การย้อมครามนั้น ช่างย้อมเชื่อว่าครามมีวิญญาณมีชีวิต ครามอาจจะหนีได้หากไม่พอใจ ครามจะย้อมไม่ติดเมื่อเราทำผิดกฎเกณฑ์บางอย่าง และอีกสารพัดที่เป็นความเชื่อดั่งเดิมของชาวบ้านวาใหญ่
แต่เมื่อลองสำรวจอีกสองสามชุมชนพบว่าความเชื่อเรื่องวิญญาณเหล่านี้หายไป เพราะมีความรู้ใหม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาอธิบายเรื่องคราม
วิทยาศาสตร์สมัยใหม่อธิบายเรื่องครามด้วยหลักเกณฑ์ความเป็นกรด- เบส อุณภูมิและออกซิเจน(ไม่ขออธิบายเพราะไม่ได้ศึกษา) หลักการเหล่านั้นบางเรื่องกำลังทำลายความเชื่อและกฎเกณฑ์ดีดีบางอย่าง
เมื่อช่างย้อมบางชุมชนทราบถึงภาวะย้อมติดและภาวะย้อมไม่ติด ในเชิงวิทยาศาสตร์ ความเชื่อที่เคยมีหายไป ผมออกจะไปทางเสียดายอยู่มากเนื่องจากความเชื่อเหล่านี้เป็นความเชื่อที่ส่งเสริมคุรธรรมจริยธรรมและความสุขของครอบครัว ชุมชน
ท่านลองคิดดูว่าความเชื่อเดิมที่ว่านี้หากช่างย้อมเมินเฉยอะไรจะเกิดขึ้น
เชื่อว่า หากวันไหนจะย้อมครามจะต้องพูดจาไพเราะ ไม่ด่าสามี ไม่ด่าลูกหลาน ไม่เช่นนั้นครามจะหนี
เชื่อว่า หากจะเข้าไปหม้อครามต้องอาบน้ำ ล้างมือให้สะอาด
เชื่อว่า วันพระวันศีล มีคนตายในชุมชน ห้ามย้อมครามให้ไปทำบุญ
เชื่อว่า เป็นประจำเดือนไม่ให้ย้อมคราม ให้หยุดย้อม
ฯลฯ
ดีนะคะ ความเชื่อเหล่านี้
มิน่าล่ะใส่เสื้อย้อมครามแล้วมีความสุข เพราะคนย้อม..คิดดีนี่เองค่ะ
พี่อุบลครับ
อาจารย์ธวัชชัย
ดีใจที่คนหนุ่มเช่นคุณออตมีความเห็นเช่นนี้ นี่ล่ะค่ะเป็นจุดสำคัญของการบูรณาการความรู้ ทำอย่างไรเราจึงจะพัฒนาความรู้และรักษามิติทางจิตใจและจริยธรรมที่เคยอยู่เป็นเนื้อเดียวกับการทำผ้าคราม
พี่ยังมีความเชื่อว่าผ้าครามที่มีคุณภาพสูงจะต้องทำด้วยหัวใจ ทำด้วยความรู้สึกสอดประสานลงไปในเส้นใยและน้ำย้อม
ขอบพระคุณครับ