คนค้นคน "ผู้บริหารโรงเรียนในฝัน"

อยากให้ชาวโรงเรียนในฝันทั่วประเทศได้อ่าน เพื่อร่วมให้กำลังใจ....และช่วยกันโหวตครับ

“ถ้าชีวิตการเป็นครูของผม หากวันหนึ่งได้มีโอกาสได้ขึ้นไปเป็น ผอ. วันใดวันหนึ่ง ก็จะขอเลือกมาอยู่ที่นี่แหละ จะไม่ขอไปแสวงหาความเจริญที่ไหนอีก” นั่นเป็นคำพูดที่หนักแน่นและจริงจังของ สมประสงค์ มั่งอะนะ ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เมืองเล็กๆ ที่แวดล้อมด้วยขุนเขาและได้ชื่อว่า ‘แผ่นดินดอยลอยฟ้า’ ย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีก่อน สมประสงค์พาครอบครัวมาเที่ยวชมความงามของน้ำตกทีลอซูที่อำเภออุ้มผาง ในฐานะผู้มาเยือนเป็นครั้งแรกในชีวิต บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นจากการเดินทางในครั้งนั้น ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับครูธรรมดาๆ คนหนึ่ง “ผมกับครอบครัวมาเที่ยวน้ำตกแล้วก็มากางเต็นท์นอนที่โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม ภาพแรกที่เห็นก็คือ สภาพโรงเรียนเก่ามาก ทางเข้ามาก็กันดารเป็นทางลูกรังมีแต่ฝุ่นแดงๆ มีอาคารเรียน 3 หลัง แต่ละหลังก็ชำรุดทรุดโทรม น้ำไม่พอใช้ ไฟติดๆ ดับๆ ครูนักเรียนก็อยู่กันตามมีตามเกิด ด้วยความที่เราเป็นครูเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารมาก เด็กๆ เหล่านี้ควรจะได้รับการช่วยเหลืออะไรบ้าง” จนกระทั่งสมประสงค์กลับมาเยือนอำเภอเล็กๆ นี้อีกครั้งเมื่อ 2 ปีผ่านไป ทุกอย่างที่เห็นก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่นั้นมาเขาเลยตั้งปณิธานและความหวังอยู่ลึกๆ ในใจว่า จะต้องมาทำงานและเป็นผู้บริหารโรงเรียนแห่งนี้ให้ได้ กับอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่า มนุษย์ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนจึงน่าจะได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกัน!!

ปลายปี 2543 สมประสงค์สอบบรรจุเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษาได้เป็นอันดับที่หนึ่ง ของเขตการศึกษาภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ปณิธานที่เคยมีไว้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้อำนวยการฯ สมประสงค์ รุ่นใหม่ไฟแรงอย่างเขา กลับเลือกที่จะไปทำงานที่โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม โรงเรียนชายขอบที่ถูกจัดไว้ในลำดับท้ายๆ ที่จะมีคนเลือก นั่นทำให้ทุกคนแปลกใจกับการตัดสินใจของเขา เขายังจำได้ดีว่า ต้องยืนยันการตัดสินใจต่อคณะกรรมการหลายครั้ง “เด็กๆ เหล่านี้ก็เป็นคนเหมือนเราๆ ท่านๆ เพียงแต่เขาเลือกเกิดไม่ได้ คงจะดีกับพวกเขามากหากว่ามีใครสักคนตั้งใจจะไปช่วยเขาด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพราะความจำใจมาทำ” ผอ.สมประสงค์ จัดการแก้ปัญหาต่างๆ ในโรงเรียนแห่งนี้อย่างไม่รั้งรอ ทันทีที่ย้ายครอบครัวมาอยู่ด้วย ทั้งเรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมรอบๆ รวมไปถึงการเสนอของบประมาณสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ช่วงเวลาเพียงไม่นาน โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดตลอดระยะเวลาหลายสิบปีก่อนที่เขาจะมา แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เห็นเพียงทางกายภาพเท่านั้น การจัดความสำคัญอันดับต้นๆ อยู่ที่การแก้ปัญหาในด้านการศึกษาของเด็กๆ นั่นต่างหาก “โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งเดียวในอำเภออุ้มผาง เมื่อลงไปหาข้อมูลเด็กที่จบ ป.6 ในโรงเรียนประถมหลายโรงเรียน พบว่ามีเด็กจำนวนมากที่ไม่ได้เรียนต่อระดับมัธยม ผมถามจากครูว่า แล้วเด็กที่จบ ป. 6 ไปไหนกันหมด เราเองดูแล้วว่าถ้าไม่มาเรียนต่อที่นี่ โอกาสจะไปเรียนต่อที่อำเภออื่นคงยาก ก็ได้ความว่าเด็กที่จบส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนต่อ เพราะบ้านไกลมาไม่ไหว และอีกอย่างคือต้องช่วยพ่อแม่ทำงานในป่าในไร่ สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นครู คือต้องให้โอกาสทางการศึกษากับเด็ก แม้ว่าเด็กเหล่านั้นจะเป็นเด็กยากไร้ ด้อยโอกาส หรืออาจพูดภาษาไทยไม่ได้เลยก็ตาม แต่เราต้องหยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้กับเขา”

ผู้อำนวยการคนใหม่ใช้ช่วงเวลาปิดเทอมเดินทางไปตามหมู่บ้านต่างๆ ตามแนวตะเข็บชายแดนทั้งไกลและใกล้ การเดินทางที่ว่าก็ใช่ว่าจะสะดวกสบาย ต้องขับรถไปตามทางที่เป็นหล่มปลัก เดินเท้าข้ามเขาใช้เวลาเป็นวันๆ หรือข้ามวัน เพียงเพื่อ ‘ขอเด็ก’ ให้มาเรียนหนังสือ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือคำปฏิเสธ!! ปีแรกของการทุ่มเท พ่อแม่ชาวกระเหรี่ยงยินยอมให้ลูกๆ มาเรียน รวมแล้วประมาณ 30 คน มากินอยู่หลับนอน เรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน โดยมีเขาเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่เสื้อผ้า อาหาร อุปกรณ์การเรียน ไปจนถึงของใช้ส่วนตัว ปัจจุบันมีเด็กๆ ที่อยู่ในความดูแลของเขาเกือบ 300 คน ทุกเดือน ผอ.สมประสงค์จึงมีภาระหน้าที่ต้องหาเงิน 1.5 แสนเป็นอย่างน้อยเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายของเด็กๆ โครงการช่วยเหลือนักเรียนยากไร้ของ ผอ.สมประสงค์ จึงดำเนินต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 6 ปีแล้ว เขาทำทุกอย่างทั้งไหว้ทั้งขอจากสถานที่ต่างๆ ทั้งทางราชการ องค์กรเอกชน นักท่องเที่ยว จนกระทั่งวัด!! เพื่อขอปัจจัยในการดำรงชีวิตประจำวันของเด็กๆ “ผมคิดว่าเมื่อมีโอกาสได้รับการศึกษา โดยไม่ต้องจากบ้านไปไกล โอกาสที่จะอยู่บ้านเกิดของตนเองก็เป็นไปได้มากกว่า.. ผมอยากเห็นวันนั้นของพวกเขา มันคงเป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิต เพราะสำหรับชีวิตการเป็นครู มันคงไม่มีอะไรที่น่าปลื้มใจมากไปกว่าการเห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกับลูกศิษย์ที่ยากไร้และด้อยโอกาสกว่าคนอื่น” ความหวังของเขาอาจไม่มากเท่าทุกวันนี้ ถ้าเด็กๆ ในความดูแล รักเรียนและรักดีน้อยกว่าที่เป็นอยู่ แต่สำหรับ ‘ครู’ ที่เปรียบเสมือน ‘พ่อ’ ด้วย รับรู้อยู่เต็มอกว่าเด็กๆ ทุกคนควรค่าแก่การสนับสนุน และมีใครสักคนหยิบยื่นโอกาสให้แก่พวกเขา ติดตามการทำงานที่ทุ่มเททั้งพละกำลัง และจิตวิญญาณ ที่เป็นมากกว่า ครู และ ศิษย์ ได้ใน ‘พ่อพิมพ์แห่งอุ้มผาง’ ในรายการ ‘คนค้นฅน’ ในวันอังคารที่ 2 และ 9 ตุลาคมนี้ 4 ทุ่ม ทาง Modernine TV.

สามารถชมรายการย้อนหลังได้ที่

ตอนที่ 1

http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_kkk071108_11hi.asp

ตอนที่ 2

http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_kkk071108_12hi.asp

เชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและให้กำลังใจคนทำดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาส 80 พรรษา พ่อของแผ่นดิน ภายใต้โครงการ “ดีแทค ค้นคนดี” ที่ได้คัดเลือกบุคคลที่อุทิศตน ทำความดีเพื่อสังคมกับ 5 คนดี เพื่อนำชีวิตมาถ่ายทอดให้ได้ชมผ่านรายการ “คนค้นคน” ทางช่อง 9 อสมท. เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอังคารที่ 2 ตุลาคม นี้ โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ชมและลูกค้าดีแทคร่วมส่งกำลังใจ และจุดประกายขยายความดี เพื่อแสดงความสนับสนุนให้โครงการดี ๆ ทั้ง 5 คน สมประสงค์ มั่งอะยาคม อ.อุ้มผาง จ.ตาก

ประวัติ โปสเตอร์รวมประวัติ

วิธีการโหวต
* ส่งไปรษณียบัตรให้กำลังใจมาที่ตู้ ปณ. 232 ปณจ. ลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10310
(ดูตราประทับวันที่สิ้นสุดการส่งและ สงวนสิทธิ์ 1 ชื่อ ผู้ส่งไปรษณียบัตรต่อ1 คะแนน)
* ส่ง SMS โดยพิมพ์ D เว้นวรรคตามด้วยหมายเลขคนทำดี (D1)
มายังหมายเลข 8080 ฟรี (เฉพาะลูกค้าที่ใช้ระบบดีแทค)
สงวนสิทธิ์การส่ง 1 หมายเลขโทรศัพท์ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น
• ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 พฤศจิกายน 2550
• สำหรับคนดีที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนโครงการดีแทคกับคนดี แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1. คนดีจะได้รับเงินทุนสนับสนุน 1 ล้านบาท และให้กำลังใจคนทำดีเพื่อสังคมอีกคนละ 1 แสนบาท
2.. คนดีที่ได้รับ SMS และไปรษณียบัตร ให้กำลังใจจากผู้ชมมากที่สุดในแต่ละอันดับ จะแบ่งเงินสนับสนุนเพิ่มเติมตามอันดับดังนี้
- อันดับที่ 1 จะได้เพิ่มอีก 1 ล้านบาท
- อันดับที่ 2 จะได้เพิ่มอีก 8 แสนบาท
- อันดับที่ 3-5 จะได้เพิ่มอีกคนละ 4 แสนบาท

เขียนใน GotoKnow โดย อภิชาต พุทธเจริญ
ใน โรงเรียนในโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน

คำสำคัญ (Tags): #labschool#labschool project#คนค้นคน#หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน#โรงเรียนในฝัน

หมายเลขบันทึก: 145351เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2007 22:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (7)

ดร.ชาญณรงค์ อินอิว

เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2007 23:53 น. ()

ทำอย่างไรจะให้การศึกษาถึงตัวผู้เรียนมากที่สุดดีครับ

Jirathorn

เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2007 00:31 น. ()

การให้โอกาสแก่ผู้ที่ขาดโอกาสคือ การให้ที่ยิ่งใหญ่
เป็นกำลังใจให้ค่ะ "พ่อพิมพ์แห่งอุ้งผาง"

สุพล แคว ภูเขียว

เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2007 21:59 น. ()

ในฐานะผู้บริหารโรงเรียน ขอชื่นชมกับอุดมการณ์อันแรงกล้า และสานฝันนั้นสู่ความสำเร็จ เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนไทย

ถึงแม้จะเป็นเปลวเทียนดวงเล็ก ที่ส่องแสงในถิ่นกันดาร แต่เปลวเทียนดวงเล็กนี้ เป็นแสงสว่างแก่เด็กหลายร้อย หลายพันคนให้ได้พบอนาคต เรียนรู้โลกกว้าง ที่เรียกว่า การศึกษา