v สิ่งสำคัญในการเริ่มต้นนำ KM มาใช้ในเกษตรเขต 2 คือการทำความเข้าใจร่วมกัน
ซึ่งค่อนข้างใช้เวลา กว่าที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจร่วมกันว่า
ทำไม จะต้องดำเนินการจัดการ KM
เป็นอะไรที่ค่อนข้างยากและเหนื่อยมากเหมือนกัน
กว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมเรารู้จัก KM กันดีขึ้น
ไม่ทราบว่าหลายท่านจะเป็นเหมือนป้าตุ้ยไหม
ไปที่ไหนก็ต้องหมั่นย้ำๆ เสมอ ตลอดเวลา ทุกที่ ทุกเวที
เพียงเพื่อบอกให้ทุกคนทราบและเข้าใจร่วมกันว่า
KM ว่าเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ใช้จัดการกระบวนการเรียนรู้
ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและนำมาประมวลผล
เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นความรู้ใหม่ให้ทันสมัย เป็นสารสนเทศ
หรือแหล่งขุมปัญญา และนำความรู้นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ต่อองค์กรในการพัฒนาคน พัฒนางาน ตลอดจนการนำความรู้นั้นไปเผยแพร่ต่อ
v ย้ำเสมอว่าเป้าหมาย KM คือการพัฒนาองค์กร : องค์กรต้องมีความรู้ เพื่อการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
v สรุปง่ายๆให้ทุกคนฟังว่าสิ่งที่ได้รับถ้าใช้ KM อย่างถูกทาง คือ
o พัฒนาคน (เพิ่มศักยภาพ)
o พัฒนางาน (สร้างสรรค์นวัตกรรม)
o พัฒนาองค์ความรู้ (มี/ใช้/รักษา)
ซึ่งทั้ง 3 อย่างจะหมุนเวียนกันเป็นวงจรหรือ วัฎจักรของKM
v มีกรอบแนวคิด อย่างสั้นๆ กระชับ ว่า “ความรู้ได้จากการปฏิบัติงาน”
สร้างทัศนคติร่วมกัน
v KM ไม่จำเป็นต้อง
o เพิ่มงาน
o ขันแข่ง
o แบ่งชนชั้นวรรณะ
o รอโอกาส
o มีสถานที่
o มีกฎ/ระเบียบ
v KM จำเป็นต้อง
o พึ่งพา/ช่วยเหลือ/เอื้อเฟื้อ
o แบ่งปัน/แลกเปลี่ยน/ถ่ายทอด
o รวมพลัง/สามัคคี
o ไขว่คว้า/แสวงหา/เรียนรู้
o ลด EGO /เปิดใจ
o สร้างสรรค์/จินตนาการ
o ต่อเนื่อง/ทุกเวลา
จนบัดนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พร่ำบอกไป จะเข้าใจตรงกันซักกี่มากน้อย
ขอบพระคุณที่ให้แสงสว่างเรี่อง KM.
สวัสดิ์ระนอง