อนุสนธิจากเรื่องการดิ้นรนไปหางานทำที่ต่างประเทศของผู้หญิงคนหนึ่ง
ที่ต้องขายที่ดินเอาเงินไปจ้างคนต่างชาติแก่ๆมาแต่งงานแบบ “จัดฉาก” แล้วจะไปทำงาน “บันเทิง” ให้กับคนต่างชาติ แบบ ปีต่อปี และต้องเสียค่าจ้างปีละอย่างน้อย ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่เบากว่านั้นหน่อย ก็คือ ธุรกิจบันเทิง ในเมืองไทย
ที่พยายามทำให้แขกรู้สึกว่าเป็นการ “บันเทิง”
แต่หารู้ไม่ว่าเป็น “ความสุข” ที่อยู่ท่ามกลาง “ความทุกข์” ของคนอีกหลายคน
ดังคำกล่าวในหลักพุทธศาสตร์ที่ผมไปพบตอนที่ไปประชุมที่ประเทศศรีลังกา เมื่อหลายปีก่อน ว่า
“Entertainment is illusion”
จากประสบการณ์ตรงของผมในการใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นในอดีต ทำให้ผมมีโอกาสได้ศึกษาชีวิตคนในวงการบันเทิงมากมาย หลายรูปแบบ และพบว่า
เด็กผู้หญิงจะเข้าสูวงจรธุรกิจนี้
นี่เป็นหลังฉากของวงการบันเทิงที่ผมเคยเห็นและได้ยินมา ที่สะท้อน บริบท และที่รวมของคนที่จำใจมาทำงานให้คนอื่นได้มีความสุข
แม้ตัวเองเป็นคนจน และมีความทุกข์
แต่ก็พยายามแสดงตัว และพยายามทำให้คนอื่นมองว่าตัวเองมีความสุข
มันขัดกันมากจริงๆ
ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยมีความสุข หรือรู้สึกผ่อนคลายในการไปดู หรือฟังการแสดงของคนกลุ่มนี้
ผมไม่สามารถจะมีความสุข สนุกสนานบนความทุกข์ของใครได้ ผมทำใจไม่ได้ครับ
“Entertainment is illusion”
ผมซึ้งแล้วครับ
อนุโมทนา สาธุ
แม้ว่าประเทศไทยจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้ แต่อาจารย์ก็ภูมิใจได้ว่า อย่างน้อยอาจารย์ก็พยายามช่วยลดปัญหานี้แล้ว...
เจริญพร
เพิ่งฉุกใจคิดว่าการแต่งงานกับคนแก่แบบจัดฉากนั้นเป็นการเริ่มเปิดประตูส่งวงจรนี้
เพราะมีคนรู้จักที่เพิ่งจะทำอย่างที่ว่าไป....
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ ดร.แสวง ครับ
ขอบคุณครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยน
เรื่องเศร้าแบบนี้ใหญ่เกินกว่าที่เราจะคิดแก้ไขอะไรได้
คงต้องใช้เวลาและความพยายาม ที่ไม่ทราบเรามีหรือเปล่าครับ
ครูวุฒิครับ
ด้วยความยินดีครับ
ผมลงตารางไว้แล้ว
มือถือผม
08-9711 -9684
ครับ