ผลวิจัยฉี่คนใช้แทนปุ๋ยเคมีได้ผลดี


นักส่งเสริมการเกษตรณ.ปัจจุบันควรจะให้ความสนใจและยกระดับบทบาทหน้าที่เพื่อให้เกิดการพัฒนาสมรรถนะ

ผลวิจัยฉี่คนใช้แทนปุ๋ยเคมีหรือรดแทนน้ำได้ผลผลิตดี

ก่อนอื่นกระผมขอทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า ใจจริงอยากจะนำเสนอผลการวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเกษตร ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรในระดับปฏิบัติการ หรือชุมชนเกษตร กลุ่มอาชีพทางการเกษตรและเกษตรกร โดยเฉพาะเป็นองค์ความรู้ที่นักส่งเสริมการเกษตร ณ.ปัจจุบันควรจะให้ความสนใจและยกระดับในบทบาทหน้าที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาสมรรถนะ(Competency) ของนักส่งเสริมการเกษตร เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการทำงาน เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำต่ออปท. ในการถ่ายโอนภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตรแก่อปท..ทั้งปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

           จากการศึกษาของคณะวิจัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำโดย รศ.ดร.อานัฐ ตันโช ผู้เชี่ยวชาญการผลิตปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดิน ซึ่งได้ดำเนินการวิจัยร่วมกับโครงการหลวงมาอย่างต่อเนื่อง และคณะนักวิจัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในโครงการ การใช้สิ่งขับถ่ายของมนุษย์ในด้านการเกษตรอย่างปลอดภัย ได้เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดที่ให้ข้อมูลยืนยันอย่างน่าสนใจเกี่ยวกับฉี่คนดังนี้

 

            รศ.ดร.อานัฐ ตันโช กล่าวว่า ปัสสาวะของมนุษย์ หรือฉี่คน ได้มีการนำมาใช้ปลูกพืชมานานแล้ว และกลุ่มประเทศที่ยังไม่ค่อยพัฒนา ซึ่งในบางประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นพบว่า มีการใช้กันถึงระดับเป็นอุตสาหกรรมเลยทีเดียว แต่อาจไม่มีการกล่าวอ้างกันอย่างเป็นทางการเนื่องจากทัศนคติของผู้บริโภคเป็นเรื่องสำคัญ โดยส่วนใหญ่

จะใช้กับการปลูกข้าวโพดไร่ และพืชผักที่รับประทานใบ ซึ่งพบว่าการใช้ฉี่คนมาปลูกพืชนั้นสามารถทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีได้เป็นอย่างดี และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนไม่มีเชื้อก่อโรคเหมือนกับในกรณีอุจจาระมนุษย์

นอกจากนี้ยังพบว่า ปริมาณธาตุอาหารในฉี่คนนั้นเพียงพอในการปลูกพืชโดยแทบที่จะไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ในฉี่คนนั้นประกอบด้วยธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืช เช่น ไนโตรเจน โพแทสเซี่ยมและฟอสฟอรัส รวมทั้งธาตุอาหารรองและจุลธาตุอื่นๆอย่างครบถ้วน ตามที่เพิ่งมีข่าวทางหนังสือพิมพ์ฝรั่งเองก็พบว่ามีประโยชน์จริงคือ ทำให้พืชผักโต แมลงศัตรูรบกวนน้อย

นายดนตรี รุ่งเรือง ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาอัตราความเข้มข้นที่เหมาะสมต่อการใช้น้ำปัสสาวะในการปลูกข้าวโพดหวาน โดยกำหนดอัตราส่วนความเข้มข้นเป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อผสมกับน้ำโดยกำหนดดังนี้ 0,5,10,15,20,25,30,35,40,45และ50 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

 

             สาเหตุที่ไม่ใช้อัตราความเข้มข้นเกิน 50 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นเพราะว่าถ้าใช้เกินอัตรานี้แล้วจะพบอาการความเป็นพิษต่อต้นกล้า มีผลทำให้เกิดการชะงักการเจริญเติบโตหรืออาจตายได้

 

           ผลวิจัยปรากฏว่า ฉี่คน สามารถทำให้ต้นข้าวโพดเจริญเติบโตมากกว่าส่วนที่ไม่ใช้ฉี่คนและพบว่าต้นข้าวโพดนั้นมีการเจริญเติบโตตอบไม่พบแมลงเข้ารบกวนเลย และหลังการทอลองได้มีการนำ ตัวอย่างดิน และต้นข้าวโพด ไปทำการตรวจเชื้อก่อโรค ผลปรากฏว่าไม่พบเชื้อก่อโรคแต่อย่างใด

 

 

           จากผลการทอลองดังกล่าว ทำให้คณะวิจัยสามารถสรุปในขั้นต้นได้ว่า การใช้ฉี่คน ในการปลูกพืชนั้นสามารถนำมาใช้ได้ แต่ควรมีการปรับระดับความเข้มข้นให้เหมาะสมก่อนการนำใช้ดีกว่าการนำมาใช้โดยตรง ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดและช่วงอายุของพืชอีกด้วย

โดยในปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีการนำฉี่คน มาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากขาดข้อมูลการวิจัยทอสอบอย่างเป็นทางการ และที่ผ่านมาก็ถือว่ายังไม่มีเหตุผลที่จำเป็นในการใช้ฉี่คน ในการปลูกพืช แต่ในปัจจุบันวิกฤติการใช้สารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาลดังที่ได้ทราบกัน

ทำให้คณะวิจัยได้ทำการทดลองเพื่อให้เกิดผลการยืนยันที่ชัดเจนในครั้งนี้

          นายดนตรี กล่าวว่า หากในอนาคตประเทศเราต้องประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำทางด้านการเกษตรอย่างรุนแรง และปุ๋ยเคมีมีราคาที่สูงมากจนไม่สามารถซื้อได้ ฉี่คน อาจจะเป็นทางออกหนึ่งของการเกษตรไทยในอนาคตก็เป็นได้

 

             หากเกษตรกรหรือหน่วยงานองค์กรภาครัฐและเอกชนที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผลการทดลองดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายดนตรี รุ่งเรือง คณะวิจัยโครงการการใช้สิ่งขับถ่ายของมนุษย์ในด้านการเกษตรอย่างปลอดภัย ภาควิชาทรัพยากรดินและสิ่งแวดล้อม คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร.. 08-5059-5004.

 

 

แหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 14 พฤศจิกายน 2550.

หมายเลขบันทึก: 151716เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2007 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 11:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับ

  • ในทางเศรษฐศาสตร์ น่าสนใจ
  • แต่ในทางพานิช น่าจะ ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับ เท่าที่ควร
  • ถ้าศึกษา วิจัย ขั้นตอนการผลิตให้ได้มาตรฐาน ก็น่าจะคุ้มค่ามาก

1. ทำอย่างไร? ให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร สรุปผลงานของตนเองออกมาได้แบบที่ท่านนำเสนอบ้าง? เพราะนั่นคือ KMในงานส่งเสริมการเกษตร ของเจ้าหน้าที่

2. ทักษะการเขียนและสรุปบทเรียนดังกล่าว จำเป็นสำหรับเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นการสรุปประสบการณ์ที่มาจากประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติจริง

  • สวัสดีครับอ.หนุ่ม
  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมและลปรร.
  • เห็นด้วยครับ ในอนาคตหากปุ๋ยเคมีมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูง จนอยู่ไม่ได้ เมื่อนั้น จะต้องหันมาใช้ฉี่ทดแทนได้
  • ความจริงแล้ว นักส่งเสริมการเกษตรควรจะร่วมกับเกษตรกรทดลอง หรือทำการวิจัยซ้ำอีกก็ได้ หากได้ผลจริง ก็ควรจะแนะนำส่งเสริมต่อไป เป็นการลดต้นทุน หรือนำผลการวิจัยไปใช้ในการส่งเสริมเกษตรกรที่มีปัจจัยการผลิตที่สามารถทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีได้ ซึ่งเกษตรกรมักจะถามอยู่เสมอ ว่าหากจะให้เขาลด ละ เลิก ปุ๋ยเคมีแล้วจะให้ใช้ อะไรทดแทนนั่นเองครับ
  • สวัสดีครับอ.ศิริวรรณ
  • ขอบคุณที่มาแวะเยี่ยมและช่วยเติมเต็ม
  • เห็นด้วยครับ คงจะต้องยอมรับว่าหากเรามีการเรียนรู้ไป ก็พัฒนาไปพร้อมๆกันไปได้ แต่สำคัญที่สุด ณ.ปัจจุบันการสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในองค์กรก็ค่อนข้างจะยากไปทุกที
  • ต้องพัฒนาและเรียนรู้ต่อไปก็แล้วกันนะครับ

สวัสดีครับมีปุ๋ยคุณภาพดีๆ นำเสนอคนที่สนใจทำธุรกิจทางการเกษตร

จุดประสงค์เพื่อให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยคุณภาพที่ดีจริง(ไม่โดนหลอกลวง)และส่งเสริมให้ผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารพิษเป้าหมายเพื่อเป็นครัวของโลกครับ

ภูมิใจเสนอปุ๋ยอินทรีย์ชนิดพิเศษตราบัวทิพย์

ใช้ดี เห็นผลไว ได้ผลผลิตเพิ่ม ผลิตผลมีคุณภาพ ลดต้นทุน

พร้อมแนะนำวิธีการใช้ และการทำตลาดที่ยั่งยืน(ทำแล้วรวย)

บริการส่งฟรีทุกที่ทั่วไทย

ใช้ปุ๋ยก็รวยได้

ขายปุ๋ยได้ต้องรวยแน่

ทำเป็นธุรกิจยิ่งรวยถาวรแท้

ต้องปุ๋ยคุณภาพดีๆ แท้ๆ แน่ๆ เท่านั้น

สนใจติดต่อ 086-6748882,086-2173085 (คุณตุ๊ก)

[email protected]

http://www.youdo111.blogspot.com

บริษัท จอยแอนต์ คอยน์ คอร์เปร์ชั่น จำกัด จำหน่ายปุ๋ยชีวภาพมูลค้างคาวและปุ๋ยอินทรียร์ภัฑ์ ปุ๋ยตรานาคราช และอีกหลายชนิด เหมาะสำหรับนาข้าว ยาพารา อ้อย ข้าวโพด มัน พืชผัก และพืชทุกประเภทราคาส่งกระสอบละ 365บาท (25 ก.ก) ขายปลีกกระสอบละ 400 บาทสั่งซื้อ 15 ตันขึ้นไปส่งฟรีทั่วประเทศ ขอแนะนำไปขายดู กำไรดีครับแล้วสั่งซื้อก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนือง ผ่านการรับรอง อนุญาติจากกรมวิชาการเกษตร ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการครับ มีปุ๋ย ตรานาคราช และตราอินทรีย์ภัท์ 2 ครับ และ สูตรอื่นอีกมากมาย

ค่าคอมท่านจะได้รับในการซื้อ ปุ๋ยในแต่ละ ครั้ง ดังนี้

กระสอบละ 25 กิโลกรัม

สั่ง ซื้อปุ๋ย บริษัทจอยแอนต์ คอยน์ คอร์เปร์ชั่น จำนวนตันดังนี้

สั่งปุ๋ย15ตัน รับค่าคอม จากการสั่ง 17,000 บาทรับค่ารถบรรทุกอีก 7,500 บาทรวมเป็นเงินท่านจะได้รับเข้ากระเป๋า 24,500บาท

สั่งปุ๋ย 16ตัน คอม จากการสั่ง 32,000 บาท รับค่ารถบรรทุกอีก 8,000 บาท รวม 40,000บาท

สั่งปุ๋ย 32ตัน คอม จากการ79,000 บาท รับค่ารถบรรทุกอีก 16,000 บาท รวม 95000บาท

สั่งปุ๋ย 64ตัน คอม จากการ173,000 บาท รับค่ารถบรรทุกอีก 32,000บาท รวม 205,000บาท

สั่งปุ๋ย128ตัน คอม จากการสั่ง 361,000 บาทรับค่ารถบรรทุกอีก 63,400 บาท รวม 424,400

บาท

สั่งปุ๋ย 256 ตัน คอม จากการ737,000 บาท รับค่ารถบรรทุกอีก 200,000 บาท รวม 93,7000บาท

สั่งปุ๋ย 512ตัน คอม จากการสั่ง 1,489,000 บาท รับค่ารถบรรทุกอีก 256,000 บาท รวม 1,745,000บาท

สั่งปุ๋ย 1,023 ตัน คอม จากการสั่ง 2,715,000 บาท รับค่ารถบรรทุกอีก 520,000 บาท รวม 3,235,000บาท

หากท่านสนใจ สามารถติดต่อสอบถามผม นายเกริกชัย แสนหาญ 084 -3755997 หรือ http://www.coin.co.th/ ครับหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านคงให้โอกาสบริษัทเราให้บริการท่านและชุมชนท่านขอบคุณเป็นย่างสูงครับและ ผมมีเอกสารใบสำคัญต่างๆ ที่ผ่านการรับใบอนุญาตจากกรมวิทยาการเกษตรแนมมาด้วยครับ เพื่อความมั่นใจในการจำหน่าย ของบริษัท จอยแอนด์คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยิ่งขึ้นขอบคุณครับ

ปริมารธาตุอาหารมีปริมาณเท่าไหร่ครับ มีnpk เท่่าไหร่วิธีการใช้กับพืชยังไงบ้าง ช่วยอธิบายให้ชัดเจนหน่อยได้ไหมครับ มีแต่บอกว่าใช้ได้ๆๆแล้วใช้ยังไง การเจือจางต่อน้ำเท่่าไหร่ต่อพืช

ผมอยากจะได้ ขอมูลมากกว่านี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท