เจ้าที่แรง !!!
หลังจากที่มีปรับเปลี่ยนบุคลากรในแต่ละกลุ่มงานแล้ว ก็มีคำสั่งให้ย้ายที่นั่งตามกลุ่มงาน ซึ่งตัวองก็ถูกแจ้งให้ย้ายภายในวันศุกร์ ห้องทำงานที่ใหม่นั่งทำงานกัน 6 คน ทั้งหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน เมื่อย้ายโต๊ะทำงานของข้าวของต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น จนกระทั่ง...
วันเสาร์-อาทิตย์นี้มีเหตุให้ต้องมาทำงานเพราะจะมีการประชุมกอง บก.วารสาร ซึ่งยังเตรียมเอกสารประกอบการประชุมไม่เรียบร้อย เมื่อนั่งทำงานวันเสาร์ก็มีรองผู้อำนวยการเข้ามาทำงานด้วย ทำงานจนถึง 5โมงเย็นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปจนถึงวันอาทิตย์เข้ามาทำงานประมาณ 10.30 น. ทำงานไปเรื่อยจนเกือบบ่ายโมง (อ้อ ..ลืมบอกไปว่าวันนี้มีคนมาทำงานด้วยรวมแล้ว 4 คน ) ตนเองเริ่มเกิดอาการหิวแต่ขี้เกียจออกไปซื้ออะไรทานจึงหยิบอาหารญี่ปุ่น (เรียกซะหรู..ความจริงคือบะหมี่สำเร็จรูปนี่แหละค่ะ) ขึ้นมาพอกำลังจะกดน้ำร้อนก็ปรากฏว่าเห็นรอยเหมือนรอยฟันหนูมากัดตรงมุมกล่องถ้วยบะหมี่ เลยถามอาจารย์ที่เคยอยู่ก่อนว่าห้องนี้มีหนูหรือคะ อาจารย์เขาบอกว่า “ใช่แล้ว” แค่นั้นแหละเริ่มสยิงขึ้นมาทันทีเลยไปดูบะหมี่สำเร็จรูปที่อยู่ในถุงที่เก็บไว้ทั้งหมด 4 กล่อง ปรากฏว่ามีร่อยรอยกัดอยู่ 2 กล่อง นึกๆเอ..ทำไงดีหนอเลยเอาที่เหลือเก็บไว้ในตู้เย็น แล้วก็ย้ายถังขยะที่อยู่ข้างโต๊ะไปไว้มุมห้อง หนังสือและเอกสารที่ย้ายมาจากห้องเดิมบางส่วนยังเก็บไม่เข้าที่ก็เริ่มหวั่นๆว่าเอ..จะถูกแทะไปด้วยไหมหนอ ?...แต่เนื่องจากต้องรีบทำงานจึงไม่ได้เก็บของและทำงานต่อไป…
ทำงานไปด้วยฟังเพลงไปด้วยสักพัก...แทบจะร้องกรี๊ด - - (ถ้าร้องออกมาได้ ) เมื่อเจ้าหนูสีดำตัวเขื่องวุ่นจู้ดจากมุมโต๊ะอีกฟากเข้ามาที่โต๊ะตัวเอง เราจึงเดินถอยออกมาแล้วบอกคนในห้องว่า ตายแล้ว..มันวิ่งโต๊ะน้องด้วยทำไงดี คนที่อยู่ก่อนบอกว่าไม่เป็นไรวันหลังเอากาวดักหนูมาแล้วกัน...แล้วก็เล่าต่อว่าวันก่อนมีหนูตกถังขยะตาย(ไม่ใช่ถังข้าวสารนะคะ)แล้ว 4 ตัวรวด แค่ตัวเดียวก็แทบจะช็อก นี่ฟังว่า 4 ตัวยิ่งจะบ้าไปกันใหญ่
ใจหนึ่งอยากจะไล่ให้ไปไกลๆ แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้ารื้อของที่อยู่ในตู้และหลังตู้เพราะกลัวจะจ๊ะเอ๋กับเจ้าหนู ขณะที่เขียนบันทึกไปด้วยก็ยังแหยงเท้าไปด้วยกลัวมันมานั่งเกาะแข้งเกาะขา...ขนาดเมื่อคืนยังฝันเห็นเจ้าหนูดำตัวนั้น..นึกแล้วสยอง
คิดไปคิดมาหรือว่าเราย้ายตู้เย็น และมุมกาแฟ จากมุมที่น้องเอาโต๊ะนั่งแทนที่จึงทำให้เหมือนไล่ที่เขาหรือเปล่าหนอ ...
เช้านี้ถามแม่บ้านก็บอกว่าต้องหากาวมาดักหนู....
เลยไม่รู้ว่าใครมีวิธีกำจัดหนูในที่ทำงานแบบละมุนละม่อมไหมคะ เพราะถ้าไม่มีวิธีอื่นก็จะขอใช้วิธีนี้แหละค่ะความเห็น (6)
คุณน้อง
- วิธีนี้ล่ะครับ ดีที่สุดแล้วในตอนนี้
- ตอนนี้หนูกำลังคุกคามโลก
- มันอยู่ทุกที่ มันกำลังสรา้งอาณาจักรของมัน
- ไม่นาน มันจะบุกโลก แล้วเราจะติดเชื้อร้ายจากมัน
- มันกำลังปรับปรุงการต่อสู่กับคนครับ
- แผ่ส่วนกุศลเอาครับ
สวัสดีครับ
- ดักแบบใส่กาวสนุกครับ ได้เห็นโฉมหน้าเจ้าตัวเล็กที่วุ่นวาย อยากตีเลนๆให้เจ็บแล้วค่อยหยิกเล็บให้ตายก็แสนจะสมน้ำหน้า ผมโหดร้ายนิดๆ
- ที่จริงก็รรมดาครับหฯอยู่บ้านแต่เราไม่กินเรากินหนู่นาครับ ตัวโตอรอ่ย แต่หนูที่กินไม่ได้ต้องถนอมคือหนูที่เป็นแม่ของลูกครับ เพราะเขาเป็นหนูดี
- ที่จริงแบบกับดักก็ดีครับใช้กรงมาแล้วเอาเหยื่อยล่อให้เข้าไปติดวันหนึ่งเป็นสิบตัวก้มี แต่เวลาฆ่าต้องเอาไปฆ่าที่อื่นคนใจบุญก็ไม่กล้า แต่ค่าใช้จ่ายแพงเพราะใช้กรงดักแล้วหนูหมดก้ไม่ได้ใช้ จึงแนะใช้กาวต่อไป
รบกวนเท่านี้ครับอาจารย์
- สวัสดีครับน้องพิชชา
- เจ้าที่แบบนี้น่ากลัวนะครับ
- ไม่รู้ว่าจะอาราธนาไปอยู่ที่อื่นดี.....จะฆ่าก็กลัวบาป
- หรือนำแมวมาเลี้ยงไว้ เผื่อจะดีขึ้นครับ
- ไม่อย่างนั้นก็ล้างบาง จัดระบบภายในห้องใหม่เลยครับ
ขอบคุณ
และ
- สรุปเลยว่าให้แม่บ้านไป
- แล้วบอกว่าช่วยจัดการ "หนู" ที
- คุณแม่บ้านเลยจัดการซื้อกาวมาดักหนูค่ะ
สวัสดีค่ะน้องพิชชา
พี่ว่าอย่าใช้กาวเลยนะค่ะ สงสารมัน ให้ใช้กรงดักหนูดีกว่าให้ใช้เหยื่อล่ออะค่ะ แล้วนำไปปล่อยที่อื่นหรือจะเอาวิธีที่บ้านจ่าทวีบอกมาใช้ก็ได้ค่ะ อิอิ
ราณีก็เคยค่ะที่คณะหนูกัดของทุกอย่าง ทุกโต๊ะ มาม่า กาแฟ โอ้ย พอไม่มีกินไม่วางของกิน ก็กัดกล่องพลาสติกเป็นชั้น ๆ ที่ใส่ของ เข้าไปหาของกิน(กล่องเป็นรูเลยค่ะ ) กัดมาม่า และกัดกาแฟซองพี่ซะแหว่ง เท่านั้นไม่พอเมื่อไม่มีอะไรกินก็ไปกัดต้นไม้บนโต๊ะ และกัดกระดาษเต็มไปหมด โดนกันทุกโต๊ะขอบอก สุดท้ายโดนตู้หนีบเพราะกินเข้าไปเยอะแล้วออกไม่ได้ สุดท้ายฝากกลิ่น ตลบอบอวลไปหมด เราต้องรื้อตู้ยกใหญ่เลยค่ะ แค่คิดสยึมกึ๋ยเลยค่ะ หุ หุ
สุดท้ายอย่าใช้กาวนะค่ะ จับเป็นค่ะ แล้วไปปล่อยที่อื่นค่ะ