เสียงชีวิต...


 

ตุ๊บ ๆ ตุ๊บ ๆ
ความดีใจอยากบอกไม่ถูก เมื่อครั้งที่พ่อได้ใช้หูแนบสนิทชิดกับท้องของแม่ เพื่อเงี่ยฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยนับตั้งแต่อยู่ในครรภ์
เสียงชีวิตน้อย ๆ กำลังเต้นแข่งกับเสียงหัวใจของพ่อและแม่ที่เฝ้าประคองรัก ทะนุถนอมเสียงหัวใจน้อย ๆ ในครรภ์นั้นอย่างใจจดใจจ่อ

อุแว๊ ๆ
เสียงทารกน้อยที่เพิ่งคลอดออกจากครรภ์มารดา เสียงสัญญาณแห่งชีวิตที่นับอุบัติและลืมตาขึ้นดูโลกแห่งนี้
อีกทั้งดวงตาทั้งสองคู่ สายตาของพ่อและแม่เฝ้าเพ่งเพียร พินิจ สอดส่อง ดูแล รักษาลูกน้อยกลอยใจในทุกกระเบียดนิ้วให้อยู่รอด ปลอดภัย เจริญวัย

พ่อ แม่
คำพูดใส ๆ ที่ชื่นใจที่สุดของชายและหญิงทุกคู่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพ่อและแม่ ที่เฝ้ารอฟังเสียงสวรรค์
เสียงที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังจากลูกน้อยที่เปล่งออกมาจากใจ เป็นเสียงอันบริสุทธิ์ ไร้ซึ่งธุลีกิเลส

สวัสดีครับ/ค่ะ คุณพ่อ คุณแม่
เสียงกล่าวขาน ทักทาย เมื่อยามไปและยามกลับจากโรงเรียน สถานที่ที่พ่อและแม่เพียรสร้างฝากอนาคตของลูกน้อยให้เติบใหญ่อย่างมั่นคง
เสื้อสีขาวของลูกน้อยอันขาวสะอาด มิแตกต่างจากใจที่ใสสะอาดของลูกน้อยซึ่งไร้มายา และโทษภัย

รักพ่อ รักแม่
คำพูดเรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่ซึ้งและกินใจของผู้ใดที่เป็นพ่อเป็นแม่
คำพูดที่เปรียบหนึ่งหยาดน้ำทิพย์ชโลมใจ เมื่อยามเหนื่อย เมื่อยล้าอย่างแสนสาหัส
คำพูดที่เปรียบเสมือนโอสถอันวิเศษปลุกพลังที่หลีกเร้นซ่อนตัวอยู่ภายในของพ่อและแม่ ที่เฝ้าทนตรากตรำทำงานหนัก เลี้ยงลูกมาจนเติบใหญ่

กร้อบแกร้บ ๆ
เสียงกระดาษห่อของขวัญจากลูกที่พ่อและแม่บรรจงแกะอย่างพิถีพิถัน ที่ลูกนั้นบรรจงถักทอ หุ้มห่อ เป็นสิ่งแทนคำพูดร้อยคำพันคำ
ของชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งอุดมไปด้วยความหมาย บ่งบอกถึงความใส่ใจ ดูใจ เอาใจใส่ พ่อและแม่อันเป็นที่รักยิ่ง ที่ได้ เฝ้าเลี้ยง กล่อมเกลี้ยงมาจนกาลปัจจุบัน

แคร้ก ๆ แคร้กๆ
เสียงล้อรถเข็นที่ลูกหญิงและลูกชาย ช่วยกันเข็น ประคับประคองคุณพ่อและคุณแม่ที่แก่ชราจนสองขาแทบเดินไม่ไหว
ท่องเที่ยวไปตามสายแห่งธรรม เข้าวัด ฟังเทศน์ ฟังธรรม รักษาศีล บรรจงรัก บรรจงมอบธรรมะอันสงบและร่มเย็นใจเพื่อตอบแทนค่าน้ำนมซึ่งเป็นหนี้ศักดิ์สิทธิ์ ที่วิญญูชนอันประเสริฐ วิญญูชนที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย พึงเพียรตอบแทนเพื่อความสมบูรณ์แห่งความเป็นมหาบุรุษและวีรสตรี

ตุ้บ        ตุ้บ                ตุ้บ                                                             ตุ้บ
เสียงหัวใจที่ช้าและแผ่วเบา เริ่มเต้นช้าลง ๆ ในทุก ๆ วินาที
เสียงที่บ่งบอกถึงสังขารซึ่งได้แก่อัตภาพร่างกายอันเป็นสิ่งสมมติในชาตินี้ ใกล้ถึงกาลเวลาที่จะต้องทอดกายลงบนแผ่นดิน
โดยรอบ ๆ รายล้อมไปด้วยเสียงหัวใจที่เต้นเร็วและแรงของลูกน้อยกลอยใจ ดวงหนึ่ง ดวงนั้น ดวงเดิม ที่เฝ้าดูแล ปรนนิบัติ พัดวี ในทุกกาล ทุกวินาทีของชีวิตแห่งบุพการี

...............ZZZZZZZZZZZZZ
ความเงียบสงัด สงบ แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู เมื่อถึงครั้นที่กายและดวงจิตจะต้องแยกออกจากกัน
ความเงียบสงัด สงบ ที่ไม่มีแม้เสียง ร้องไห้ สะอึก สะอื้น เพราะลูกน้อยกลอยใจนั้น เต็มตื้นด้วยความรู้สึกอิ่มอย่างเต็มที่ กับการได้ปรนนิบัติ พัดวี บุพการีที่รักนี้อย่างถึงที่สุดและเต็มกำลัง
มิมีสิ่งใดต้องเสียใจ ค้างคาใจ ในสิ่งที่เรายังมิได้กระทำให้กับพ่อและแม่ บุคคลอันประเสริฐยิ่งของชีวิต
มิมีสิ่งใดต้องฝังใจกับการที่เรามิได้ทำผิด กับการที่เราได้มิได้หลงใหล ใฝ่ฝัน ชายหรือหญิงคนใด ชายหรือหญิงคนอื่นยิ่งกว่า หญิงแม่และชายพ่อ คนหนึ่ง คนดี คนสูงยิ่งคนนี้ ทำให้กาลเวลาของชีวิตได้ปรนบัติดูใจพ่อและแม่อย่างเต็มที่แม้ในวินาที่สุดท้าย
มีเพียงสายน้ำตาแห่งความตื้นตันที่ได้ส่งแม่และพ่อไปสุข ไปดี ไปสบาย พ้นจากบ่วงความทุกข์ในวัฏสงสารนี้

ลูกเอ๋ย ลูกรัก ลูกจัก รักแม่ รักพ่อ
ลูกฟัก ลูกก่อ ลูกรอ รักหนอ ต่อไป
เสียงหนึ่ง เสียงนี้ เสียงชีวี รังสรรค์ งดงาม
ตราบชีวี ชีวินปราน ลูกสาน รักแม่พ่อ ตลอดไป...

หมายเลขบันทึก: 144489เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2007 08:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท