ยังผมยังไม่แปลงร่างเป็นสางหรอกครับ ทำให้มันตื่นเต้นเท่านั้นเอง ฮิฮิ..เผื่อท่านผู้อ่านจะกลัว ในเรื่อง”พระจันทร์แดง” พ่อเลี้ยงเดชมีอาชีพไม่สุจริต ตัดไม้ทำลายป่า ในเรื่องนี้เราคงต้องมาคุยกันหน่อยนะ เพราะผมรู้สึกว่าคนเราในปัจจุบันต่างบูชาความร่ำรวย มีความรู้สึกว่าการมีเงินมีทองมีเพชรเป็นเรื่องของความสุข ใครมีฐานะดีก็จะได้รับการยอมรับในสังคม ทั้งได้รับการยกย่องจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด สิ่งเหล่านี้ก็จะพากันเสริมสร้างทัศนคติที่ไม่ดีแก่สังคมอย่างต่อเนื่อง คนรุ่นใหม่ก็จะเห็นว่าความร่ำรวยเป็นเรื่องดี แล้วเขาก็จะแสวงหาเงินทองของนอกกายมาสะสม ด้วยความรู้สึกว่านั่นแหละคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิต ผมว่าคิดผิด แล้วเราก็คิดใหม่ได้นะ คำว่าเราผมหมายถึงเราทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการชั้นไหน นักการเมืองระดับไหน ชาวบ้าน ชนชั้นกลาง ชั้นสูง ชั้นต่ำอะไรก็ตามก็ต้องมีทัศนคติที่ดีกับความเป็นอยู่อย่างพอดีพอเพียง รู้จักพอว่างั้นเหอะ แล้วความสุขมันอยู่ที่ใจเรานี่แหละครับ มันไม่ได้อยู่ที่ทรัพย์สมบัติที่อยากมีอยากเป็นหรอกครับ
พ่อเลี้ยงเดชก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของความไม่รู้จักพอ ความคิดว่าความร่ำรวยคือความสุข จึงคิดทำในสิ่งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย แต่สร้างความร่ำรวยให้กับตน นั่นคือลักลอบตัดไม้ในป่า ซึ่งภาษากฎหมายและภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ทำไม้”นั่นแหละ แต่คำว่าทำไม้ตามกฎหมายนั้นหมายความรวมถึง “ตัด ฟัน กาน โค่น ลิด เลื่อย ผ่า ถาก ทอน ขุด ชักลาก ไม้ป่าหรือนำไม้ออกจากป่าด้วยประการใดๆและหมายความรวมถึงการกระทำดังกล่าวกับไม่สักหรือไม้ยางที่ขึ้นอย่ในที่ดินที่มิใช่ป่า หรือการนำไม้สักหรือไม้ยางออกจากที่ดินที่ไม้นั้นๆขึ้นอยู่ด้วย” ขอโทษเถอะครับ แล้วสงสัยบ้างไหมละครับคำว่าไม้หมายถึงไม้อะไร เพราะตามกฎหมายป่าไม้เขาบอกว่า “ไม้ หมายความว่า ไม้สักและไม้อื่นทุกชนิด ที่เป็นต้น เป็นกอ เป็นเถา รวมตลอดถึงไม้ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร ไม้ไผ่ทุกชนิด ปาล์ม หวาย ตลอดจนราก ปุ่ม ตอ เศษ ปลายและกิ่งของสิ่งของอื่นๆไม่ว่าจะถูกตัด ทอน เลื่อย ผ่า ถาก ขุด หรือกระทำด้วยประการอื่นใด”ไม้ที่กฎหมายห้ามทำเว้นแต่จะต้องได้รับอนุญาตก็คือไม้หวงห้าม ซึ่งมี ๒ ประเภท คือประเภท ก. ซึ่งก็คือไม้หวงห้ามธรรมดา ซึ่งก็ได้แก่ไม้ซึ่งการทำไม้ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับสัมปทานตามความในพระราชบัญญัตินี้ กับไม้หวงห้ามประเภท ข. ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามพิเศษ ได้แก่ไม้หายากหรือไม้ที่ควรสงวนซึ่งไม่อนุญาตให้ทำไม้ เว้นแต่รัฐมนตรีจะได้อนุญาตในกรณีพิเศษ
แต่ว่าไม้หวงห้ามประเภท ก. นั้นกฎหมายบอกว่า รวมทั้งไม้สักและไม้ยางทั่วไปในราชอาณาจักรไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดก็ถือเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ทั้งสิ้น แสดงว่าหากที่บ้านเรามีไม้สักหรือไม้ยางในที่ดินของเราก็ต้องถือว่าไม้สักหรือไม้ยางนั้นเป็นไม้หวงห้าม แต่ถ้าเป็นไม้อื่นจะเป็นไม้หวงห้ามก็ต่อเมื่อเป็นไม้ที่อยู่ในป่า และจะเป็นไม้หวงห้ามประเภทใดก็ต้องมีการกำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา ดังนั้น ถ้าไม้อยู่ในที่ดินของเราหรืออยู่หลังบ้านในเขตที่ดินของเราก็ไม่เป็นไม้หวงห้ามตามความหมายนี้
พอเป็นไม้หวงห้าม ผู้ใดจะทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับสัมปทานก่อนจึงจะกระทำการใดๆได้ ไม่ใช่นั้นก็จะเป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับเมื่อได้รับอนุญาตให้มีการทำไม้ หลังจากตัดไม้เป็นท่อนๆ ก็ต้องชักลากจากป่าออกมายังตำแหน่งที่ได้รับอนุญาต จากนั้นการนำเคลื่อนที่ออกไปต้องมีใบเบิกทางกำกับ และการนำไม้เคลื่อนที่ต้องไม้นำไม้ผ่านด่านป่าไม้ในระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้นเว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่
พอดีผมไม่ได้ดูละครทุกตอนก็เลยไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงเดช นอกจากลักลอบตัดไม้แล้วยังแปรรูปไม้ด้วยหรือไม่ เอาเป็นว่าขอแถมเรื่องการแปรรูปไม้ด้วยแล้วกัน ชอบใช่ไหมล่ะเรื่องของแถมเนี่ย ฮิฮิ ผมเห็นแม่บ้านหลายคนซื้อสินค้าเพราะอยากได้ของแถม ก็แล้วทำไมไม่ซื้อของที่อยากได้เสียเลยล่ะ เสียงตังค์น้อยกว่าอีก แฮ่ะๆๆ ไม่ได้ว่าเมียผมนะเนี่ย สาบานได้..ฮึฮึ..ในเรื่องแปรรูปไม้นี่ ปัจจุบันจังหวัดทุกจังหวัดเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ไปแล้ว จึงไม่มีปัญหาว่าจังหวัดนั้นแปรรูปได้ จังหวัดนี้แปรรูปไม่ได้ แต่คำว่าแปรรูปนี่สิ มันคืออะไร
การแปรรูปไม้ มีอยู่ ๒ ประการ ได้แก่
๑.การกระทำใดๆแก่ไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือขนาดไปจากเดิม เช่น เลื่อย ผ่า แต่ถ้าลอกเปลือกหรือตบแต่งไม่ถือเป็นการแปรรูปไม้ การตัดทอนไม้แม้จะเป็นการเปลี่ยนรูปทรงของไม่ก็เหอะ แต่สภาพของมันก็ยังเป็นท่อนไม้อยู่นั่นแหละมิได้เปลี่ยนแปลงจึงไม่ถือเป็นการแปรรูปไม้ อ้าว แล้วการไสกบไม้ล่ะเป็นการแปรรูปไม้หรือไม่ ก็ตอบได้อีกว่าการไสกบไม่ใช่เป็นการแปรรูปไม้เพราะมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปหรือขนาดของไม้ เรามาดูประการที่สองกัน
๒.การกระทำแก่ไม้ให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิมเพื่อถือเอาวัตถุธาตุหรือผลพลอยได้จากไม้นั้น เช่นเผาไม้ทำถ่านถือเป็นการแปรรูปไม้ แต่พอเป็นถ่านแล้วเราไม้ถือว่าถ่านนั้นเป็นไม้แปรรูปเพราะมันไม่เหลือสภาพไม้อยู่อีกต่อไป ถ้าถ่านที่เผาเป็นไม้ทำในป่าถ่ายนั้นก็เป็น “ของป่า”
ทีนี้ไม้พอแปรรูปออกมาแล้ว เป็นไม้แผ่น เป็นไม้เหลี่ยม เขาเรียกว่า”ไม้แปรรูป” ชาวบ้านเราก็หัวหมอ เลื่อยไม้เถื่อนแล้วคิดจะขายไม้เถื่อนเพราะรู้ว่ามีไม้เถื่อนไว้ในครอบครองผิดกฎหมาย ก็เลยต้องหาวิธีพอทำไม้แผ่นเสร็จเอามาสร้างเป็นตัวบ้านตอกตะปูตัวเดียวบ้าง ตอกตะปูไม่จมบ้างงัดออกง่ายๆ ไม้ฝายาวไม่เท่ากันบ้างอะไรทำนองนี้ เวลามีคนมาซื้อก็รื้อไปทั้งหลังอ้างว่าเป็นไม้ที่รื้อมาจากบ้านเก่า ใครครอบครองไว้ก็ถือเป็นการครอบครองไม้แปรรูปเหมือนกัน นอกจากอำพรางเป็นบ้านแล้ว ยังมีการทำเป็นกรอบหน้าต่างประตู บานประตู เก้าอี้เฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้เห็นว่าเป็นเครื่องใช้ซึ่งจะได้รับการยกเว้นว่าไม่ถือเป็นไม้แปรรูป ก็ต้องดูอีกนั่นแหละ ถ้ากรอบประตูหน้าต่างนั่นยังไม่ได้เอาไปใช้จริง ก็ยังเป็นไม้แปรรูปอยู่นั่นแหละ แต่ไม้พวกนี้ถ้าเอาไปใช้แล้วแต่ยังไม่ครบ ๒ ปี หรือถ้าเป็นไม้สักยังไม่ครบ ๕ ปี เช่นเอาไม้สักไปสร้างบ้าน พอสร้างได้สองปีรื้อบ้าน ไม้ที่รื้อมาก็ยังถือเป็นไม้แปรรูป ถ้าเป็นไม้หลุมพอสร้างบ้าน สร้างเสร็จยังไม่ถึงปีจะรื้อถอน ไม้นั้นก็ยังคงเป็นไม้แปรรูป แต่พอครบสองปีแล้วก็ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นไม้แปรรูปอีก รู้ไหมครับว่า ถ้าเอาไม้แปรรูปมาครอบครองไว้ถ้าเกิน ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะมีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ว่ามาเสียยาวเฟื้อยเลยครับ คงต้องพอแค่นี้ก่อนเดี๋ยวตอนหน้าไม่มีอะไรโม้ ฮิฮิ…
สวัสดีค่ะท่าน
จะไปตอนที่ 3 ต่อค่ะ..อิอิ
หวัดดีครับครูอ้อย
ถ้ามีคนคอยติดตามแบบครูอ้อย ผมเขียนตายเลย ฮิฮิ
เอ...ถ้ามีอีกาคาบเม็ดต้นสัก(มีไหมฮึ)มาตกลงบนพื้นดินที่บ้าน แล้วมันโต...เรากลัวมันรกบ้าน ตัดทิ้ง มีความผิดไหมคะ....อิ..อิ...
หวัดดีครับคุณ
ต้นสักขึ้นอยู่ ณ ที่ใดก็เป็นไม้หวงห้ามตามกฎหมาย ถ้าจะตัดก็ต้องขออนุญาตครับ ไม่ขอก็ผิดครับ อยากให้มันโตที่บ้านเหมียนกัลล์ อิอิ