การทำปาท่องโก๋


การทำปาท่องโก๋

วันก่อนเล่าเรื่องการทำน้ำเต้าหู้ไปแล้ววันนี้จะเล่าเรื่องของที่คู่กันกับน้ำเต้าหู้นั่นก็คือปาท่องโก๋

ประวัติของปาท่องโก๋ที่ผมลองสืบค้นมาได้มี 2 ประวัติครับคือ

ประวัติที่ 1

ประเทศจีนราวปี พ.ศ. 297 "ใจก๊วย" เป็นผู้สำเร็จราชการแทนเจ้าชิวั่งตี่ มีหน้าที่คอยเท็จทูลแนะนำสิ่งต่างๆถวาย ได้รับหนังสือลับจากกองทัพตาด ให้กราบทูลแนะนำกษัตริย์ให้ยอมแพ้แก่ตาดจะปูนบำเหน็จให้ ด้วยความโลภใจก๊วยจึงทำตาม

กองทัพตาดจึงเข้าเมืองได้ เณรเทศพระเจ้าพระเจ้าชิวังตี่ออกนอกประเทศ แล้วแต่งตั้งใจก๊วยเป็นกษัตริย์ขูดรีดจากประชาชน
กังฟู(ขุนพลของพระเจ้าชิวั่งตี่)จึงรวบรวมผู้คนยกทัพเข้าตีเมืองหลวงได้ ครั้นกังฟูสิ้นชีวิตลง ชาวจีนระลึกถึงคุณงามความดี พร้อมใจสร้างศาลเจ้าเพื่อสักการะบูชา พร้อมกับรูปปั้นใจก๊วยไว้หน้าประตูศาลเจ้า

ทุกวันที่ชาวจีนไปสักการะในศาลเจ้าของกังฟู จะเขกศรีษะรูปปั้นใจก๊วยทุกคน

นานเข้ารูปปั้นหดหายเหลือแค่คอ เพื่อลงโทษให้สาสามจึงได้คิดทำขนมใช้แป้งปั้นเป็นตัวใจก๊วยไม่มีคอ ทอดน้ำมันกำลังเดือด ขนมชื่อ "อิ้วใจก๊วย" (ใจก๊วยถูกทอดในน้ำมัน)

เมื่อขนมชนิดนี้เข้าในสมัยรัชกาลที่ 6 ใหม่ๆ มีซิ้มแก่ๆหาบขนมนี้มาขายพร้อมกับปาท่องโก๋(มีลักษณะคล้ายซาลาเปา แต่มีงาโรยหน้า) ปากก็ร้องขายขนมปาท่องโก๋

คนไทยซื้อขนมอิ้วใจก๊วยมารับประทาน โดยคิดว่าชื่อปาท่องโก๋เลยเรียกขนมชนิดนี้ว่า "ปาท่องโก๋" ติดปากมาจนถึงทุกวันนี้

(ที่มา : http://www.pramool.com:443/webboard/view.php3?katoo=C02287 )

ประวัติที่ 2

ปาท่องโก๋ที่คนไทยเรียกนั้น ในภาษาจีน เรียกว่า อิ่วจาก้วย โดยมีที่มาจาก สมัยราชวงศ์ซ้องที่มีขุนนางกังชิน ชื่อว่า " ฉินข้วย" หรือ "ฉินฮุ่ย" มีความอิจฉาริษยา นายทหาร "เยียะเฟย" หรือ แม่ทัพงักฮุยจึงได้วางแผนให้ฮ่องเต้เรียกตัวงักฮุยกลับจากแนวหน้า และ ฉินข้วย ทำให้เขาถึงแก่ชีวิตในเวลาต่อมา ข่าวล่วงรู้ไปถึงประชาชนจึงโกรธแค้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ช่วงนั้น ชาวจีนนิยมรับประทานแป้งทอดอยู่แล้ว และได้มีคนคิดเอาแป้งสองชิ้นมาประกบกันเพื่อเป็นตัวแทนขุนนางกังฉิน และภรรยาแซ่หวัง แล้วนำมาทอดกินเพื่อระบายความแค้น เรียกว่า “โหยวจ้าข้วย” หมายถึง น้ำมันทอดฉินข้วย

ส่วนที่คนไทย เรียกว่า ปาท่องโก๋ นั้น เพราะจำมาผิด เนื่องจาก สมัยก่อนชาวจีนที่ขายปาท่องโก๋ (ขนมน้ำตาลทรายขาว) มักจะขายอิ่วจาก้วยด้วย พอคนขายตะโกนขายปาท่องโก๋ จึงเข้าใจว่า ปาท่องโก๋ คือ แป้งทอดอิ่วจาก้วย นั่นเอง

(ที่มา : วิกิพีเดีย)

ไม่ว่าประวัติจะเป็นอย่างไร เรามาดูวิธีการทำกันดีกว่าครับ

อุปกรณ์/เครื่องใช้

1. แก้ว
2. ถ้วยตวง
3. ช้อนตวง 10. ตาชั่ง
4. ไม้ตีไข่ 11. กะละมังผสม
5. ตะเกียบ 12. กระทะสำหรับทอดปาท่องโก๋
6. ผ้าดิบสำหรับคลุมแป้ง 13. เตาแก๊ส
7. ตะแกรงทองเหลือง
8. เหล็กตัดปาท่องโก๋
9. ที่ร่อนแป้ง

ส่วนผสม
1. น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 กิโลกรัม
3. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
4. โซดาไบคาบอเนต ? ช้อนชา
5. ผงฟู ? ช้อนชา
6. ยีสต์ ? ช้อนชา
7. เช่าก่า (เชื้อเหม็น) 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา
9. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีผสมแป้ง
1. ผสมน้ำ เกลือ น้ำตาลทราย เช่าก่า โซดาไบคาบอเนต และยีสต์ ลงในภาชนะผสม
2. คนให้ส่วนผสมเข้ากันด้วยไม้ตีไข่
3. ร่อนแป้งสาลีลงในส่วนผสมจนหมด
4. ใส่ผงฟูลงไปในแป้ง
5. ใส่น้ำมันพืชลงไป
6. เคล้าส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
7. นวดให้แป้งเข้ากัน อาจจะนวดบนโต๊ะเพื่อนวดให้เข้ากันได้เร็วขึ้น ประมาณ 15 นาที หรือนวดจนแป้งเนียนไม่ติดมือ


เทคนิคการทำ
ต้องนวดแป้งให้ได้ที่และหมักตามเวลา ประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงจะได้ปาท่องโก๋ที่ดี

ข้อแนะนำ
น้ำมันที่ใช้ทอดปาท่องโก๋ควรเปลี่ยนบ่อย ๆ ถ้าน้ำมันเก่าจะเกิดสารพิษในน้ำมันทำให้เป็นอันตรายกับผู้บริโภคได้

(ที่มา : http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/occupation/45307/307.3.html )

อรุณสวัสดิ์และขอให้อร่อยกับอาหารมื้อเช้านะครับ

หมายเลขบันทึก: 151674เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2007 07:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 08:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • ครูอ้อยไม่กินปาท่องโก๋ มานานแล้วค่ะ
  • ครูอ้อยเริ่มกลัวของทอดค่ะ
  • แต่ดีใจที่น้องนำวิธีทำมาให้อ่านค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีครับ

บ้านผมเรียก "จะโก๊ย" ครับ ตอนไปเรียนหนังสือที่กทม.ก็งงเหมือนกันทำไมเรียกไม่เหมือนบ้านผม แต่ยังไงก็แล้วแต่ ถ้ากรอบนอกนุ่มในละก้อ...ของชอบ อิอิ

 

หวัดดีครับ

  • ชอบ ปาท่องโก๋ แต่ทานไม่บ่อย เพราะมีแป้งและน้ำมัน เยอะ

สวัสดีจ้า...

  • ที่บ้านพี่มีน้ำจิ้มด้วยนะ
  • รสน้ำจิ้มเปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยดีเหมือนกันไปที่อื่นไม่เห็นมี
  • สวัสดีครับคุณครูอ้อย
  • เอามาฝากเผื่อใครจะสนใจทำครับ ผมเองก็ติดนิสัยซื้อกินเอาดีกว่าครับ
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับท่านอัยการ
  • แนวเดียวกันเลยครับกรอบนอกนุ่มใน
  • ตอนเรียนที่ นครฯ มีแบบตัวเล็กๆจิ้มสังขยาก็อร่อยดีครบ
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับพี่หนุ่มร้อยเกาะ
  • รักษาสุขภาพสุดๆเลยนะครับ
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับพี่น้อง
  • ที่ตราก็มีแบบจิ้มน้ำจิ้มครับ แต่ต้องขอน้ำจิ้มเขา รสชาติคล้ายน้ำจิ้มกล้วยทอดครับ
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท