มีหลายๆคนขู่ว่าเป็นพ่อแม่เหอะแล้วจะรู้สึกว่าความทุกข์เป็นอย่างไร ผมก็ไม่รู้จะตอบไปว่าอย่างไร เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ จนมาวันนี้ ออมสินอายุหนึ่งขวบแล้ว ก็เลยได้มาทบทวนตัวเอง ว่าที่ผ่านมากว่าหนึ่งปีของการเป็นคุณพ่อมือใหม่ ตัวเองมีอะไรดีๆที่เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนบ้าง
ด.ช. ออมสิน เพิ่งจะยี่สิบวันเอง
- ประการแรก รู้สึกว่าเข้าใจผู้หญิงมากขึ้น ถึงจะเรียนเรื่องสิทธิสตรีมามากมายเพียงไร แต่หากประตูหัวใจไม่กล้าที่จะรับเธอไว้เต็มที่ละก็....ก็เท่านั้น อันนี้หมายถึง ทำให้ผู้ชายอย่างผมเข้าใจว่าผู้หญิงต้องเหนื่อยยากลำบากอย่างไร ตั้งแต่วันที่อุ้มท้องจนถึงการต้องคอยดูแลปกป้องห่วงใย กว่าลูกจะเติบใหญ่ ความรักที่แต่เดิมเคยมีให้เธออยู่แล้ว ก็เลยมากขึ้นไปอีก
ออมสิน อายุ 2 เดือน กับคุณแม่แอร์
เด็กชายออมสินอายุสองเดือนกำลังเล่นกับคุณพ่อ
<p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">- ประการที่สอง รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากขึ้น โดยการได้เล่นกับลูก พาเขาอุ้มไปดูต้นไม้ ดอกไม้ แมลง หมู หมา กา ไก่ตามบ้าน พาเล่นลูกบอลกรุ๋งกริ๋ง เอ้อเฮ้อ มันทำให้เรากลายเป็นคนขี้เล่นไปโดยปริยาย เครียดๆกับงาน พอลูกยิ้มแป้น มาดึงแข้งดึงขาชวนไปเล่น ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ความเครียดก็สลายลงได้</p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> ออมสิน อายุ 4 เดือน</p> <p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">- ประการที่สาม รู้สึกว่าเราต้องใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ามากขึ้น เพราะเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว หากเราทำตัวไม่ดี ลูกเมียก็ลำบาก อะไรไม่ดีๆที่เคยทำ เช่น ติดสังคม จมอยู่กับเพื่อนฝูง การเที่ยวกลางคืน อันนี้ก็งดไปได้เลย แถมกลายเป็นคนที่ดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น</p> <p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">- ประการที่สี่ กลายเป็นคนทำงานด้านเด็ก ที่เข้าใจเด็กมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ตรงที่เราได้เลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิด อีกส่วนมาจากการอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็น งานวิชาการ งานเขียนเชิงสารคดี ไปจนถึงนิทานต่างๆ เปิดมุมมองแคบๆของตัวไปสู่เรื่องอื่นๆที่เราไม่เคยรู้ ไม่เคยสนใจมาก่อน อย่างการเรียนรู้โดยเข้าใจสมอง (Brain Base Learning : BBL) การจัดกิจกรรมพัฒนาอีคิว ผมก็เพิ่งจะเริ่มมาสนใจก็อีตอนเมียตั้งท้องนี่เอง อันนี้เป็นผลพลอยได้ที่ดีต่องาน</p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> ออมสิน อายุเก้าเดือนกับคุณพ่อ</p><p></p><p> </p><p> เจ้าออมสินตัวน้อย กำลังเล่น (เรียนรู้) อย่างมีความสุขมาก</p><p> </p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">- ประการที่ห้า สร้างฐานะได้เร็วขึ้น ที่ตั้งชื่อลูกชายว่า “ออมสิน” นี่ก็ส่วนหนึ่ง คือให้รู้คุณค่าของเงิน ต้องวางแผนไว้สำหรับวันข้างหน้า และจะว่าไป ผู้ชายตัวคนเดียวนี่มักจะเก็บเงินยาก ไอ้เราก็ถนัดหามาจ่ายไป ทำงานตะบัน ก็ยังไม่รู้ว่าเหลือเงินเท่าไร พอมีลูกเมียแล้วก็มีคนมาช่วยเก็บให้เป็นที่เป็นทาง จนกลายมาเป็นบ้าน เป็นรถยนต์ได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะเมียและลูก อันนี้ก็ต้องขอบคุณพวกเค้าทั้งสองที่ช่วยให้ผมสบายขึ้นด้วย</p> <p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">- ประการสุดท้าย การมีลูกทำให้รู้ว่า อิทธิพลของเราที่มีต่อลูกนั้น มันมากมายจริงๆ สิ่งนี้ทำให้เรารู้สึกเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น เข้าใจพ่อแม่ พี่น้องของตัวเอง เข้าใจว่าบุคลิกก็ดีพฤติกรรมต่างๆทั้งที่ดีและไม่ดีมากมายของคนเหล่านี้ล้วนเป็นผลผลิตจากครอบครัวเป็นสำคัญ และเราเข้าใจได้ เมื่อเราเข้าใจ เราก็ยอมรับความแตกต่างของเขาได้ ไม่มากก็น้อย และนี่ก็เป็นหนทางหนึ่ง ในการเข้าถึงเพื่อกำหนดความสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับพวกเขาได้ โดยที่ไม่ต้องไปเพ่งที่การกล่าวโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้มากเกินไป </p><p style="margin: 0pt 0pt 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p> วันนี้ ด.ช. ออมสิน หนึ่งขวบแย้วคับ </p><p> </p><p>เหล่านี้เป็นสิ่งดีๆหกประการที่ได้จากหนึ่งขวบปีของการทำหน้าที่พ่ออย่างใกล้ชิด คงไม่ต้องอธิบายว่า ที่เหนือไปจากหกประการข้างต้นมีอะไรอีกไหม ถ้าไม่ใช่เรื่อง……ความรักและความผูกพันที่ยิ่งใหญ่ระหว่างพ่อ-แม่-ลูก</p>
สวัสดีครับ คุณพ่อและนู๋ออมสิน
ผมไม่ได้ไปเยี่ยมที่บ้านเลย ช่วงนี้งานเยอะครับ ว่าจะปรึกษากับพี่ยอดหลายๆประเด็นด้วยกัน ทั้งเรื่องเรียนและทำงาน
ประเด็นหนึ่งที่กำลังคิดก็คือ งานประชาสังคมที่ปาย เรียกว่ากำลังมีกระแสตอบรับที่ดี งานนี้จิตอาสาล้วนๆเลยครับ
ดีใจที่เห็นหน้าตา ออมสิน ชัดๆ น่าตาน่าชังมากครับ
สวัสดีครับเอก
ว่าด้วยงานไถ่บาป ที่พี่เขียนถึง ประเด็นเด็กและเยาวชน ผมก็เห็นด้วยครับ
เราละเลยเด็กมาก ผู้ใหญ่มัวแต่ทำเรื่องของตัวเอง ผลประโยชน์เฉพาะหน้าจนลืมปัญหาเด็ก ซึ่งเด็กเองเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า เป็นปัจจุบันและอนาคตของสังคมเรา
งานเด็กที่ปาย เริ่มด้วยให้เด็กคิดเอง เริ่มจากงานครั้งก่อนโน้น เรามรสภาเยาวชนปาย เรามีเด็กๆที่เป็นคนรุ่นใหม่ กล้าคิด กล้าทำ ผมคิดว่า บนเส้นทางการพัฒนาเด็กของเรามีทิศทางที่ดี
ในอนาคตเราก็เชื่อมร้อยกันได้ ทั้งเด็กกลุ่มชาติพันธ์ที่มีอยู่
จริงๆงานสร้างสุขครั้งนี้ น่าจะได้ไปด้วยกันนะครับ เห็นเด็กที่ แพร่ และเด็กภาคเหนือที่เขาร่วมงานในครั้งนี้แล้ว เห็นศักยภาพแล้ว แจ๋วจริงๆๆครับ
นับว่าเป็นบุญของออมสิน กับคุณแม่แอร์นะคะ
น้องออมสินน่ารักมากค่ะ คุณแม่แอร์ก็สวยน่ารัก มองหน้าแล้วบ่งบอกความงามด้านใน
เป็นบุญของผมด้วยครับ พี่พัชรา
สุข ที่สุด ก็ตอนที่มีลูก ค่ะ และ ทุกข์ ที่สุด ก็ตอนที่ลูก ไม่สบาย นะคะ พ่อน้องออมสิน