- ชื่อจริงของข้าพเจ้าคือ เฉลิมเกียรติ นามสกุล สอนคำแก้ว เกิดวันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ .............
- ชื่อเล่น ๆ ที่เพื่อนฝูง ญาติมิตร พ่อแม่พี่น้องเรียกคือ มะเดี่ยว อีเดี่ยว สะลอเตอร์ และ เฮียเดี่ยว
- บ้านเกิดอยู่ที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ใกล้ๆ บ้านป้าแดง
การศึกษา
- ประถม ที่ โรงเรียนบ้านศรีเชียงใหม่ แววแห่งนักแสวงหาถูกจุดประกายขึ้นที่นี่ ในชั่วโมงเรียนวิชา สปช. หรือ วิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต พออ่านบทเรียนจบเด็กชายเฉลิมเกียรติ ก็เลยตั้งข้อสงสัยถามคุณครูผู้สอนด้วยคำถามที่ว่า " คุณครูครับในหนังสือทำไมบอกว่า เพชร เป็นสิ่งที่แข็งที่สุดในโลกล่ะครับ แล้วพวกพลอย ทับทิมละครับผมว่าน่าจะแข็งเหมือนกัน " คุณครูก็พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ตอบ และด้วยความยิ่งสงสัย เด็กชายเฉลิมเกียรติจึงเข้าไปคะยั้นคะยอถามจนทำให้คุณครูถึงกับอารมณ์เสียและไม่พอใจที่เด็กชายเฉลิมเกียรติถามคำถามนั้น ซึ่ง ณ ห้วงเวลานี้ก็ไม่รู้ว่าคำถามนั้นยากเกินไปรึเปล่า คุณครูกลับตะคอกด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจออกมาว่า " นี่เธอจะถามอะไรกันนักหนานี่ ในหนังสือบอกว่าเพชรก็เป็นเพชรสิ จะสงสัยไปทำไมกัน " ไฟแห่งขบถ ไฟแห่งการแสวงหาถูกจุดขึ้นที่นี่ครับ
- มัธยมต้น เรียนที่โรงเรียนพานพร้าว เป็นโรงเรียนประจำอำเภอศรีเชียงใหม่ เรียนอยู่ 1 ปี แต่ไม่มีอะไรดีขึ้นในตัวเอง คุณพ่อเลยให้ย้ายที่เรียนโดยไปเรียนที่เดียวกันกับน้องสาวคือ โรงเรียนท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ( บ้านป้าแดงครับ และพ่อบ้านของป้าแดงก็เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่นั่นด้วยครับ ผมนึกตั้งนานแต่พอเจอหน้าท่านก็ร้องอ๋อออกมาเสียงดังเลยครับ ) เรียนอยู่ที่นี่จนจบ ม.3
- ปวช. โรงเรียนเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งสำคัญที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องจากบ้านมาไกล และเป็นก้าวย่างแห่งการเริ่มต้นที่ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ชีวิตที่หลากหลายรวมทั้งประสบการณ์ที่ควรจดจำมิอาจลืมได้
- ปวส. ที่ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตขอนแก่น ซึ่งที่นี่เองเป็นสนามที่สำคัญซึ่งทำให้ข้าพเจ้าได้ฝึกฝนฝีมืออย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาถึงขนาดอาจารย์ต้องโทรศัพท์ตามเพื่อให้มาสอบ ในด้านกิจกรรมนักศึกษาก็ได้ทำหลากหลายไม่ว่าจะเป็นประธานชมรมอาสาฯ ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ คณะกรรมการสโมสรนักศึกษา ประธานฝ่ายศิลปและวัฒนธรรมจัดงานราชมงคลน้อมเกล้าซึ่ง วิทยาเขตทั่วประเทศมารวมกัน และอีก ฯลฯ
ประสบการณ์ที่มิอาจลืมได้คือ ได้มีโอกาสร่วมงานกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ในส่วนงานของการเป็นนักสื่อความหมายธรรมชาติ และงานเกี่ยวกับ การคัดค้านขอแก้ไข พรบ.ป่าชุมชน ที่กำลังระอุในช่วงนั้น ทำให้รู้ซึ่งถึงคำว่า เสียสละ มิตรภาพ และ อุดมการณ์ อย่างแท้จริง
- ปริญญาตรี ที่ ศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ( คลองหก ) และก็เหมือนเดิมครับ กิจกรรมนำหน้าการศึกษามาทีหลัง เมื่อมาอยู่ที่นี่ก็สร้างวีรกรรมไว้เยอะมากครับ ด้วยการเป็นนักกิจกรรม จนทำให้ไม่มีใครไม่รู้จัก นายมะเดี่ยว
- ปริญญาโท กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และกำลังจะจบในเร็ว ๆ นี้ พร้อมทั้งกำลังมองหาที่เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
ปัจจุบัน มีงานประจำอยู่ที่ ธนาคารออมสิน สาขาเสลภูมิ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด มีกิจกรรมงานจรคือ ประกอบธุรกิจส่วนตัว เป็นคนรับจ้างพูดหรือวิทยากร ทำกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นนัก(ชอบ)คิด สถาปนาตัวเองเป็นนัก(อยาก)เขียน และ ฯลฯ
เข้ามาได้อย่างไร
ด้วยความเป็นคนที่คิดว่าตนเองโง่แบบสม่ำเสมอ เลยต้องหาความรู้ใส่ตัวเองอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มความรอบรู้ให้กับตนเอง บางทีก็เบื่อกับการอ่านหนังสือเลย มานั่งเล่นเน็ต เล่นไปเล่นมาก็มาเจอ ที่นี่ ที่ Gotoknow.org ทำให้ข้าพเจ้าคิดได้เลยว่าที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ของข้าพเจ้าเอง มีความรู้มากมายให้ข้าพเจ้าได้ตักตวง ที่สำคัญ ดอกแห่งมิตรภาพได้เบ่งบานที่นี่แบบเต็มท้องทุ่งแห่งการเรียนรู้ งดงามมากครับ
ถ้าถามว่าจุดยืนอยู่ตรงไหน
อันนี้ตอบยากมาก ขออนุญาตกล่าวโดยความรู้สึกส่วนตัวและสิ่งที่ได้เชื่อมั่นมาตลอดชีวิตว่า จุดยืนของข้าพเจ้าอยู่ที่ " ความถูกต้อง การเสียสละ ความยุติธรรม และการสร้างสรรสังคมให้อุดม งดงาม "
ข้าพเจ้ากำลังจะไปไหน
ด้วยข้าพเจ้ามีความเชื่อที่ว่า อยากจะเห็นสังคม บ้านเมืองเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เท่าเทียมกันขึ้น อยากให้ผู้ที่ด้อยโอกาสได้รับโอกาสที่เหมาะสม อยากเห็นเด็กนักเรียน นักศึกษาและประชากรบ้านเรามีความรู้ความสามารถ มีจิตอาสาจิตสาธารณะ มีศักยภาพที่ดีขึ้น มีมุมมองวิธีคิดที่ดี เป็นคนดีของครอบครัว ของสังคม และเป็นคนดีของชาติบ้านเมือง ข้าพเจ้าเลยตัดสินใจจะไม่ทำแค่งานประจำเพียงอย่างเดียว โดยการเป็นวิทยากรตระเวณบรรยายในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชนต่าง ๆ และคิดว่าจะทำแบบนี้ต่อ ๆ ไปจนกว่าจะคิดวิธีอะไรใหม่ๆ ที่ดีกว่าที่ทำอยู่ตอนนี้ได้
ข้าพเจ้าต้องการอะไร
ส่วนใหญ่ได้ตอบไปแล้วครับในหัวข้อข้างบน และนี่เป็นอีกหนึ่งความต้องการส่วนตัวของข้าพเจ้า คือ อยากให้คนในโลกนี้มีความรักให้กันมากขึ้น เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่า ความรักทำให้คนอ่อนโยน ความรักทำให้คนเป็นคนดี ความรักทำให้เราดูแลใส่ใจผู้อื่นมากขึ้น และความรักทำให้โลกสดใส สวยงาม ( โดยส่วนใหญ่ บันทึกของข้าพเจ้ามักจะเขียนแต่เรื่องที่เกี่ยวกับความรัก เพราะข้าพเจ้าเชื่ออย่างนั้น )
ทำไมต้องเฮฮา
ขอบอกเป็นประโยคเดียว สั้น ๆ ว่า " อะไรก็ตามที่เราศรัทธาและทำด้วยหัวใจ เป็นสิ่งที่ก่อเกิดประโยชน์และงดงามเสมอ "
เฮฮาแล้วได้ความรู้ ได้ความรัก ได้มิตรภาพดีดี ได้ความสุข ได้กัลยาณมิตรที่งดงาม ได้เห็นพลังแห่งการสร้างสรรค์สังคม ทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
เฮฮาแล้วได้ขัดเกลากิเลส อัตตาในตัวเอง ได้สนทนาความรู้ ได้สนทนาธรรม ทำให้เราได้เป็นคนมากขึ้น
เฮฮาแล้วได้ตรวจสอบหัวใจตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ
เฮฮาแล้วได้พัฒนาสมอง ความคิด ความรู้ความสามารถในด้านต่าง ๆ ของตัวเอง
เฮฮาแล้วได้ทำอะไรดีดีเพื่อสังคม เพื่อบ้านเมือง โดยมีกัลยาณมิตรผู้ร่วมอุดมการณ์มากมาย
เฮฮาแล้วทำให้หัวใจพองโต .. จริง ๆ ครับ 555555
……………………………..
จากแฟ้มประวัติของข้าพเจ้า
มีผู้ทรงความคิดและความรู้หลายท่านได้ให้คำจำกัดความเกี่ยวกับข้าพเจ้าไว้มากมาย เช่น....
- อ่านความรู้สึกได้ง่ายหากเพียงแต่ว่าเข้าใจได้ยาก
- เป็นคนที่ให้คำปรึกษาได้ดีในเกือบทุก ๆ เรื่องแต่กระนั้นถ้าจะทำตามควรคิดให้รอบคอบเสียก่อน
- เป็นคนที่มีแนวความคิด หลักการในการดำเนินชีวิต ที่ไม่ค่อยจะสอดคล้องกับงานประจำที่ทำอยู่แต่ก็ดูสอดรับกลมกลืนกันได้อย่างลื่นไหล
- ผู้ทรงความรู้ท่านหนึ่งบอกว่า ข้าพเจ้าเป็นนักเดินทาง หาใช่พนักงานธนาคาร
- และอีกมากมาย ซึ่งในแต่ละนิยามของแต่ละคนที่ให้ข้าพเจ้านั้น ต่างวาระ ต่างเหตุการณ์ ต่างสถานที่ ต่างอารมณ์และความรู้สึก
<h4 style="text-align: center" align="left"></h4>
และบ่อยครั้งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจเลยว่าข้าพเจ้าเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ ข้าพเจ้ารู้อยู่อย่างหนึ่งว่าข้าพเจ้าคือ นักเดินทาง ที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ในโลกของตัวเอง อยู่ในสวนพฤษาแห่งความรู้สึก
ข้าพเจ้ามีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งที่พึงปฏิบัติมาโดยตลอดเกือบทั้งชีวิตของข้าพเจ้าว่า ในโลกนี้มีงานอยู่สองอย่างที่ข้าพเจ้าได้รับผิดชอบและพยายามทำอย่างดีที่สุดคือ
หนึ่ง งานที่หล่อเลี้ยงชีพ เลี้ยงดูผู้มีพระคุณ และครอบครัวของข้าพเจ้าให้มีความสุข ในสังคมแห่งการประเมิณค่ามนุษย์ด้วยวัตถุและวุฒิการศึกษา
และ สอง งานที่ข้าพเจ้าพึงใจที่จะกระทำอย่างยิ่งคืองานที่ทำเพื่อหล่อเลี้ยงจิดใจของข้าพเจ้าให้ชุ่มชื่น อบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งความสุข ความฝัน เป็นเชื้อเพลิงชีวิตให้ข้าพเจ้าได้ต่อสู้กับคลื่นยักษ์แห่งสังคมที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าความยุติธรรมถูกตัดสินโดยค่าของเงิน และคนของใคร
หากในที่นี้ ความรู้สึกที่ตกผลึกแล้วไซร้ หากไม่นำมาเจียรไนแล้ว ก็ไม่สามารถมองหาความงามได้ดั่งเพชร
ความกล้าที่ไม่ได้ถูกหล่อหลอมจากเปลวไฟแห่งความคับแค้นก็ไม่สามารถที่จะแข็งแกร่งได้ดั่งหินผา
ความสุขที่ยังไม่ได้ถูกเพาะบ่มให้สุกงอมภายในจิดใจแล้วไซร้ หาใช่ความสุขที่ยั่งยืน
ถึงแม้ว่าในบางขณะที่ข้าพเจ้านั้นสับสนในจิดใจของเข้าพเจ้าเองนั้น มีอยู่ไม่กี่อย่างที่ข้าพเจ้าเข้าใจ และเข้าใจมาตลอด คือ ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าต้องการอะไร และจะไปที่ไหน
</font>
สวัสดีค่ะน้องสายลม
ได้รู้จักกันมากขึ้นนะค่ะ พี่ยังไม่ได้ทำการบ้านเลยค่ะ
สวัสดีนายสายลม
คราวนี้ เฮาฮู้แล่ว ว่าเจ้าเป็นไผ อิอิ
สวัสดีคะ
ตามมาอ่านและทักทาย...
ขอร่วมรู้จักว่า เจ้าเป็นไผ ด้วยคนนะคะ
---^.^---
แฮะๆๆๆ โทษทีค่ะ
พี่แป๊ด จะเขียนชื่อ น้องสายลม แต่ไปคิดถึงน้องออต ได้งัยเนี่ย อายจัง
สวัสดีครับน้องออต
แวะมารับการบ้านครับ