สวัสดีค่ะ..
ขอกล่าวถึงบันทึกก่อนหน้านี้สักเล็กน้อยนะค่ะ ว่า.. กลับจาก"การเดินทางของหมูน้อย" ถึงมหาลัยราชภัฎกำแพงเพชรก็ราวๆ 2 นาฬิกาของวันที่ 8 ตค 50 ได้นอนพักประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ก็ต้องรีบเข้าอบรมแต่เช้า
ก้าวแรกที่เข้าไปในห้องอบรม "ท่านวิทยากร" หน้าคุ้นๆจังเลย ไม่นานก็นึกขึ้นได้ค่ะ คือ "คุณสิงห์ป่าสัก" ที่คุ้นเพราะว่า เมื่อวันที่ 28-29 กย 50 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน มหกรรม KM ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรค่ะ แล้วในห้องย่อยวันแรก "หมูน้อย" เลือกเข้าห้อง Blog "คุณสิงห์ป่าสัก" เป็น Teaching Assistant ให้ค่ะ ถ้าไม่มีวันนั้น "หมูน้อย" คงไม่มี Blog ของตนเองค่ะ และในวันนี้ก็ได้รู้จักคุณ "คุณเขียวมรกต" เพิ่มอีกหนึ่งท่าน ดีใจมากๆค่ะ
วันนี้เป็นการอบรมที่เห็นรูปธรรมได้ชัดเจนมากๆ จากที่ตนเองได้เข้าอบรม KM ที่ผ่านมา และประทับใจมากที่สุดในการอบรมวันนี้ ที่ท่านวิทยากรกล่วก็คือ
"บรรได 4 ขั้นที่ปิดกั้นการพัฒนา"
1. ไม่พูด ไม่คุย
2. ไม่เปิด ไม่ปรับ
3. ไม่รับ ไม่เรียน
4. ไม่เพียร ไม่ทำ
** คำว่า "รู้แล้วๆ" นี่คือ ตัวการที่สำคัญในการปิดกั้นตัวเองอย่างเห็นได้ชัดค่ะ เพราะตัว"หมูน้อย" เองนี่แร๊ะค่ะก็เคยพูดแบบนั้น ถ้าทุกคนสามารถทำลายหรือเดินข้ามไปได้ รับรองได้เลยค่ะว่าองค์กรจะต้องก้าวสู่ LO
พอมาวันนี้หลังจากเข้าอบรมขอพูดอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า "ตนเองได้ก้าวข้ามบรรไดนี้แล้วค่ะ " ขอขอบคุณพี่อ๋อย "การเดินทางของหิงห้อย" มากๆที่เป็น idol ให้"หมูน้อย"ค่ะ ขอขอบคุณสำนักวิจัยของมหาลัยฯ ด้วยค่ะที่เปิดโอกาสให้เข้าร่วมในการอบรมครั้งนี้ และถ้ามีการจัดอบรมในครั้งต่อๆ ไปขอจองที่นั่งล่วงหน้าค่ะ..
ขอบคุณ...
ที่เข้ามาทักทายและให้กำลังใจค่ะ "หมูน้อย" คงต้องเรียนรู้จากทุกๆท่านอีกมากค่ะ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยละกันนะค่ะ..
หวัดดีค่ะ.. อ.หมูน้อย
แวะเข้ามาเยี่ยมชม และขอชมว่าเขียนblog เก่งเนอะ มีทั้งเรื่องที่เป็นวิชาการและก็ที่เป็นเรื่องเบาๆ
แล้วจะเข้ามาติดตามอีกนะก๊ะ