พัฒนาผู้เรียนด้วยกิจกรรม


การปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้กับนักเรียนในระหว่างที่เราพาเขาทำกิจกรรมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง


           สมัยเป็นครู ดิฉันชอบพาเด็กทำกิจกรรมโน่นนี่นอกห้องเรียนอยู่เสมอ ติดนิสัยชอบทำกิจกรรมมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมฯ คุณครูคงเห็นแววพูดเก่ง เลยชวนออกจากชุมนุมยุวกาชาด มาบุกเบิกชุมนุมฝึกพูดและการแสดง ตั้งแต่ ม.2 ยัน ม.6

          พอมาเรียนที่มหาวิทยาลัย ก็ยังชอบไปออกค่ายอาสา ไปทำกิจกรรมกับชมรมถ่ายภาพ และเป็นคณะกรรมการนักศึกษากับเขาด้วย และไม่รู้ว่ามีหน้าตาเหมือนนักวิชาการหรืออย่างไรไม่ทราบ เพื่อน ๆ จึงไว้วางใจให้เป็นฝ่ายวิชาการของคณะ

          ต่อมา เมื่อได้เป็นครูจึงชอบพาลูกศิษย์ทำกิจกรรมอยู่เสมอ ซึ่งสมัยนั้นมีกิจกรรมบังคับที่ต้องสอนต้องเรียน คือ ลูกเสือ และถ้าหากนักเรียนสนใจในกิจกรรมนอกเหนือจากนั้นก็จัดเป็น กิจกรรมตามความสนใจ เช่น ชมรม ชุมนุมต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันนี้ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 จัดไว้ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นั่นเอง

          จำได้ว่าสมัยนั้นพอถึงชั่วโมงลูกเสือ จะสนุกมาก เด็ก ๆ จะชอบ ดิฉันก็ชอบด้วย จองลูกเสือสำรองมาตลอด แรก ๆ กว่าจะสอนเปิดกอง ให้ร้อง
อะเคล่า กันได้ก็เหมือนจับปูใส่กระด้ง พอเข้าที่แล้วก็ดูแลง่ายค่ะ อยากฝึกอะไร เขารับได้หมด คงเป็นเพราะยังเป็น ไม้อ่อน อยู่มังคะ ... ยิ่งตอนเข้าค่ายยิ่งสนุกมาก

          กิจกรรมลูกเสือ นอกจากจะสามารถฝึกนิสัยให้เด็ก ๆ ได้แล้ว ยังช่วยฝึกคูณครูได้ด้วยนะคะ สมัยนั้นพวกเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ก็เพราะวิชาลูกเสือนี่แหละค่ะ

          ส่วนกิจกรรมชมรม ดิฉันเองเคยดูแลนักเรียนหลายชมรม อย่างเช่น ชมรมภาษาอังกฤษ ชมรมนักเล่านิทาน ชมรมนักประชาธิปไตย ทั้งครูทั้งศิษย์พากันทำกิจกรรมได้สนุกสนานไม่มีเบื่อ

          กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเหล่านี้ คุณครูที่ปรึกษาเป็นบุคคลที่มีบทบาทมากในการส่งเสริมดูแลให้นักเรียนสามารถทำกิจกรรมได้บรรลุผล ที่สำคัญไปกว่านั้นการปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้กับนักเรียนในระหว่างที่เราพาเขาทำกิจกรรมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง หากทำได้สำเร็จ ก็ถือว่าบรรลุผลได้แท้จริง

          ดังนั้น ครูต้องมีลักษณะเป็นผู้นำ รับผิดชอบ พากันปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่อง เรียกว่าต้องเทใจให้กับงานและนักเรียน ทั้งยังต้องรู้จักใช้หลักการเสริมแรงให้กับนักเรียนอย่างพอเหมาะพอสม หมั่นสะท้อนผลการทำงานของนักเรียนให้เขาได้ทราบอยู่เสมอ เน้นให้เขามีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติเอง จะทำให้เขาได้เรียนรู้ได้มาก


          นอกจากนี้การส่งเสริมสนับสนับสนุนของผู้บริหาร ยังมีผลอย่างมากต่อการทำให้การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนประสบความสำเร็จได้ เช่น การจัดสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้จากการทำกิจกรรม การจัดหาสื่อและแหล่งเรียนรู้ไว้คอยสนับสนุน เป็นผู้ประสานความร่วมมือจากชุมชนในการเอื้ออำนวยต่อการจัดกิจกรรมของครู และจะยิ่งดีมากขึ้นหากคอยให้คำปรึกษา สร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้เกี่ยวข้องอยู่เสมอ

          ที่ลืมไม่ได้ คือ เมื่อจัดกิจกรรมผ่านพ้นไปแล้ว ควรมีการประเมินผลเพื่อตรวจสอบผลงานทั้งเป็นระยะและเมื่อสิ้นสุดในปลายปี จะทำให้เรารู้ว่าควรมีการปรับปรุง แก้ไข หรือพัฒนาในเรื่องใด จึงจะทำให้การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในโรงเรียนของเราประสบผลสำเร็จจริง ๆ และการประเมินผลนั้นก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการประเมินด้วยตั้งแต่ นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน ครูและผู้บริหาร เราก็จะได้ข้อมูลที่รอบด้านเพียงพอค่ะ

หมายเลขบันทึก: 150271เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2007 16:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 09:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
สวัสดีค่ะ ศน.พี่กุ้ง สบายดีไหมคะ.. แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ..ในฐานะที่หนูก็เป็นนักกิจกรรมตัวยงเหมือนกันสมัยเรียน(ตอนนี้ก็ยังคงเป็นอยู่)..ตอนนี้พอถึงวันพุธเด็กจะถามว่าวันนี้ลงไปเรียนลูกเสือข้างล่างหรือเปล่า ถ้าบอกว่าลงเด็กชอบมาก..แต่หนูแทบตาย(ลูกเสือสำรองยังกะจับปูใส่กระด้งจริงๆ เพราะเรียนยกช่วงชั้น)

ดีใจครับ... ดีใจที่ได้อ่านบันทึกในวันเดียวกันถึงสองบันทึก

ผมเป็นอีกคนที่ชอบทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่มักประสบปัญหาเสมอมา คือ  ด้วยความเป็นเด็กบ้านนอก  จึงไม่ค่อยได้รับโอกาสจากใคร ๆ นัก  โดยเฉพาะการมาเรียนในสังคมเมืองยิ่งถูกเพิกเฉย  หลายกิจกรรมในสมัยมัธยมศึกษาจึงอยู่ในฐานะของการเป็นคน "เบื้องหลัง" ... จนมามีตัวตนชัดเจนในการเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง..

....

สำหรับบันทึกนี้   ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเกี่ยวกับประเด็นของการประเมินผล...

การจัดกิจกรรมในแต่ละครั้ง  คนเรามักทุ่มเทกายและใจลงแรงกับงานนั้นอย่างชัดเจน  แต่เราก็มักไม่ค่อยเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผล - ประเมินผล  ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่มีข้อมูลมาต่อยอดในครั้งต่อไป   ส่งผลให้การทำงานครั้งใหม่ก็มักย่ำอยู่กับจุด ๆ เดิมอย่างน่าเสียดาย

....

ขอบคุณครับ

  • สวัสดีน้องตุ๊ก ... รีบร้อนมาทายทักจนลืมเข้าระบบเลยเชียว
  • พี่ยังคิดถึงเด็ก ๆ อยู่เสมอ พอได้เล่าเรื่องนี้ ก็ยิ่งคิดถึงเข้าไปใหญ่
  • ถ้าเขตฯ อยู่ใกล้ ๆ กับท่าไชย จะขอโดดลงไปช่วยจับปู...เอ๊ย...ช่วยสอนลูกเสือให้เด็ก ๆ ด้วยคน
  • ใช่เลย...เด็ก ๆ เขาจะเฝ้าคอยที่จะเรียนวิชาลูกเสือในแต่ละสัปดาห์... แล้วพี่ก็รู้เลยว่าน้องตุ๊กต้องเป็น "แม่เสือ" ขวัญใจของเด็ก ๆ แน่...
  • วิชาลูกเสือนั้นช่วยฝึกเรื่องระเบียบวินัยให้กับเด็กเล็ก ๆ ได้ง่าย ซึ่งจะเป็นคุณลักษณะนิสัยที่เป็นพื้นฐานนำไปสู่การปลูกฝังเรื่องอื่น ๆ ได้ง่าย
  • เอ้า! เป็นกำลังใจให้...แม่เสือ...จ้า..
  • ขอบคุณ อ.พนัส ที่มาช่วยเติมพลังใจให้กัน ที่จริงดิฉันก็ทิ้งช่วงไปหลายวัน เพราะติดภารกิจเรื่องดูแลพ่อ วันนี้จึงถือโอกาสเล่าซะสองเรื่องเลย
  • ครั้งก่อนที่คุยกัน ไม่แน่ใจเรื่องที่อาจารย์พูดถึงหนังสือทำมือ ไม่ทันได้ถามรายละเอียด
  • ถ้าหากมีอะไรที่ดิฉันพอจะช่วยอาจารย์ได้บ้าง บอกกล่าวกันได้เลยนะคะ
  • สมัยพาลูกเสืออยู่ค่ายพักแรมกัน ทุกคืนหลังจากดูแลเด็ก ๆ เข้านอนกันแล้ว คุณครูจะจับกลุ่มคุยกันเพื่อประเมินผลการทำกิจกรรมวันต่อวัน เพื่อปรับลีลาและกิจกรรม ทำแบบนี้โดยไม่ยักรู้ว่าแบบนี้ชาว KM เขาเรียกว่า AAR (After Action Review) ค่ะ
  • พอได้เล่าเรื่องนี้แล้วยังนึกอยากกลับไปเป็นครูค่ะ
  • ดูแลสุขภาพนะคะ...คร่ำเคร่งกับงานการมากไป ร่างกายก็จะแย่เหมือนกัน ฝากความคิดถึงไปยังน้องดิน น้องแดน และคุณแม่ของน้องทั้งสองด้วยนะคะ
  • เป็นกำลังใจให้อาจารย์เช่นเดียวกันค่ะ

ตามมาอ่านค่ะ

ยังทรงคุณค่าเหมือนเดิม

อ กุ้งทราบเรื่องโรงเรียนแถวภาคกลาง ที่พ่อแม่ต้องสอบเรื่องการเลี้ยงลูก ก่อนจะคัด เด็กเข้าโรงเรียนไหม อ่านจาก Bangkok post เมื่อ 3 วันก่อนตอนกลับจากประชุม เสียดาย ไม่ได้จำรายละเอียด

เขาเอาพ่อแม่สอบเรื่องวิธีเลี้ยงลูก และจัดเข้าอบรมเพื่อจะให้เป็นพ่อแม่ที่ดี ช่วยคุณครูดูแล และตามผลพบว่า เด็ก มีปัญหาน้อยลง ไปเที่ยว เล่น ร้านเกมส์ และที่ อตรอื่นๆ ลดลง  

สอบเข้ามหาลัยได้มากขึ้น 

อ่านแล้วยังคิดว่าน่าขยาย เพราะรอ คุณครู รอ โรงเรียนไม่ทันแล้ว เด็กๆนักเรียนทั้งหลาย อนาคต ประเทศชาติเรา

สวัสดีครับ

ผมชอบวิชาลูกเสือมากๆ เพราะเป็นวิชาที่สอนให้เรารู้จักระเบียบวินัย เป็นสุภาพบุรุษ รู้จักการแก้ไขปัญหา รู้จักเอาตัวรอด สมัยเป็นนักเรียนผมเป็นลูกเสือสามัญไปเข้าค่ายลูกเสือที่ชลบุรี ไปขุดหาหัวมันมาเผาไฟกินกันสนุกสนานต้องเรียนจุดไฟด้วยไม่ขีดไม่เกินสามก้าน ต่อมาเป็นตัวแทนลูกเสือไปเข้าค่ายครบรอบ ๖๐ ปี ที่ประเทศสิงคโปร์ สนุกมากเพราะลูกเสือที่นี่ใช้เตาแก๊สครับ อิอิ

เห็นด้วยกับการใช้กิจกรรมมาพัฒนาผู้เรียนครับ แต่ทราบไหมครับว่าปัจจุบันผู้ปกครองเข้าใจว่าการที่ลูกไปนั่งเรียนพิเศาเป็นเรื่องสำคัญสำหรับอนาคตลูก แม้ครูนัดทำกิจกรรมพ่อแม่จะต้องมาขออนุญาตให้ลูกไปเรียนพิเศษ ผมว่าท่าจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว เฮ้อ...

  • ครูอ้อยสอนภาษาอังกฤษ  ชอบใช้กิจกรรม นอกจากฝึกปฏิบัติ ฟัง พูด อ่าน เขียนแล้ว
  • นักเรียนมีพฤติกรรมในทางที่ดี  มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

คิดถึงจังเลยค่ะ

  • ต้องขออภัยท่านโปรโมเตอร์ พระโอฬาร ปิยวจโน(คำจีน) และ ท่านอาจารย์Tadsanee ด้วยค่ะที่ตัวเองทำเป็นนักเรียนเกเรไปซะ...สองเดือน
  • ตอนนี้รีเทิร์นแล้วค่ะ...คิดถึงอาจารย์ทัศมากนะคะ วันนี้พบอาจารย์โอมที่เมืองทอง บอกว่าอาจารย์ทัศกลับเมืองไทยแล้ว ไม่รู้เมื่อไรจะได้พบอาจารย์อีก
  • ดีใจที่ได้พบอาจารย์โอมวันนี้ คิดว่าจะไม่สึกซะแล้ว เห็นว่าบวชก็แล้ว ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเบียดคะ?
  • ขอบพระคุณอาจารย์หมอ P
  • เป็น How to ของการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน อีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ ว่าจะลองไปค้นหาอ่านดูบ้างค่ะ
  • ที่สุพรรณฯ เขต 2 หลายโรงเรียนใช้วิธีพาผู้ปกครองนักเรียนมา ลปรร.กันว่ามีวิธีเลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นเด็กดี เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองเรียนรู้กันเอง เป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ปกครองมากค่ะ
  • ขอบพระคุณสำหรับการต่อยอดความรู้ค่ะ
  • ขอบพระคุณท่านอัยการชาวเกาะ
  • ชอบที่ท่านบอกว่าวิชาลูกเสือฝึกให้เป็นสุภาพบุรุษ...อันนี้เรื่องจริงเลยค่ะ
  • อยากให้คุณครูและโรงเรียนช่วยกันส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนลูกเสืออย่างจริงจัง...วิชาลูกเสือช่วยลดปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และสร้างเสริมคุณลักษณะที่ดีได้มากค่ะ
  • ขอบพระคุณสำหรับการจุดประกายทางปัญญาค่ะ
  • ขอบพระคุณพี่อ้อยสิริพร กุ่ยกระโทก
  • คิดถึงพี่อ้อยเช่นกัน วันนี้เจอพี่อิ่งอ๊อบ คุณแป๊ด คุณแอ๊ด พ่อครูบา อ.พิชัย อ.หมอคนชอบวิ่ง พี่เล็ก พี่โอ๋-อโณ พี่เม่ย อ.handy และอีกเยอะแยะที่เมืองทอง ยิ่งทำให้คิดถึงพี่อ้อยไปใหญ่เลยค่ะ
  • พรุ่งนี้ยังไปร่วมงานอีกวันหนึ่งค่ะ...เอาไว้จะกลับมาเล่าให้ฟังค่ะ
  • ขอบพระคุณสำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างคุณลักษณะดี ๆ ให้กับเด็ก ๆ กันค่ะ
  • จำไม่ได้เลย "ใครหนอหน้าตาแปลก ๆ "
  • พอคลิกเข้าไปดูรูปใหญ่ ร้องอ๋อ "...........นี่

เอง" เติมเองก็แล้วกัน

  • สวยดีรูปนี้  นี่ถ้าโชว์นานมาคงจะมีแฟนคลับ ตึมๆๆๆๆๆๆๆๆ

  • ขนาดใช้รูปขี้เหล่ยังตึม

 

  • อ๋อลืมไป  "ใช้คารมเป็นต่อ  หน้าตาเป็น (อาวุธ) รอง"

  • เราไม่เคยมีลูกกับเขาก็เลยยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องเรียนรู้
  • มาทักทายพี่กุ้งคนเก่ง
  • เอามาฝาก
  • เขียนในวารสารวิชาการ
  • นานมากๆแล้วครับ
  • ที่นี่ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท