ทำบุญต้องได้บุญ


"คนเดี๋ยวนี้ ให้กันยาก "

      เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ได้เดินทางไกลไปต่างจังหวัด และขากลับผ่านจังหวัดที่สำคัญจังหวัดหนึ่ง คือนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่คุณแม่ของผู้เขียน ได้มาเสียชีวิตที่นี่ และเดือนนี้ก็เป็นเดือนที่คุณแม่เสียชีวิตด้วย ผู้เขียน ก็มีใจระลึกถึงท่าน และอยากจะทำบุญส่งไปให้ จึงได้ซื้อ ของเช่น นม ผลไม้กระป๋อง ขนม ต่างๆ มาถุงใหญ แล้วเลยแวะที่โรงพยาบาลมหาราช ซึ่งก็เป็นที่คุณแม่สิ้นใจที่นี่เช่นกัน ผู้เขียนตั้งใจจะนำของไปถวายพระที่อาพาธ ไม่ทราบว่ามีกี่รูป แต่ก็เตรียมของมิใช่น้อย เมื่อขึ้นไปถึงชั้น 5  ปรากฎว่า พระที่อาพาธ ท่านนอนปนกับผู้ป่วยชาย เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า มีพระ 8 รูป เจ้าหน้าที่น่ารักมาก กุลีกุจอ เอารถมาเข็นของให้ พร้อมเตรียมภาชนะกรวดน้ำให้เสร็จสรรพ นอกจากนี้ยังพาเราไปตามเตียงอีก ความรู้สึกตอนนี้ มันอิ่มเอิบใจบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่นำของถวายพระ บางรูป ขาหักลุกไม่ได้ แต่ท่าน ก็นอน แล้วสวดให้พรอย่างตั้งใจ (เห็นท่านหลับตา) บางรูป ก็เริ่มตั้งแต่ยถา..... เดินไปแต่ละก้าวของวันนั้น ดูมีคุณค่า เหมือนอยู่อีกภพ ที่มีแต่เสียงอำนวยอวยพร ญาติๆของคนไข้อื่น ก็พลอยนั่งบ้าง ยืนบ้าง อนุโมทนา ฟังพระให้พรโดยพร้อมเพรียงกัน บุญเป็นเช่นนี้เอง ใครทำใครก็สัมผัสได้เอง อธิบายแทนกันยาก เมื่อหมดพระแล้ว ของยังเหลือมากมาย จึงแบ่งให้พยาบาลไว้ และเริ่มสงเคาระห์ผู้ป่วยที่ลำบากคือไม่มีญาติเลย บางคน เหมือนนอนรอวัน........

     มีอยู่คนหนึ่งที่ผู้เขียนประทับใจ และอยากจะนำมาเล่าไว้ ให้ท่านผู้อ่านได้บุญด้วยกัน คุณลุงเป็นผู้ป่วยอนาถาคนหนึ่ง ถูกรถชน ขณะนี้ อาการดีแล้ว แต่ไม่มีญาติ พอช่วยเหลือตัวเองได้บ้างเวลากิน แต่พยาบาลเขาก็มัดข้อมือไว้ กันคุณลุงบางครั้งไขว่ขว้าและดิ้นบ้าง กลัวจะเบลอๆแล้วตกเตียง เห็นว่าคนขับรถชนก็มาเยี่ยมบ้าง แต่ระยะหลังหายไป ที่สำคัญไม่มีญาติมาเยี่ยมคุณลุงเลย ซึ่งทำให้ผู้เขียนมองเห็นอนาคตว่าคงอยู่อีกนาน จึงเตรียม นม และอื่นๆอีกหลายอย่างไว้หัวเตียง ฝากพยาบาลทยอยให้คุณลุงรับประทานวันต่อๆไป

 เมื่อไปถึง พยาบาลก็ปลดผ้าที่ข้อมือ ให้รับนมกล่อง คุณลุงมีแววตาสดใส ยกมือไหว้ และว่า "คนเดี๋ยวนี้ ให้กันยาก "คุณลุงหยิบกล่องนมจรดหน้าผาก แล้วขอบคุณ     พร้อมใช้มือแกะหลอดดูดทันที และยังพูดแบบคนมีสติสมบูรณ์ว่า "ลุงเป็นคนเก็บขยะขาย ไม่มีบ้าน ไม่มีญาติ" ผู้เขียนเลยปลอบใจ ว่าอยู่ให้หายดีก่อนนะ พักที่นี่แหละ และว่า คุณลุงสวดมนต์ได้บ้างไหม เผื่อจะทำให้ หมดเคราะห์หมดโศก จะเชื่อไหม คุณลุงตอบผู้เขียนว่าอย่างไร  คุณลุงที่ใครๆ มองเห็นสภาพแล้ว หมดหวัง เหมือนซากมากกว่า แต่ใจคุณลุงยังสดใส ใช่เป็นไปตามร่างกายไม่ คุณลุงตอบผู้เขียนว่า " เอาบทพื้นๆนะ สวดได้ อะระหังสัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา........" คุณลุงสวดมนต์ให้ฟัง วันนั้นผู้เขียนเดินออกจากโรงพยาบาล ด้วยใจชื่นบาน คงเป็นเพราะ รู้สึก เห็นความสว่างในจิตของคุณลุง ที่มีเส้นทางไว้เกาะเกี่ยว ก่อนจะถึงยามสุดท้ายแล้ว........

  ขอให้ทุกท่านที่ได้ผ่านเข้ามาในกระทู้นี้ จงได้รับบุญกุศลที่ผู้เขียนได้กระทำไว้ดีแล้ว กันโดยถ้วนทั่วเทอญ

หมายเลขบันทึก: 131381เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2007 07:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
  • มาสาธุ สาธุ
  • ด้วยคน
  • เผื่อจะได้บุญให้ได้คู่ เอย
  • ได้บุญส่งเสริมกัน ให้น้องเรียนจบเร็วๆๆ
  • อิอิอิๆๆ
  • ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องดีๆๆ

เรื่องอย่างนี้ แนวคิด ความรู้สึกอย่างนี้  สมควรต้องมีในจิต วิญญาณ ของคนทำงานอย่างพวกเรานะครับ เพราะเป็นพื้นฐานแรก ก่อนเรื่องอื่นเลยทีเดียว

ขออนุโมทนา บุญนี้ด้วยนะครับ

 

สวัสดีค่ะอ.ขจิต

  แบ่งบุญให้ค่ะ อธิษฐานตามใจเถิด จะขอให้ได้ห่วง หมดห่วง ก็ตามสบาย เดี๋ยวจะหาว่าขัดคอ ส่วนเรื่องเรียนนั้น ต้องรีบสำเร็จ แล้วกลับมาเป็นขวัญใจชาวบล็อกเขาต่อไป ถ้าสอบตก จะต้องบวชแก้บนให้ด้วย แต่ถ้าจบตามกำหนด (แบบว่า หัวดี) ก็ต้องบวชให้คนที่เขาส่งบุญให้ 1 พรรษา นะ สัญญา นะ

สวัสดีค่ะคุณหมอจิ้น

   คิดว่าการปลูกฝังให้คนรุ่นหลัง มีจิตพื้นฐาน แบบคุณหมอว่า ก็คงไม่ยาก ถ้ามีอาจารย์หมออย่างคุณหมอจิ้น การสอน การพาทำสิ่งดีๆ สำนึกดีย่อมเกิดขึ้นโดยง่าย ก็ขออนุโมทนาล่วงหน้ากับอาจารย์หมอนะคะ

  สวัสดีครับ  น้องหมอ

  • แวะมารับผลบุญจากการ ทีเข้ามาอ่านกระทู้
  • เมื่อเจอคนทำความดีรู้แล้วสุขใจกับเขาด้วย
  • เตรียมตัวตายได้แล้ว เมื่อตอนบ่ายนี้เอง(หนังสือ)
  • ลูกประ รอก่อน ยังไม่ว่าง(สัมมนาอีกแล้ว)
  • ขอบคุณมาก

 

สวัสดีค่ะพี่เกษตรยะลาP

 ค่ะ ถ้าพี่รู้สึกสุขใจ ก็แปลว่าพี่ได้รับบุญที่พี่อนุโมทนาแล้วค่ะ( ผีเคยบอก) พี่ลองอ่านหนังสือดูนะคะ ท่านพลเดช อนุญาตให้พิมพ์เผยแผ่ได้ เลยแจกไปเป็น พันๆ เล่มแล้ว ถ้าอย่างไรก็สาธุกับท่านนะคะ

  ส่วนลูกประช้าไม่เป็นไร อย่าทำที่อยู่หายแล้วกัน ขอบคุณมากๆค่ะ 

ช่วงนี้ ทางภาคเหนือมีการถวายทานสลากย้อม

คือการนำเอาสิ่งของที่ต้องการทำบุญมาประดับต้นไม้หรือโครงเคร่าที่สร้างขึ้น ทำบุญไปให้ญาติที่ล่วงลับ

เชื่อหรือไม่ว่า ทำไมพอใกล้ถึงเทศกาลนี้ เราต้องฝันเห็นญาติๆเราที่ล่วงลับไป อาจเพราะหวลคิดถึงหรือเปล่า  แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาผมฝันเห็นคุณตาที่จากไปห้าหกปีแล้ว โดยพึ่งจะรู้เมื่อวันวานนี้เองว่าเขาจะมีประเพณีสลาก แปลกนะ เลยต้องเตรียมทำบุญ ปกติจะทำตอนวันสำคัญอื่นๆ 

   ได้อ่านบทความคุณหมอแล้ว อยากทำบุญครับ..สาธุ

สวัสดีค่ะคุณPครูเก่า

   อยากให้ทุกคนเห็นการทำบุญเป็นเรื่องง่ายทำได้บ่อยๆ ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ความสุข คือบุญนั้นจะสนองทันที

  ผู้ล่วงลับ ก็คงมีการรอคอย รับรู้ประเพณีที่ญาติจะคิดถึงเขา เหมือนกัน เช่นวันปีใหม่ วันสงกรานต์ มนุษย์ยังตั้งตารอวันงานเลย คนโบราณเขาเชื่อนะเรื่องจะทำบุญ หรือจุดธูปบอกกล่าวแล้วไม่ทำ เขาจะรอ ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ ที่บทความทำให้ครูเก่าอยากทำบุญ ทำแล้วส่งข่าวด้วย จะได้สาธุ

 

 

 

สวัสดีครับ คุณบุญรุ่ง

  • ขออนุโมทนา ในบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยนะครับ
  • แม้กายจะหมองแต่ใจใส ย่อมไปสุคติภพ แน่นอน

 

สวัสดีค่ะ

  ให้มีส่วนในบุญทุกบุญค่ะ ชีวิตคนแต่ละคน กว่าจะสิ้นแต่ละชาตินี่ ไม่ใช่ง่ายๆ บางครั้งก็ต้องวางอุเบกขาเหมือนกัน สงเคราะห์ เท่าที่จะช่วยได้ ถึงแม้จะทำให้เขารู้สึกดีสักวูบหนึ่งก็จะเป็นกุศลติดตัวไป แม้ระลึกได้ว่ามีคนให้สติ กำลังใจแก่เขา ก็เป็นบุญหล่อเลี้ยงได้ค่ะ ขอบคุณครูเสือมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณP

  เหมือนพบกันในงานบุญเลยนะคะ เจ้าของบุญรู้สึกปลื้มใจ และยินดี ในการอนุโมทนาบุญของท่านค่ะ  เรียนเชิญแวะเข้ามาอ่านได้ตามอัธยาศัยนะคะ  ขอบคุณค่ะ

  • มาสาธุด้วยคนค่ะ
  • อย่างน้อยการทำบุญก็เกิดผลทันทีที่ใจ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะP

  จะเขียนชื่อเป็น NA RAK ทุกทีเลย คนไม่เก่งอังกฤษ แต่จริงแล้วตั้งใจเขียนให้ค่ะ  ขอให้ได้บุญเท่าๆกันเลยค่ะ อธิษฐานเอาเองนะคะ  สาธุ

สวัสดีค่ะคุณบุญรุ่ง ขอเรียกชื่อจริงเลย เนื่องจากวันนี้เตรียมจะส่งหนังสือ"มหัศจรรย์แห่งKMเบาหวาน"มาให้ (เพิ่งได้รับจากผู้ช่วยของดร.วัลลา ส่งมาให้ตามขอยี่สิบเล่ม เพื่อไว้มอบให้คนที่จะนำไปใช้ประโยชน์จริงๆที่ตัวพี่รู้จัก) ได้เขียนจ่าหน้าซอง ชื่อและนามสกุล เลยเรียกชื่อจริงนะคะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ อ่านเรื่องเช่นนี้แล้วมีความสุข ท่านวิปัสสนาจารย์ พระคันธสาราภิวงษ์ได้สอนพี่ว่าเมื่ออนุโมทนาบุญให้เป็นความรู้สึกปลื้มปิติที่เอ่อท้นออกมาจากจิตใจ เกิดเป็นความชุ่มชื่นใจอิ่มไปในบุญให้กล่าว "สาธุ สาธุ สาธุ" คือสาธุสามครั้ง จึงจะถูกต้อง พี่ก็เพิ่งทราบตอนไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่ามะโอ จึงขอเล่าให้ฟัง และกล่าว "สาธุ สาธุ สาธุ" ด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะP

  ทุกครั้งที่ได้รับการอนุโมทนาสาธุ ก็รู้สึกเหมือนบังเกิดความสว่างในดวงใจ และโดยรอบ เวลาที่ถ่ายทอดเรื่องราว ก็จะใส่ความรู้สึกปิติ ในทุกถ้อยคำ เพื่อสื่อถึงผู้อ่าน จะได้ร่วมรับรู้ในการสร้างกุศลในครั้งนั้นๆด้วย และถ้าคุณพี่ และทุกท่านได้ร่วมสาธุด้วยกัน ดิฉันเอง ก็ขอสาธุ สาธุ สาธุ กับทุกท่านด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท