ดีใจครับ... ดีใจที่ได้อ่านบันทึกในวันเดียวกันถึงสองบันทึก
ผมเป็นอีกคนที่ชอบทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่มักประสบปัญหาเสมอมา คือ ด้วยความเป็นเด็กบ้านนอก จึงไม่ค่อยได้รับโอกาสจากใคร ๆ นัก โดยเฉพาะการมาเรียนในสังคมเมืองยิ่งถูกเพิกเฉย หลายกิจกรรมในสมัยมัธยมศึกษาจึงอยู่ในฐานะของการเป็นคน "เบื้องหลัง" ... จนมามีตัวตนชัดเจนในการเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง..
....
สำหรับบันทึกนี้ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเกี่ยวกับประเด็นของการประเมินผล...
การจัดกิจกรรมในแต่ละครั้ง คนเรามักทุ่มเทกายและใจลงแรงกับงานนั้นอย่างชัดเจน แต่เราก็มักไม่ค่อยเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผล - ประเมินผล ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่มีข้อมูลมาต่อยอดในครั้งต่อไป ส่งผลให้การทำงานครั้งใหม่ก็มักย่ำอยู่กับจุด ๆ เดิมอย่างน่าเสียดาย
....
ขอบคุณครับ
หายไปนาน
Tadsanee
ตามมาอ่านค่ะ
ยังทรงคุณค่าเหมือนเดิม
อ กุ้งทราบเรื่องโรงเรียนแถวภาคกลาง ที่พ่อแม่ต้องสอบเรื่องการเลี้ยงลูก ก่อนจะคัด เด็กเข้าโรงเรียนไหม อ่านจาก Bangkok post เมื่อ 3 วันก่อนตอนกลับจากประชุม เสียดาย ไม่ได้จำรายละเอียด
เขาเอาพ่อแม่สอบเรื่องวิธีเลี้ยงลูก และจัดเข้าอบรมเพื่อจะให้เป็นพ่อแม่ที่ดี ช่วยคุณครูดูแล และตามผลพบว่า เด็ก มีปัญหาน้อยลง ไปเที่ยว เล่น ร้านเกมส์ และที่ อตรอื่นๆ ลดลง
สอบเข้ามหาลัยได้มากขึ้น
อ่านแล้วยังคิดว่าน่าขยาย เพราะรอ คุณครู รอ โรงเรียนไม่ทันแล้ว เด็กๆนักเรียนทั้งหลาย อนาคต ประเทศชาติเรา
สวัสดีครับ
ผมชอบวิชาลูกเสือมากๆ เพราะเป็นวิชาที่สอนให้เรารู้จักระเบียบวินัย เป็นสุภาพบุรุษ รู้จักการแก้ไขปัญหา รู้จักเอาตัวรอด สมัยเป็นนักเรียนผมเป็นลูกเสือสามัญไปเข้าค่ายลูกเสือที่ชลบุรี ไปขุดหาหัวมันมาเผาไฟกินกันสนุกสนานต้องเรียนจุดไฟด้วยไม่ขีดไม่เกินสามก้าน ต่อมาเป็นตัวแทนลูกเสือไปเข้าค่ายครบรอบ ๖๐ ปี ที่ประเทศสิงคโปร์ สนุกมากเพราะลูกเสือที่นี่ใช้เตาแก๊สครับ อิอิ
เห็นด้วยกับการใช้กิจกรรมมาพัฒนาผู้เรียนครับ แต่ทราบไหมครับว่าปัจจุบันผู้ปกครองเข้าใจว่าการที่ลูกไปนั่งเรียนพิเศาเป็นเรื่องสำคัญสำหรับอนาคตลูก แม้ครูนัดทำกิจกรรมพ่อแม่จะต้องมาขออนุญาตให้ลูกไปเรียนพิเศษ ผมว่าท่าจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว เฮ้อ...
ขอบคุณมากค่ะ
คิดถึงจังเลยค่ะ
เอง" เติมเองก็แล้วกัน