รีบกลับบ้านไปบอกแม่ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องหนิง

ไม่มีรูป   dss@msu

พี่หนะไม่เลือกพยาบาลเด็ดขาดค่ะ เพราะกลัวเข็มฉีดยา และกลัวผ...สระ อี... ก็บอกแม่ไว้เลยว่าไม่ขอสมัคร ไม่ขอสอบพยาบาลเด็ดขาดค่ะ ... ฉะนั้น พี่ชื่นชมคนที่เรียนพยาบาลมากๆๆค่ะ ยิ่งเมื่อมาเห็นพยาบาลทำงานแล้วยิ่งชื่นชมค่ะ

  • เห็นพี่พี่ มารอรับน้องกันแล้ว ครับ
  • คึกคัก คึกคัก
  • ปีหน้า อย่าสละสิทธิ เด้อ
  • สงสาร คนที่จ่อคิว แห้วเลย
  • ถ้าไม่ชอบก็ บ่ ต้องเข้าครับ
  • ไว้รอที่ชอบที่ชอบ(จริงๆ)

สวัสดีครับ

สนุกดีนะครับ ตื่นเต้นไปอีกแบบ

ตอนนั้นไม่ได้ไปดูที่มหาวิทยาลัย

ดูทางโทรทัศน์ แล้วโทรไปถามอีกรอบ

ห่างๆ ไปนาน พักหลังก็ไม่ได้คอยลุ้นใคร

พอเปลี่ยนระบบการสอน ก็ยิ่งงงๆ

สมัยนี้คงมีที่ให้เลือกเยอะขึ้นนะครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

P   JJ

อาจารย์สบายดีนะค่ะ

นี่ก็นั่งอยู่ที่สำนักฯ ค่ะ ได้ยินเสียงกลองตุ่ม ๆ รับน้องกันค่ะ คึกคักมาก ... เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะว่าเมื่อสอบติดแล้ว สละสิทธิ์ แล้วไม่สอบเรียนที่อื่น เพราะเท่ากับไปกันสิทธิ์คนอื่น ทำให้คนที่อยากเข้าเรียนไม่ได้เข้าเรียน

สวัสดีค่ะอาจารย์ธวัชชัย

 ไม่มีรูป  ธ วั ช ชั ย

สมัยที่ตัวเองสอบที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีแค่ 6 คณะเองค่ะ แต่เดี๋ยวนี้มี 18 คณะ กับ อีก 1 วิทยาลัยค่ะสามารถรับ นักศึกษาระดับปริญญาตรีได้ค่ะ

เดี๋ยวนักเรียนมีที่ให้เลือกเรียนได้หลากหลายมากๆค่ะ คนที่ยังเข้าไม่ได้คราวนี้ ท้ายที่สุดก็จะมีที่เรียนจนได้ค่ะ เพียงแต่อย่าท้อแท้และสิ้นหวัง

แต่เดี๋ยวนี้คงไม่บริการโทรถามผลแล้วนะค่ะ ส่วนใหญ่คงใช้วิธีการขึ้นเนทให้ตรวจสอบค่ะ ทันสมัยกว่ารุ่นเราเยอะมาก....อิอิ

 สวัสดีครับ อ.แป๋ว

  • ความสุข ความทุกข์ ก็คละเคล้ากันไป  เช่นนี้
  • โอกาสยังมี  อย่าช้า..วันเวลาไม่รีรอ
  • ฝากบอก ลูกๆทั้งหลายด้วย
  • ขอบคุณมากครับ
  • ขอยินดีกับผู้สอบได้
  • สงสารเด็กที่สอบไม่ได้
  • ทำอย่างไรเราจะไม่มีระบบแพ้คัดออกนะ
  • กลุ้มใจ
  • ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
  • ขอให้ผู้ที่สอบไม่ได้ ตั้งใจต่อไปมหาวิทยาลัยเปิดมีมากมาย
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับพี่แป๋ว

  • ขอแสดงความยินดีกับคนที่สอบได้ครับ และขอบอกว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้นครับ
  • ขอแสดงความยินดีกับคนที่สอบไม่ได้ด้วยครับ และขอบอกว่านี่ไม่ใช่หนทางสุดท้ายของการเรียนรู้ของชีวิตนี้
  • การเรียนในระดับอุดมศึกษานั้น ทางเดินเ้ส้นทางหลักนั้นคือการเรียนรู้ตัวเอง การค้นหาตัวเองให้เจอก่อนออกมาค้นหาในสังคมจริง ซึ่งนั่นคือการใช้ชีวิตในการเรียนอุดมศึกษาจำเป็นต้องเรียนรู้สังคมภายนอกด้วยเพื่อปรับอุณหภูมิของน้ำให้เท่าๆ กันก่อนกระโจนปล่อยปลาลงในบ่อใหม่
  • ขอให้ทุกคนมีความหวังครับ ไม่ว่ามหาวิทยาลัยเปิดหรือปิด ในหรือนอก บนหรือล่าง หรืออะไรก็แล้วแต่ ล้วนมีคุณค่าในตัวทั้งนั้น ทว่าิ่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ การรู้จักตัวเอง รู้จักสังคม รู้จักเส้นทางของการช่วยเหลือสังคม
  • และสุดท้ายที่อยากจะฝากคือ การเรียนรู้เกิดได้ทุกๆ ที่ ที่มีอากาศหายใจครับ
  • ขอบคุณมากครับ ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดีนะครับ
  • ขอบคุณพี่แป๋วครับ

 

สวัสดีค่ะ

 P   เกษตรยะลา

ใช่แล้วค่ะ หากยังมันนั่งเสียใจก็จะอ่านหนังสือเตรียมตัวสำหรับโอกาสใหม่ไม่ทันค่ะ ขอแต่เพียงให้อยากเรียน ยังมรที่เรียนอีกเยอะมากๆ ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ อ.ขจิต

เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ เชื่อแน่ว่านักเรียนต้องสนุกกับการเรียนมากๆ

"ทำอย่างไรเราจะไม่มีระบบแพ้คัดออกนะ"

เมื่อ supply กับ demand มีไม่เท่ากัน การแข่งขันก็ต้องมีเป็นธรรมดาค่ะ คิดว่าหากผู้ที่ไม่ได้สามารถทำใจ มีกำลังใจ และหาโอกาส สร้างโอกาสใหม่ ก็น่าจะไม่มีปัญหาค่ะ

 

ผมมองแง่ดีว่าเด็กๆพวกนี้กระหายอยากได้ความรู้  แต่ประตูที่จะรับนั้นมีน้อย  ทำอย่างไรจะให้เพียงพอ  บางท่านอาจว่าเด็กเหล่านั้นไม่ม่ความสามารถ  คงต้องคิดหนักว่ามาตราฐานการวัดนั้นแน่นอนหรือ

สวัสดีครับ

อ่านความเห็นของ อ. ขจิต แล้วนึกถึงเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์ อลิซกับบรรดาสัตว์น้อยใหญ่แข่งขันกัน แต่ :

"Everybody has won, and all must have prizes." ;) แบบนี้คงสนุกดี

สวัสดีค่ะน้องเม้ง

 

  • การเรียนในระดับอุดมศึกษานั้น ทางเดินเส้นทางหลักนั้นคือการเรียนรู้ตัวเอง การค้นหาตัวเองให้เจอก่อนออกมาค้นหาในสังคมจริง ซึ่งนั่นคือการใช้ชีวิตในการเรียนอุดมศึกษาจำเป็นต้องเรียนรู้สังคมภายนอกด้วยเพื่อปรับอุณหภูมิของน้ำให้เท่าๆ กันก่อนกระโจนปล่อยปลาลงในบ่อใหม่
  • ขอให้ทุกคนมีความหวังครับ ไม่ว่ามหาวิทยาลัยเปิดหรือปิด ในหรือนอก บนหรือล่าง หรืออะไรก็แล้วแต่ ล้วนมีคุณค่าในตัวทั้งนั้น ทว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ การรู้จักตัวเอง รู้จักสังคม รู้จักเส้นทางของการช่วยเหลือสังคม
  • และสุดท้ายที่อยากจะฝากคือ การเรียนรู้เกิดได้ทุกๆ ที่ ที่มีอากาศหายใจครับ
  • เป็นข้อคิดที่ดีมากๆค่ะ ขอบคุณน้องเม้งครับ

    มีนักเรียนคนหนึ่งร้องไห้มาก พี่จึงเข้าไปคุยปลอบใจและบอกว่ายังมีโอกาสอีก แต่นักเรียนบอกว่า "แต่แม่คงไม่เข้าใจ" ทำให้พี่รู้สึก และคิดว่า ลำพังตัวเด็กนักเรียน อาจจะทำใจได้ แต่พ่อแม่นี่ซิไม่รู้จะทำใจได้รึปล่าวเน๊าะ พอไม่ได้เลยทำให้ยิ่งเครียดหนักไปอีก บางคนก็กลัวพ่อแม่ว่า...บางคนก็เครียดกลัวพ่อแม่จะเสียใจ...

    สวัสดีค่ะลุงเอก

     P   ลุงเอก

    แป๋วมองว่า การสอบคัดเลือกตรงนี้ไม่ได้ว่า เด็กที่สอบไม่ได้นั้น ไม่ได้มาตรฐาน เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การเตรียมสอบไม่ดี ทำให้ทำข้อสอบไม่ได้ หรือเลือกคณะที่มีคนเก่งกว่ามีเยอะ แต่หากเลือกบางคณะที่คะแนนไม่สูงนักจะผ่านฉลุยแต่ไม่ได้เลือก

    ฉะนั้นเด็กๆ ที่สอบไม่ได้ จะบอกว่าไม่ได้มาตรฐานไม่ได้ค่ะ...ส่วนข้อสอบนั้นน่าจะสามารถใช้เป็นเครื่องการแข่งขันได้ระดับหนึ่งค่ะ ทุกคนแข่งด้วยข้อสอบเดียวกัน ดังนั้น ข้อสอบก็น่าจะเป็นเครื่องมือที่ดีได้ระดับหนึ่งค่ะ

    สวัสดีค่ะ อ.ธวัชชัย

     P   ธ.วั ช ชั ย

    ขอบคุณมากค่ะ

    "Everybody has won, and all must have prizes."

    สงสัยต้องไปหาเรื่อง อลิซมาอ่านซะแล้ว อ่านแล้วคงมีกำลังใจดีนะค่ะ

    555  กลับมาอีกรอบ  ขำกลิ้งเลยค่ะพี่แป๋ว

    หนิงเองตอนนั้น (ม.6 )  ก็ทั้งกลัวผีและกลัวเข็มฉีดยาค่ะ   จำได้ว่าตอนป่วย (ม.6) เข้ารพ.ด้วยทอลซิลอักเสบ  ซึ่งปกติในcase ที่เป็นมากๆ จะกลืนลำบากมาก  ถ้าโรงพยาบาลรับ admitted นั่นคือ  เพื่อนอนให้น้ำเกลือและฉีดยา

    หนิงยังร้องไห้วิ่งหนีพยาบาลรอบตึกเลยค่ะ  ดีว่าสมัยนั้นมีญาติเป็นหัวหน้าพยาบาลที่ตึก  เขาก็เลยช่วยพูดต่อรองกับหมอให้ว่า  เราจะพยายามกลืนยาและกินยาตามสั่งให้ครบ  เพราะยาฉีด-ยากินสรรพคุณเหมือนกัน  สัญญาด้วยว่าจะพยายามกินข้าวต้มหรือโจ๊กให้เยอะๆ  ขออย่างเดียวอย่าให้น้ำเกลือเราเพราะเรากินเองได้   (แม้ว่าจะต้องกลืนด้วยน้ำตา  เจ็บมากค่ะ )

    แต่พอเรียนพยาบาล  เป็น 4 ปีที่อะเมซิ่งมาก (สมัยนั้นเป็นคำที่ฮิต)  อะเมซิ่งตรงที่ว่า  ทำให้หนิงสามารถอยู่กับศพและเลือดได้สบายๆค่ะ   ส่วนเข็มฉีดยานี่   อิอิ  ฉีดคนอื่นได้  (มีคนชมว่ามือเบา)  แต่ถ้าจะให้คนอื่นเอาฉีดเรานี่  ทุกวันนี้....อึ๋ยยยยยยยย

    อะเมซิ่งจริงๆเนอะ  เวลา 4 ปีที่ออกจากบ้านไปอยู่หอพยาบาล จากคนขี้กลัว  ขี้แย  มาเป็นหนิงทุกวันนี้ได้ค่ะ

    อ้อ..ลืมบอกไปค่ะ  แล้วพอเรียนจบพยาบาล  หนิงก็กลายเป็นคนพิการ   อิอิ  มีอวัยวะไม่ครบไงคะ  รีบตัดทอลซิลทิ้งเลยค่ะ   เพราะเป็นโรคร้ายที่หนิงต้องผจญกรรม  ปีนึงๆ  ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง  ทรมานมาก  ต่อมทอลซิลก็โตมากจนกลืนลำบากทั้งตอนอักเสบและไม่อักเสบอ่ะค่ะ 

    หลายสิบปีมานี้  รู้สึกโล่งคอ  สบ๊าย..สบาย  อิอิ 

    • ฮือๆๆๆ
    • น่าสงสารพี่หนิง
    • ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ
    • เป็นโรคตัวโต
    • อิอิอิๆๆ

    สวัสดีค่ะน้องหนิง

     P

    น้องหนิงเก่ง ที่สามารถไปเรียนพยาบาลได้ในขณะที่กลัว  จนกระทั่งหายกลัวไปเลย แต่พี่ไม่ไหวค่ะ ใจไม่สู้จริงๆ ...ขอชูนิ้งหัวแม่มือให้กับคนเรียนพยาบาลค่ะ

    ตัดต่อมทอลซิลไปแล้ว มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันมั้ยค่ะ ....

     P

    อ.ขจิต ครับ

    ระวังนะครับ เดี๋ยวพี่หนิงใช้ตัวโตๆ เหวี่ยงคุณน้องขจิตปลิวนะครับ...อิอิ

    • สวัสดี อาจารย์แป๋ว ค่ะ..

    ต้อมไม่มีความทรงจำของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เลย    แต่ก็พอจะรู้สึกตามที่ได้เห็นเพื่อนหรือคนรู้จักบ้าง

    หายใจอึดอัดพิลึกกับสภาวการณ์แบบนี้   คือ ไม่รู้จะปลอบหรือร่วมแสดงความยินดีอย่างไรกับเด็กๆ ผู้ซึ่งผ่านกระบวนการเลือกสรร และผู้ที่พลาด

    อยากมีน้ำตาแห่งความดีใจไม่อยากน้ำตาแห่งความเสียใจ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท