เมื่อ ดร.แสวง รวยสูงเนินมาจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการที่ มมส. 3 พ.ย. 50 (ดร.แสวง Vs นายบอน F2F volume 2 )


วันเสาร์ที่ 3 พ.ย. 2550 วันที่มีการทอดกฐินหลายสถานที่แต่ที่ มมส. มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง "การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการตามภูมิปัญาท้องถิ่น" ณ สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน โดยความร่วมมือของศูนย์วิจัยและพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น + คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมด้วย สมาคมพัฒนาชุมชนเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ซึ่ง ดร.แสวง รวยสูงเนิน เป็นหนึ่งในวิทยากรคนสำคัญของงานนี้ด้วย

แต่จุดเล็กๆ ที่สำคัญอีกมุมหนึ่ง 2 blogger ของ gotoknow มาเจอกันอีกแล้วครับ F2F อีกครั้ง ซึ่งเป็น blogger ที่ไม่ค่อยพูดกันเลย แต่เอามาแซวกันผ่าน blog ใน gotoknow เสียอีก

ในคราวก่อน  ที่ท่าน ดร.แสวงควง ดร.ประสิทธิ์มาประชุมเตรียมงานที่คณะสิ่งแวดล้อม ฯ มมส นายบอนถ่ายรูปท่าน ดร.แสวง 1 รูป งานนี้เลยจัดการถ่ายภาพท่าน + คลิปวิดีโออย่างจุใจไปเลย (แล้วจะแซวอย่างจุใจหรือเปล่า???)


นายบอนโผล่หน้าเข้าไปในห้องประชุม ช่วง 2 โมงเช้ากว่าๆ เห็นท่าน ดร.แสวงก้มหน้าก้มตาที่ Notebook คู่ใจของท่านอยู่แล้ว นายบอนเลยแอบไปชำเลืองมองห่างๆ เห็นท่านกำลังเปิด Microsoft word และ powerpoint ท่าทางกำลังเตรียมข้อมูลในการนำเสนออยู่ สักครู่ใหญ่ มองอีกที เปิดเวบท่อง internet ซะแล้วสิ




ท่าน ดร.ประสิทธิ์ มอบหมายให้ นายบอนช่วยถ่ายกล้องวิดีโอ Handycam ที่ท่านขนอุปกรณ์มาพร้อม นายบอนเลยไปนั่งรื้อสมบัติ อุปกรณ์ ขาตั้ง สายเชื่อมต่อต่างๆ นั่งมุมเดียวกันท่าน ดร.แสวงในระยะพอมองเห็นหน้าจอ Notebook เช่นเคย มองไปอีกรอบ เอ๊ะ ท่านเปิดเวบหน้าจอ gotoknow พอดี มองอีกที กำลังเปิด blog ของท่านนั่นเอง .. คงกำลังเขียนตอบบันทึกอย่างเคย...

พอชาวบ้าน ผู้นำชาวบ้านที่เชิญมาร่วมสัมมนา เริ่มทยอยเข้าห้องประชุมกลุ่มแรกๆ ท่าน ดร.แสวงก็หยิบกล้องถ่ายรูปของท่าน มาเดินเก็บภาพ จังหวะหนึ่งเหลือบเห็นท่านเล็งกล้องมายังนายบอน แต่นายบอนก็เดินไปเดินมา หันข้างให้บ้าง แบบนี้ท่านคงจะถ่ายรูปนายบอนได้ยากพอสมควร




ในช่วงหนึ่ง ท่าน ดร.แสวงขึ้นเวทีทำหน้าที่เป็นวิทยากร+พิธีกรช่วงถอดบทเรียน ท่าน ดร.แสวงก็เดินเอากล้องของท่านมาให้นายบอนช่วยเก็บภาพให้ท่านด้วย จะนำไปลงในเวบไซต์ แหม พอได้จับกล้องของท่าน ฟังก์ชั่นของกล้องเยอะมาก พอถ่ายภาพให้ท่านในแต่ละจังหวะ ก้เปิดดูภาพที่ท่านถ่ายเก็บไว้ แหม.... ท่านสามารถถ่ายรูปนายบอนไว้ได้เหมือนกันนะครับ เต็มหน้าเลย แหม ขนาดตั้งใจไม่เปิดจังหวะให้ถ่ายรูปได้ง่ายๆ ท่านยังตาไวส่องกล้องหามุมจับภาพนายบอนไว้ได้อีกด้วย




ทีมงานหลายคนช่วยงานกันวุ่น แต่นายบอนนั่งเฝ้ากล้อง ชาร์ทแบตเตอรี่ไปเรื่อยๆ ช่วงบ่าย ก็ไปเดินซอกแซกบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงประชุมระดมสมองกลุ่มย่อย จนเพลียเหมือนกัน ส่วนท่าน ดร.แสวงยังคงนั่งทำงานที่หน้าจอ notebook ของท่านอยู่ตลอดเวลา ดังคลิปที่ถ่ายไว้



ช่วงสุดท้ายของการสัมมนา ท่าน ดร.แสวงบอกว่า ที่นี่ติด Wireless Internet ไว้ดีจริงๆ ท่านจึงทำงานหลายอย่างทั้งการตอบเมล์นักศึกษาจากต่างประเทศ และท่องเวบค้นหาข้อมูลอย่างสบายอารมณ์

แต่ในช่วงการประชุมดำเนินอยู่ ใช่ว่าท่านจะสนุกกับ internet อย่างเดียว ท่านคอยฟังประเด็นต่างๆไปด้วย และจดประเด็น คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ เขียนลงในสมุดโน๊ตเล็กๆ ในเวลาที่ ดร.แสวงต้องพูด สรุป ให้ความเห็น ท่านจะหยิบโพยส่วนตัวนี้ ขึ้นมาเปิดและอธิบายขยายความอย่างน่าฟัง ประชับ ดุดันถึงใจ (หมายถึง น้ำเสียงที่อธิบาย) และเติมลูกเล่นลีลาการพูดได้อย่างกลมกลืน

สำหรับอาจารย์ท่านอื่น จะเขียนประเด็นที่จะพูดใส่กระดาษ A4 แต่ท่าน ดร.แสวงเขียนใส่สมุดโน๊ตที่มีห่วงร้อยแต่ละแผ่นเอาไว้ เก็บรวบรวมไว้เป็นชุด ไม่สูญหาย กระจัดกระจายแบบกระดาษหลายๆแผ่น สังเกตในคลิปนี้ครับ เห็นท่านเปิดโพยที่ว่า อย่างชัดเจน




ในช่วงปิดท้ายการสัมมนา เมื่อชาวบ้านแยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้ว ท่าน ดร.ประสิทธิ์ ได้กล่าวขอบคุณ + เปิดใจ แจ้งก้าวเดินต่อไป จะทำกิจกรรมใดต่อไปอย่างไรบ้าง ช่วงนี้ เป็นการพูดคุยแบบกันเอง ท่าน ดร.แสวง ก็เปิดเผยว่า ท่านจบ soil science + จุลชีววิทยา ด้วย ส่วน ดร.ยรรยงค์ก็ว่า ท่านเป็นคนชัยนาท ได้ภรรยาเป็นคน จ.เลย ช่วงสุดท้าย ท่านอยากให้ทุกคนได้พูดเปิดใจกับงานที่พึ่งผ่านพ้นไปอย่างดี

หลายท่านพูดเปิดใจไป ท่าน ดร.แสวง พยายามแหย่นายบอน

"บอนพูดมั่งสิ"

แต่นายบอนนั่งเงียบๆ ตามสไตล์

".... ชอบไปเขียนแซวผมใน blog ดีนัก...."

สำหรับเวทีนี้ นายบอนไม่ค่อยพูดครับ แต่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย แบบชาว blog บางโอกาสก็อาจจะจ้อจนท่าน ดร.แสวงแปลกใจก็เป็นได้นะครับ จะพูดแบบที่เขียนใน blog อย่างถึงใจ แบบที่ไปเจอครูอ้อย สิริพร กุ่ยกระโทก ช่วงต้นปีนี้ หรือ กันเอง แบบพี่หนิง (อ้วน) DSS@Msu ก็ย่อมได้นะครับ ในโอกาสต่อๆ ไป



จากคลิปวิดีโอ คลิปที่สอง ที่ท่าน ดร.แสวงพูด นายบอนถอดบางช่วงบางตอนที่สำคัญและโดนใจมาฝากกัน.......ดังนี้ครับ
.


".......ถ้าท่านมีความรู้แล้ว นั่นคือ แรงแม่เหล็กแท่งใหญ่เลย ที่จะดึงทุกสิ่งทุกอย่าง มารวมอยู่ที่นั่นและค่อยๆพัฒนาได้........................"

"................................เศรษฐกิจพอเพียงตัวหนึ่ง คือ การอยู่อย่างมีคุณภาพ เกษตรอินทรีย์ตัวหนึ่งครับ เราต้องมองให้ไกลครับ เกษตรอินทรีย์นี่เป็นเรื่องสำคัญนะครับ อย่ามองข้ามนะครับ เป็นเรื่องของการพึ่งตนเอง เกษตรอินทรีย์ ไม่ใช่เกษตรที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์นะครับ เกษตรอินทรีย์ตามความหมายที่ผมทำงานกับกลุ่มเครือข่าย คือ เกษตรที่ไม่ทำลายตัวเอง ไม่ทำลายผู้อื่น และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตรงนี้ทำให้เราอยู่ได้ครับ แล้วคิดไว้เลยนะครับ กิจกรรมที่ผมทำตอนนี้ ขอยกตัวอย่างเพื่อต่อยอด.....................

...........................ตอนนี้ ผมทำนาของผมเองนะฮะ โดยไม่ไถ ไม่ดำ ไม่หว่านนะครับ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่า อนาคตรถไถจะไม่มีใช้ ควายก็หมดแล้ว รถไถถึงแม้จะมีก็ไม่มีน้ำมันเติม ท่านจะทำนาอย่างไรผมถามก่อน ..................."


ด้วยลีลา และน้ำเสียงการพูดที่ดุดัน จริงจัง ในประเด็นปิดท้าย ทำให้นายบอนอยากจะหาโอกาสไปเยือนนาของท่าน ดร.แสวงสักครั้งหนึ่งในช่วงต้นปี 2551 โดยพาสาวน้อยที่เป็นหมอดิน และสนใจเรื่องเกษตรอินทรีย์ไปด้วย นายบอนเคยดูภาพหลากหลายจากท้องนา ของท่าน ดร.แสวงแล้ว .....

.... ยังไม่จุใจพอ

... จะบุก ตามไปถ่ายคลิปวิดีโอ และภาพนิ่งมากมาย มาเผยแพร่และถ่ายทอดเป็นบันทึกในแบบของนายบอนในโอกาสต่อไป.....



หมายเลขบันทึก: 144358เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2007 15:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 23:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แหม ตั้งใจแซว แบบเต็มๆเลยนะครับ

ทีใครก็ทีใครนะครับ อิอิ

ถือเสียว่าเป็นทีของผมนะครับ อ.แสวง อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท