ช่วงวันหยุดมีโอกาสไปฟังบรรยายเกี่ยวกับการจัดทำหนังสือเด็ก ซึ่งได้ฟังนักเขียนท่านหนึ่ง ( ใช้นามปากกาว่า.... แพรวา... เอื้องนาง )ท่านเป็นคนอีสาน นานๆจะมีโอกาสได้ฟังสำเนียงที่ไพเราะ ท่านได้เล่าถึงความรู้สึกหดหู่ ที่วัฒนธรรมพื้นเมืองอันเลื่องลือ หมอลำและหมอแคนถูกย่ำยี คือ หางเครื่องนุ่งน้อยห่มน้อย ใส่แค่จับปิ้งเพียงแค่ท่อนบนชิ้น ท่อนล่างช้น ท่าเต้นก็แสนจะยั่วยวน คนร้องก็โซซัดโซเซนั่งอยู่กับพื้น คนเต้นก็ยืนห้อมล้อม ท่านได้บรรยายไว้มากพอสมควร แต่ผู้เขียนขอกล่าวไว้เพียงเท่านี้ ถ้าเป็นคนดูธรรมดาทั่วๆไปอาจจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร หรืออาจจะชอบเสียด้วยซ้ำไป แต่ความรู้สึกของท่านนักเขียนทนดูไม่ได้ เลยเขียนไว้เป็นบทความ แล้วตีพิมพ์ วันนี้ท่านได้มาบรรยายให้ฟังเป็นภาษาอีสานด้วยน้ำเสียงของความปวดร้าวใจ ผู้เขียน พูดภาษาอีสานไม่เป็น แต่พอฟังได้บ้างนิดหน่อยและสัมผัสได้กับความรู้สึกของท่านที่ถ่ายทอดออกมาให้ฟังด้วยความอัดอั้นตันใจ ก็คิดถึงความเป็นจริงในปัจจุบันที่ เราๆท่านๆพอจะประสบพบเห็นบ้างและก็เห็นถึงความเสื่อมลงของวัฒนธรรมบางอย่าง โดยเฉพาะ การแต่งกาย ที่กำลังถูกความนิยมสมัยใหม่กลืนความเป็นเอกลักษณ์ของไทยเราให้หายไปทีละน้อย จะมีอีกซักกี่คนที่พยายามออกมาเรียกร้องความมีคุณค่าของสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ ซึ่งวัฒนธรรมไทยต่างๆของทุกภาคเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนควรชื่นชมและอนุรักษ์ไว้ชั่วลูกชั่วหลาน
สวัสดีค่ะ
วัฒนธรรม สำคัญมากค่ะ ควรค้นหาให้เจอ แล้วช่วยกันฟื้นฟู คุณจะอยู่ที่ใดในประเทสไทย ก็เป็นต้นแบบได้ ถ้าปล่อยข้ามชั่วอายุคนเท่านั้นแหละค่ะ หมดสิทธิ์เลย ต้องพยายมทำให้ต่อเนื่อง พวกเรานี่แหละค่ะ เข้าไปสอดแทรกให้ได้ ก่อนจะถูกกลืนหายไป
ขอบคุณมากค่ะ คุณพี่บุญรุ่ง
ขอบคุณค่ะท่านผู้อำนวยการที่ให้คำแนะนำ