เมื่อวานซืน ผมโทรเช็คงานกับอ.กามารุดดีน อิสายะ จากมหาวิทยาลัยทักษิณ เมื่อเห็นความคืบหน้าก็เลยมองหาวันประชุมพร้อมกันของทีมวิจัยทั้งหมด เดิมทีผมมองข้างสัปดาห์นี้ไป หาวันว่างกันสัปดาห์หน้าและสัปดาห์ต่อไป ปรากฏว่า ไม่มีวันว่างพร้อมกันเลย ดูไปดูมาสรุปว่า ประชุมกันวันพ่อเลยแล้วกัน ซึ่งรอบประชุมนี้ อ.กามารุดดีน ขอให้ไปประชุมที่ ม.ทักษิณบ้าง ทุกครั้งประชุมกันแต่ที่มอ.ปัตตานี กับที่ มอย. คราวนี้ก็ตกลงไปประชุมกันที่สงขลา ไม่ใช่ที่ ม.ทักษิณ เนื่องจากเมื่อวานเป็นวันหยุด จะใช้สถานที่ราชการลำบากหน่อย
(ภาพนี้ตากล้องคือ ภรรยาของอาจารย์กามารุดดีนครับ ประเด็นประชุมกำลังถึงกระดูกครับ)
<p>นัดประชุมกันที่ โรงแรมพาวิเลี่ยน และจะทานข้าวกันที่ ร้านอิสลามป้ายแดง (โอ้ชื่อเท่มาก) ผมเลยเข้าใจว่า อ.กามารุดดีนประชุมที่ โรงแรมริมหาดสมิหลา จอดรถปั๊บก็มองหาสมาชิก ปรากฏไม่เจอใคร เลยโทรถาม ปรากฏคนละโรงแรมกัน ฮาฮาฮา เป็นพาวีเลี่ยนในเมือง ซึ่งห่างออกไปจากโรงแรมประมาณกิโลสองกิโล แต่ผมใช้เวลานานหน่อยหาจุด u-turn ไม่เจอ ฮาฮาฮา</p><p></p><p>(ไม่ได้จะวางมวยกันนะครับ แต่กำลังสุมหัวกันคิดครับ)</p><p>ตกลงเบื้องต้นว่าอนุญาตให้ทีมวิจัยพาครอบครัวมาร่วมประชุมด้วยได้ เนื่องจากทุกคนเกรงใจแม่บ้านที่มาทำงานวันหยุด แต่ปรากฏว่า มีผมกับอ.กามารุดดีนเท่านั้นที่พาครอบครัวมา เนื่องจากอีกสองท่าน แม่บ้านมีงานเหมือนกัน</p><p>รอบนี้เป็นเส้นชัยของงานวิจัยแล้วครับ ส่วนที่ยากน่าจะผ่านพ้นไปได้แล้ว เหลือแค่การลงพื้นที่ทดสอบระบบเขียนภาษามลายูถิ่นด้วยอักษรยาวีภาคสนาม ซึ่งเรื่องนี้ผมเตรียมความพร้อมของพื้นที่รองรับไว้แล้ว </p><p>ที่สำคัญตั้งแต่นี้เป็นต้นไป มีกระบวนการทำงานของทีมวิจัยจะเปลี่ยนไปครับ บทบาทของการดำเนินงานจะอยู่ที่ทีมงานมากขึ้นกว่าเดิมครับ (เดิมทีทุกอย่างอยู่ที่ผมหมดเลย) เช่น การเงิน อ.อับดุลการีม สาแมง จะเป็นคนดูแลอย่างเต็มที่ เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดท่านเป็นคนดูแล งวดที่แล้วผมรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าโครงการ ผมทำเสียระบบหมดเลยครับ งานการประชุมและส่วนที่เกี่ยวกับวิชาการ อ.กามารุดดีนจะรับหน้าที่เต็มตัวขึ้น (เดิมก็ผมคนเดียว) ส่วนอ.ฮาแระ เจ๊ะโด ก็จะรับผิดชอบในประเด็นการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ คราวนี้งานวิจัยคงเดินหน้าได้เร็วขึ้น จากเดิมต้องผมคนเดียวสร้างกระบวนการ (อินชาอัลลอฮ์)</p><p> ออ.ประเด็นที่เป็นความบังเอิญคือ ในตอนเช้าผมแวะทานข้าวเช้าที่ อ.จะนะ กำลังจะเดินเข้าไปในร้านข้าว มีเสียงเรียกอย่างคนคุ้นเคย เหลียวไปมอง ออ. อาจารย์ชากีรีน สุมาลี รุ่นพี่ที่น่ารักท่านหนึ่ง (จากนครศรีธรรมราช) พี่ท่านก็เลยได้โอกาสแนะนำผมให้รู้จักกับทีมงานวิจัยของท่าน ซึ่งหัวข้อวิจัยท่านน่าสนใจมาก เป็นเรื่องของการบูรณาการอิสลามในชั้นเรียน แต่บังเอิญจังหวะผมไม่ดีเท่าไรเลยไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ (เสียดายครับ)</p><p>พี่ท่านบอกว่า งานวิจัยเดินหน้าไปเยอะแล้วครับ ผมก็เลยเสนอตัวพร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่ครับ แต่ดูแล้ว ทีมงานคุณภาพอย่างนี้ ผมค่อยเอาผลการวิจัยไปใช้ในห้องเรียนผมแล้วกัน ฮาฮาฮา</p><p>ทีมวิจัยถามถึงแนวโน้มการเปิดศึกษาศาสตร์ของ มอย. เนื่องจากท่านมีความเชื่อว่า สถาบันนี้น่าจะเป็นแห่งเดียวที่สามารถนำเสนอเนื้อหาวิชาในลักษณะของการบูรณาการอิสลามในทุกเนื้อหาวิชาได้ ที่น่าสนใจคือ ท่านต้องการครูในลักษณะที่สามารถบูรณาการเนื้อหาอิสลามในวิชาเรียนได้เลยในชั้นเรียน และท่านต้องการให้มหาวิทยาลัยเป็นตัวผลิตบุคลากรในลักษณะนี้ เลยถามผมถึงสาขาวิชาที่จะเปิดสอนในคณะศึกษาศาสตร์ ผมเลยต้องบอกไปว่า รายละเอียดการเปิดสาขาวิชายังไม่ชัดครับ แต่ที่ชัดคือตั้งคณะ ตั้งคนก่อน</p><p class="MsoNormal"></p>
ยินดีด้วยกับโครงการที่ทำงานอย่างเต็มความสามารถ ขอชื่นชม
ผมสังเกตดูน่าตาแต่ละท่าน ดุๆทั้งนั้นเลยครับ (ฮา)
-----------------
งานวิจัยภาษายาวี น่าสนใจมาก หากออกแบบกระบวนการมีส่วนร่วมให้มาก ผมว่างานจะมีสีสันมากขึ้นไปด้วย
เป็นการเชื่อมระหว่าง ผู้รู้ กับ เยาวชนครับ ออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายเพิ่มกระบวนการเรียนรู้ให้สนุกไปด้วย
บางทีประเด็นที่เป็นวิชาการมากๆ ทำให้ดูง่ายๆ เป็นธรรมชาติจะดีมากครับ
ขอบคุณ
อัสลามูอาลัยกุม
แวะเข้ามาเยี่ยมครับ เป้นงัย น้องชาฟีอี สบายดีหรือป่าว เห็นการทำงานแล้ว อยากขออนุญาตเข้าไปร่วมสังเกตการณ์จังเลย
ฝากสลามถึง กามารุดดีน และบังฮาเรสสุดหล่อด้วยนะครับ
ไปก่อนล่ะ
วัสลาม
วาอาลัยกุมุสลามครับบังบิ๊กสุ ยังปากน้ำ
ดีใจที่บังเข้ามาเยี่ยม แต่บังเอิญเหตุการณ์นี้ผ่านมาข้ามปีแล้วครับ