ในหนังสือ “เจาะจุดแข็ง” ที่พูดถึงในครั้งที่แล้ว ได้พูดเกี่ยวกับเรื่อง Promotion หรือการเลื่อนตำแหน่งไว้ว่า . . . ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงคือการที่เราคิดว่าคนทุกคนปรารถนาจะได้รับความนับถือในรูปแบบเดียวกันหมด นั่นคือความนับถือที่ได้มาจากอำนาจ เรื่องนี้ถ้าเป็นเมื่อยี่สิบปีที่แล้วก็ไม่ถือว่าผิดพลาด เพราะองค์กรส่วนใหญ่มีวัฒนธรรมเชิงอำนาจ เป็นแบบ Command & Control จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมคนถึงดิ้นรนตะเกียกตะกายที่จะไต่เต้าให้ไปสูงที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขาพ้นการถูกควบคุม เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขาได้รับการยอมรับนับถือ . . .
อ่านแล้วทำให้เห็นภาพของการ Promote ในลักษณะของการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนในที่สุดคนๆ นั้นก็หลุดออกนอกกรอบความสามารถ (จุดแข็ง) หรือความถนัดของเขา ผมได้พบเห็นกรณีดังกล่าวมานับครั้งไม่ถ้วนที่คนในหน่วยงานได้รับการ Promote ให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยที่บางท่านอาจไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้น ครั้นเมื่อถูกวางลงไปให้ต้องรับผิดชอบแล้ว ท่านก็ทำได้ไม่ค่อยดี เพราะเป็นเรื่องที่ท่านไม่ถนัด ยิ่งทำไปก็ยิ่งผิดพลาด จนในที่สุดขาดความมั่นใจ ทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ ลูกน้องเริ่มไม่เชื่อถือ ไม่ให้ความนับถือ ไม่เชื่อในฝีมือ . . .
ประเด็นที่สรุปได้ก็คือข้อสรุปที่ว่าสำหรับองค์กรยุคนี้ โดยเฉพาะองค์กรที่เน้นการเอื้ออำนาจ (Empowerment) ไม่จำเป็นต้อง Promote คนในลักษณะแนวดิ่งเสมอไป จะทำในแนวราบก็ได้ . . . ว่าแต่ว่าใครมีตัวอย่างเรื่องการ Promote ในแนวราบนี้บ้าง ช่วยยกตัวอย่างหรือแชร์มาให้ฟังกันบ้างนะครับ เผื่อจะได้นำไปปรับใช้กันได้
ขอบคุณ คุณ Mitochondria มากครับ . . . ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้เจอกันนะครับ
สำหรับเรื่องที่ยกมากรณีที่โปรโมทขึ้นมาจนหลุดจากกรอบของความถนัด ก็เป็นอย่างที่ คุณไมโตบอกแหละครับว่าเป็นระบบอุปถัมภ์ ระบบราชการ โดยไม่ได้ดูความสามารถ ซึ่งได้ก่อผลเสียมากมาย
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องการโปรโมทในแนวราบครับ