จากบันทึก [มหกรรมตลาดนัดวิชาการ (หรือเปล่า???)....] ซึ่งเป็นที่มาส่วนหนึ่งของบันทึกนี้ เนื่องจากช่วงนี้มีนิสิตมาใช้บริการนั่งอ่านหนังสือสอบที่สำนักหอสมุดกันอย่างล้นหลาม ทำให้ได้พบเห็นบรรยากาศการใช้บริการอีกรูปแบบหนึ่งของสำนักหอสมุด นั่นคือจะเห็นแต่ชีท หนังสือวางกางเต็มโต๊ะ แทบทุกโต๊ะ แต่น่าแปลก!! ที่ไม่มีคนนั่งอ่าน หลายคนอาจจะคิดในใจว่าเกิดอะไรขึ้นหนอ ... ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก...ขอเฉลยค่ะ ...นิสิตจะมาจองโต๊ะอ่านหนังสือกันแต่เช้า บ้างก็จองไว้ก่อนแล้วไปเรียน ทำให้คนที่ตั้งใจจะมาอ่านหนังสือหลายๆ คนต้องผิดหวังกลับไป เนื่องจากไม่มีโต๊ะว่าง
มีแต่หนังสือ แต่เจ้าของไม่รู้อยู่หนใด ??
ทุกวันนี้ดิฉัน และทีมฝ่ายบริการ (ขอเรียกตัวเองว่า "หน่วยเคลื่อนที่เฉพาะกิจ" ฮาาาาา...) จึงต้องมีหน้าที่อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องเดินตรวจตรา และเก็บชีท หนังสือที่วางจองโต๊ะไว้ แต่ไม่มีคนนั่งอ่านมากองรวมกันไว้ที่โต๊ะพักหนังสือ
มีนิสิตส่วนหนึ่งชื่นชอบที่พวกเราทำเช่นนี้ บอกว่า "ดีมากเลยครับพี่ ผมมาทีไรไม่เคยมีที่นั่งอ่านเลย"
แต่ก็มีนิสิตอีกกลุ่มกลับมองตาขวางๆ บอกว่า "เก็บอย่างนี้ไม่มีมารยาทเลยครับ ผมเพิ่งไปห้องน้ำ/ไปทานข้าวเมื่อกี้เอง" ก็ต้องขอโทษขอโพยกันไป ...บางคนพอจะเก็บ ก็ได้ยินเสียงลอยมาไกลๆ บอกว่า "พี่คะ ตรงนั้นเป็นหนังสือของหนูค่ะ"...เอากับเขาซิคะ ...ดิฉันเลยต้องสวมบทนางมาร "อ้าว! แล้วทำไม ตัวอยู่นั่น หนังสืออยู่ที่นี่ละจ๊ะ.."
แต่ก็คงทำได้ไม่ทั่วถึง หรือเดินตรวจตราตลอดเวลา เพราะต้องมีภารกิจที่จะต้องทำอื่นๆ อีก ก็ต้องหวังพึ่งผู้ใช้บริการด้วยกันเอง คอยรักษาสิทธิของตนเองว่าเราก็เป็นผู้หนึ่งที่มีสิทธิในการใช้บริการอย่างเท่าเทียม ทั่วถึงกัน ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของสถานที่
เจ้าของโต๊ะอ่านแต่เพียงผู้เดียว
อย่างไรก็ตามแต่ ดิฉันก็ยังยืนยันว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำเช่นนี้ของบางคน จะเห็นได้จากกระทู้ในเว็บบอร์ดของสำนักหอสมุด (Click) หรือเว็บบอร์ดของหน่วยงานต่างๆ (Click) และ (Click) พูดถึงเรื่องนี้กันอย่างมากมาย ดิฉันจึงต้องคิดสโลแกนติดบอร์ดประชาสัมพันธ์ไว้เตือนใจผู้ใช้บริการว่า "นิสิต ม.น.เหมือนกัน โปรดแบ่งปันที่นั่งอ่าน" ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรให้ดีขึ้นบ้าง เพราะทุกวันนี้ก็ยังเห็นพฤติกรรมเช่นนี้อยู่
อีกเรื่องก็คือการนำขนมขบเคี้ยว น้ำดื่ม ของหมักของดองเข้ามารับประทานในสำนักหอสมุดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ...ขอบอกว่ามีสารพัดค่ะ เหมือน 7-eleven ก็ไม่ปาน สาเหตมีหลายประการ เช่น ผู้ใช้บริการบางท่านถือกระเป๋าใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่แล้วก็ถือเข้าห้องสมุดโดยไม่เก็บที่ล็อกเกอร์ พอเจ้าหน้าที่จะขอตรวจกระเป๋า และให้ฝากกระเป๋า ก็มีเสียงบ่นกระปอดกระแปดว่า ทำไมต้องฝากด้วย ใส่เอกสารเยอะแยะถือไม่ไหว ... แต่หารู้ไม่ในกระเป๋าเหล่านั้นบรรจุขนมเหล่านี้ไว้เพียบค่ะ
ช่วงนี้บุคลากรฝ่ายบริการจึงเหมือนเป็นแม่บ้าน (หรืออาจจะมีบางคนแอบเรียกว่านางยักษ์ด้วยเป็นแน่) คอยปากเปียกปากแฉะ ช่วยกันตรวจดูกระเป๋าทั้งเข้า ทั้งออก และบางครั้งก็ต้องเดินตรวจตรา ตามโต๊ะอ่านหนังสือว่ามีผู้นำขนมขบเคี้ยวไปรับประทานหรือไม่ สังเกตได้จากเศษถุง เศษอาหารในถังขยะจะพบมากในวันรุ่งขึ้น (เนื่องจากสำนักหอสมุดเปิดให้บริการถึงเวลา 24.00 น.) อันที่จริงดิฉันเห็นใจน้องนิสิตอ่านหนังสือกันดึกก็คงจะหิว พวกเราไม่ได้ใจร้ายนะคะ แต่ถ้าน้องนิสิตคิดในมุมกลับว่า อาจทำให้มีหนู แมลงสาบ มด เข้ามากัดกินเศษอาหารเหล่านั้น รวมไปถึงมากัดกินหนังสือที่น้องๆ นิสิตใช้เรียน อ่านหนังสือกันทุกวันนี้ด้วย
ไม่น่าเชื่อว่านี่คือเศษขยะที่พบในตอนเช้าของวันทำการถัดไป
ในมือของนิสิตสาวสวยนั้น...นั่นคือถุงขนม 7-eleven ค่ะ ยืนยันได้
เรื่องสุดท้าย เรื่องการแต่งกายเข้าสำนักหอสมุดของนิสิต ผู้ใช้บริการ บางคนใส่เกงขาสั้น กางเกงเล (กางเกงขาก๊วย) เสื้อแขนกุด กระโปรงที่สั้นจนเกินไป อย่างน้อยก็ไม่เป็นอันตราย (ทางสายตา)
กับตัวนิสิตเอง ดูแล้วก็ไม่เหมาะกับสถานที่ราชการเท่าไร การที่นิสิตแต่งกายเรียบร้อย ใส่ชุดนิสิต สมกับความภาคภูมิใจที่เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ดิฉันว่าดูเรียบร้อย น่ารักดีออกค่ะ เห็นด้วยกับดิฉันไหมคะ
ดิฉันก็อดคิดไม่ได้ค่ะว่าการที่น้องนิสิตไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้องสมุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะห้องสมุดขาดการประชาสัมพันธ์? หรือไม่ได้ให้ความรู้? หรือไม่มีวิชาสอนการใช้ห้องสมุดเบื้องต้น เป็นรายวิชาพื้นฐาน/วิชาบังคับหรือเปล่า? อันนี้ดิฉันก็คิดไม่ตกค่ะ ดิฉันอาจจะมองในมุมเดียว หรือมีความคิดเก่าโบราณ จึงอยากรับฟังความคิดเห็นมองต่างมุมกับกัลยาณมิตรท่านอื่นๆ ด้วยค่ะ
เยี่ยมเลยครับ หน่วยเคลี่อนที่เร็ว (วอสอง)
รู้สึกปลื้มใจที่นิสิตชาว มน.มาใช้บริการอย่างล้นหลาม
คงมีผลมาจากการบริการของสมุดเราประทับใจ
แต่ก็มีปัญหาเนื่องจากพื้นที่ไม่พอบริการ
.-ไงก็แบ่งบันและเคารพสิทธิ์ในการใช้ห้องสมุดนะครับ
เห็นด้วยกับ คหท 1 ว่าห้องสมุดสร้างมาแล้ว ไม่เพียงพอสำหรับความต้องการ
แต่ทำไม ต้องนำออกมาประจานกันด้วย และถ่ายรูปนิสิต ผมว่าไม่เป็นการดีเลย สำหรับคนทำงานห้องสมุดเอง น่าจะหามาตรการมาป้องกันก่อน และก็เป็นปัญหาที่คุยกันมานานแล้ว น่าจะหารูปที่แก้ปัญหาได้แล้ว มานำเสนอมากกว่า ภาพที่เห็น น่าเกลียดมากครับ
พอมีปัญหา ก็เอาเรื่อง กฎ ระเบียบมาใช้
และต้องมีการเปิดสอนรายวิชาอีก
คนเรามันอยู่ที่จิตสำนึก
แต่ตอนก่อนเกิด ไม่เคยเลยล่ะค่ะ
หยุ่มหยิมมากเลย
เมืองหนอ เมืองไทย
เปิดรายวิชาการใช้ห้องสมุด ก็ดี
แต่อยากให้เป็นแนวทางการสืบค้นข้อมูลอย่างไร ให้ตรงกับความต้องการ การอ้างอิง การใช้โปรแกรมห้องสมุด มากกว่าครับ
ผมล่ะงง กับ คห ที่ 3 ครับ ว่าห้องสมุดต้องการความสงบ เงียบ แต่จะให้ประกาศ ทุก ๆ ชั่วโมง มีที่ไหนเขาทำกัน จะมีก็ประกาศแจ้งเตือนว่าห้องสมุดใกล้จะปิดแล้วนะ ถ้าต้องการยืมคืนหนังสือ ก็ให้มาติดต่อที่เคาท์เตอร์ หรือมีเหตุฉุกเฉินที่จำเป็น ก็ประกาศได้
แต่จะประกาศแจ้งว่า นิสิตต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ห้ามนำขนมเข้ามาทาน อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย
มันจะไปกันใหญ่แล้ว คิดได้ไงครับ
สวัสดีค่ะ คุณขวัญตระกูล
พี่หนิงเห็นด้วยกับ blog นี้นะคะ และก็เคารพทุกความคิดเห็นค่ะ
จริงอย่างที่บางความคิดเห็นว่านะคะ อยู่ที่จิตสำนึก ค่ะ แต่..ขอนุญาต คิดต่อนะคะ
ว่า...ถ้าผู้ใช้บริการที่มีจิตสำนึกน้อย หรือจิตสำนึกไม่แข็งแรง แต่เข้มแข็งที่จะอ้างสิทธิและใช้สิทธิในการเข้าใช้บริการหละคะ
เราจะทำอย่างไรกับเขาดี
พี่หนิงรู้สึกว่าคนลักษณะนี้เพิ่มขึ้นนะคะ คนทำงานหรือผู้ให้บริการจะรับมืออย่างไรดี
ตามมาดูนางในฝันบ่นอะไรนะเนี่ย ...
เข้าใจคนทำงานนะคะ บางทีเราก็เจอทั้งเรื่องที่ดี และไม่ดี แต่ทุกอย่างเรื่อง "จิตสำนึก" อ้ะ บอกกันได้ยาก เพราะมันต้องปลูกมาตั้งแต่ต้นแล้วเนาะ
..
เรียนผู้เกี่ยวข้อง
จัดสร้างที่อ่านหนังสือเพิ่มเติมด่วนครับ มีเหลือดีกว่าขาด เพราะทุกคนที่เป็นนิสิต ก็คิดเหมือนกันว่า อ่านหนังสือที่หนังสือดีกว่า ที่หอ ที่บ้าน เพราะสะดวก สบาย ครับ
ก็ดีใจสำหรับ หอสมุด มน. ที่มีผู้คนมาใช้บริการหนาแน่น อย่างหนึ่งที่น่าภูมิใจ สำหรับ ชาว มน. แต่ก็วกกลับมาเรือง จิตสำนัก ที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับคนไทย
สู้ ๆ ครับ ชาวห้องสมุด
ขอบคุณ โรงเรียนสุรนารีวิทยา และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ค่ะ
สวัสดีครับน้อง
ขอบคุณครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งมุมเดียวกัน และมองต่างมุมไม่ว่าจะเป็น ...
ขอตอบในฐานะบรรณารักษ์เวร และเจ้าหน้าที่ของห้องสมุดที่ต้องให้บริการแก่ผู้ใช้บริการค่ะ
1. ปัญหาที่พบบ่อยที่น่าเบื่อกับการไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของห้องสมุดไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย อาหารและเครื่องดื่มที่พกพาเข้ามารับประทานกันในเวลาอ่านหนังสือและปัญหายอดฮิตคือ การจองที่นั่งอ่าน(เหมือนกันทุกมหาวิทยาลัย)จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้บริการ บางครั้งต้องมีการปะทะกับผู้ใช้อยู่บ่อยครั้ง(ไม่ได้อยากใจร้ายแต่ต้องทำตามกฏจริงๆ) บางคนพูดกันเข้าใจ บางคนไม่ยอมเถียงกันไปข้างๆคูๆ (มันอยากร้องไห้ออกมาว่า เห็นใจกันหน่อยเถอะจะไม่ไหวแล้วนะ)
2. ดิฉันได้สะท้อนถึงการได้รับการอบรมตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ตามที่กระบี่สีชมพูที่ได้พูดถึงโรงเรียนเก่าของเรา (ส.ร.น.) ที่มีการอบรม และสั่งสอนในการปฏิบัติตัวเมื่ออกไปอยุ่ในสังคมภายนอกเพราะเราจะมีการพบอาจารย์แม่ตอนเย็นทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และมีพี่น้องๆตั้งแต่ ม.1 -6 ทำให้เราเรียนรู้ว่าจะอยุ่กับคนอื่นอย่างไร และเราต้องทำกฏกติกาของสังคมยังงัย
สวัสดีค่ะ...
จากการอ่านทั้ง 2 blog[มหกรรมตลาดนัดวิชาการ (หรือเปล่า???)....] ขอบอกเลยว่า ตรงใจมากๆ
เพราะทุกปัญหาที่พูดถึง ที่ลาดกระบัง ก็ประสบอยู่เหมือนกัน...วันนี้เพิ่งจะได้ ลปรร. กันในส่วนงานอยู่เลยว่าจะทำอย่างไรดี..สุดท้ายก็เลยมาลงอยู่กับผู้ให้บริการเอง ว่าต้องช่วยกันตรวจตราให้ดีที่สุด
แต่อย่างว่านะคะ พอเคร่งครัดในระเบียบมากๆ ก็โดน Comment เข้ามา ว่าต่างๆ นาๆ ค่ะ
จะรออ่านความคิดเห็นของหลายๆ คนนะคะ เผื่อจะได้ ไอเดียดีๆ ไปใช้บ้าง ขอบคุณนะคะที่ช่วยสร้าง blog