ไปบรรยายเรื่อง KM มาครับ
ผมถูกเชิญไปพูดคุยเรื่อง KM ที่สำนักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า เพราะเป็น KM Team ของสำนักงานอัยการเขต ๘ ก็ได้อาศัยใบบุญของอาจารย์ประพนธ์ ผาสุขยืด อีกแล้วครับท่าน กับอ่านตำราของ ศ.นพ.วิจารย์ พานิช ก็พอกล้อมแกล้มไปได้ครับ
ความจริงในส่วนงานของอัยการ ผมได้รับมอบหมายจากท่านผู้ตรวจราชการ ให้คิด KM ในคดีอาญา ซึ่งผมก็ลองดูว่าหากคิดทำเฉพาะในส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องๆมันจะดูลอยๆอย่างไรพิกล แต่ถ้าจะทำในรูปของกระบวนการในคดีอาญาน่าจะได้รูปธรรมที่ชัดเจนกว่า เพราะในกระบวนการทำงานคดีอาญา ในส่วนงานของธุรการก็เริ่มตั้งแต่การรับสำนวน ลงสารบบด้วยคอมพิวเตอร์ การพิจารณาสำนวนของพนักงานอัยการ การร่างฟ้อง การพิมพ์ฟ้อง เอกสารประกอบสำนวน การตรวจฟ้อง การยื่นฟ้อง การควบคุมวันครบขัง ครบประกัน ฯลฯ เยอะไปหมด และทุกกระบวนการก็ย่อมจะมีปัญหา แต่เราจะแก้ปัญหาหรือป้องกันปัญหาอย่างไร
ถ้าเรามองการทำงานของพนักงานอัยการ กระบวนการทำงานของพนักงานอัยการจะบรรลุผลสัมฤทธิ์ได้ ย่อมจะต้องประกอบด้วยประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ธุรการด้วย ผมลองให้น้องๆเขาคิดหัวปลากันเกี่ยวกับการตรวจร่างฟ้องของพนักงานอัยการ ก็ได้ความว่าบางครั้งในการทำงาน ศาลมักจะเรียกพนักงานอัยการไปแก้ไขคำฟ้องเนื่องจากการพิมพ์ผิดพลาดบ้าง พิมพ์ตก บ้าง จึงได้ หัวปลา "ประสิทธิภาพในการตรวจคำฟ้อง" จากการระดมความคิดเป็น ตัวปลา ก็ได้ความว่า การพิมพ์ฟ้องของเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล ซึ่งจะต้องพิมพ์ตามร่างฟ้อง เมื่อพิมพ์เสร็จก็จะต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนเสนอพนักงานอัยการ พนักงานอัยการก็จะต้องตรวจร่างฟ้องกับคำฟ้องให้ตรงกัน แล้วจึงเซ็นชื่อ แล้วเสนออัยการจังหวัดลงนาม สำนวนจะกลับมาที่หัวหน้าธุรการเพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปยื่นฟ้อง หากดูตามกระบวนการแล้วไม่น่าจะเกิดข้อผิดพลาดเพราะจะต้องมีคนตรวจสอบอย่างน้อย ๓ คน แต่ทำไมยังเกิดความผิดพลาด ก็ได้ความอีกว่าส่วนใหญ่มักจะไม่เอาร่างมาตรวจกับคำฟ้อง แต่จะใช้วิธีอ่านตัวฟ้องเลย ถ้าอ่านแล้วข้อความอ่านแล้วรู้เรื่องก็จะลงนามไปเลย ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายเพราะไม่มีการตรวจกันจริงจัง ก็ได้นำเอา Tacit K.ของผมถึงวิธีการตรวจร่างฟ้อง โดยเอาตัวร่างมาตรวจกับตัวฟ้องทีละบรรทัด วิธีนี้จะผิดพลาดน้อยมาก และใครมีเทคนิคอย่างไรก็พูดคุยกัน แล้วก็รวบรวมเป็น หางปลา และเรามาบันทึกออกมาเป็น Explicit K. เป็นอันว่าเราได้ KM มาอีก ๑ เรื่องครับ
วันนี้ ผมบอกกับน้องๆว่าการทำ km ขอให้เนียนไปกับงาน อย่าให้การทำ KM เป็นเรื่องยากลำบากในชีวิต อย่าให้ KM มาทำลายความสุขจากการทำงาน ขอให้สนุกกับการทำ KM ครับ
รายงานมาเพื่อโปรดทราบ ฮิฮิ
อ้อ กระบวนการเหล่านี้ หากมีอะไรผิดพลาดขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
ความเห็น (9)
- สวัสดีค่ะ อาจารย์
- นึกๆๆดู KM ในสำนักงานอัยการดูเป็นยากเหมือนกันนะคะ
- แต่อาจารย์ก็ทำให้ง่าย จนได้คลังความรู้จนได้
ขอบคุณป้าแดงมากครับ
ผมเริ่มรู้สึกสนุกกับการเข้ามาเป็นสมาชิกที่นี่แล้วครับ เพราะเริ่มมีคนเข้ามาทักทายมากขึ้น และรู้สึกอบอุ่นครับ
ครูอ้อยมาอ่าน KM ที่มีแต่ความสุขค่ะ
เราทำ KM ให้มีความสุขกันค่ะ
KM ไม่ใช่ภาระ แต่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า...ความสุขค่ะ
- -ขอบคุณคุณแก่นจังที่แวะมาทักทายครับ
- ขอบคุณคุณครูอ้อยครับ ขยันเขียนบล๊อคจังเลยครับ ผมได้ความรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมไปด้วย ผลักดันให้ลูกชายไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโรตารี่ จนกลับมาภาษาอังกฤษคุยกับฝรั่งรู้เรื่อง ให้ลูกสาวไปทำงานที่มัลดีฟส์เสีย ๑ ปี นี่จะไปเรียนต่อที่สวิส บอกลูกตั้งแต่ยังเล็กให้สนใจภาษาอังกฤษ ซื้อเอนไซโคลปิเดียภาษาอังกฤษให้ลูกตั้งแต่เริ่มคลาน อ่านแบบแปลให้เขาฟัง แปลได้มั่งไม่ได้มั่งก็มั่วไปเรื่อยๆ แต่ก็ดีครับทำให้เรากล้าโม้กับฝรั่งผิดถูกไม่รู้ ถือว่าเป็นหน้าที่ของฝรั่งที่ต้องฟังเราให้เข้าใจ ฮ่าๆ
เข้ามาดูวิธีการจัดการความรู้ของอัยการ ครับ
ถ้าปรับวิธีการให้เข้ากับบริบทของตัวเองได้ทุกอย่างก็จะไปได้สวย เป็นกำลังใจให้นะครับ
ขอบพระคุณอาจารย์วรชัยครับที่มาให้กำลังใจครับ
ผมก็มึนเหมือนกันแหละครับ เพราะของอัยการเราไปมุ่งที่ตัวชี้วัด แล้วมาจัด KM ให้เข้ากับตัวชี้วัด คนในองค์กรก็เลยขยาด มันไม่เป็นธรรมชาติ ผมกำลังทดลองจัดการโดยใช้กระบวนการทำงานในคดีอาญาให้มีประสิทธิภาพมาเป็นตัวตั้ง มันจะได้ทั้งตัวชี้วัด ได้ทั้ง KM แบบน้องๆธุรการไม่เสียความรู้สึกครับ
KM.คือ วิถี ชีวิตงาน
ทุกหน่วยงาน องค์กรทำ สม่ำเสมอ
หาความรู้ ฝังลึก นึกให้เจอ
เอามานำ เสนอ พัฒนา
ต้องเปิดใจ จริงใจ ในทุกอย่าง
ลับ ลวง พราง อย่าเล่น เป็นปัญหา
เอาสิ่งดี ประสบการณ์ ไขขานมา
เป็นวิชา เก็บไว้ ใช้ทำดี
KM.คือ วิถี ชีวิตงาน
ทุกหน่วยงาน องค์กรทำ สม่ำเสมอ
หาความรู้ ฝังลึก นึกให้เจอ
เอามานำ เสนอ พัฒนา
ต้องเปิดใจ จริงใจ ในทุกอย่าง
ลับ ลวง พราง อย่าเล่น เป็นปัญหา
เอาสิ่งดี ประสบการณ์ ไขขานมา
เป็นวิชา เก็บไว้ ใช้ทำดี