เริ่มแรก ชื่อบันทึกก็ขอฮิตคำว่า "มหกรรม" กับเขาด้วยอีกคนค่ะ ห่างหายจากการบันทึกบล็อคมานาน ด้วยเหตุจากภาระงานมากมายจริงๆ (ไม่อยากหยิบมาอ้าง แต่ก็ขอนิดนึงแล้วกันนะคะ) แต่ครั้งนี้อดรนทนไม่ไหวจริงๆ เลยต้องบอกเล่าเก้าสิบให้ฟัง ...
ช่วงนี้เป็นฤดูสอบภาคปลาย (ปีการศึกษา 1/2550) สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยนเรศวรก็เลยกลายสภาพเป็นตลาดนัดวิชาการไปโดยปริยาย แต่โดยปกติแล้วก็จะมีผู้ใช้บริการทั้งนิสิต อาจารย์ บุคลากร รวมไปถึงบุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการ แต่ในช่วงนี้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นนิสิตมานั่งอ่านหนังสือกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมีเหตุผลหลายประการ
ประการแรกเนื่องด้วยสำนักหอสมุด งดยืมหนังสือก่อนสอบเพื่อให้หนังสือได้กลับมาหมุนเวียนในชั้นอ่านหนังสือให้มากที่สุด เพราะหนังสือแต่ละรายชื่อมีจำนวนเล่ม (copy) ไม่เพียงพอกับจำนวนนิสิต ประการสองสำนักหอสมุดเปิดให้บริการถึง 24.00 น. และประการสุดท้ายก็มีแอร์เย็นๆ (ขอย้ำว่าเย็นจริงๆ) ซึ่งก็คงดีกว่านั่งอ่านที่หอพัก
ซึ่งผจญทั้งยุง ทั้งความร้อนของอากาศ จึงเป็นเหตุให้น้องๆ นิสิตจึงต้องมาใช้พื้นที่เพื่อนั่งอ่านหนังสือก่อนสอบกันอย่างล้นหลาม
เมื่อเทียบกับพื้นที่ให้บริการนั่งอ่านที่มีอยู่น้อย แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ทั้งที่ๆ เป็นอาคารแห่งใหม่ แต่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการเสียแล้ว แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี ???? (อาคารแห่งใหม่มีจำนวน 4 ชั้น แต่พื้นที่ให้บริการจริงๆ มีเพียง 2 ชั้น ที่เหลือจะเป็น back office และจุดบริการอื่นๆ ซึ่งในแต่ละชั้น พื้นที่ 2 ใน 3 ก็เป็นชั้นวางหนังสือ ที่เหลืออีก 1 ส่วนก็คือที่นั่งอ่านหนังสือ พื้นที่ให้บริการจริงๆ ดูสัดส่วนแล้วก็ไม่ต่างจากอาคารเดิมเท่าไรนัก)
หนุ่มๆ บุคลากรฝ่ายบริการก็เลยจัดการความรู้แบบไม่เป็นทางการ โดยช่วยกันคิดช่วยกันทำ ว่าจะจัดการอย่างไรดีกับพื้นที่ที่มีเพียงเท่านี้ แต่ผู้ใช้บริการมีที่นั่งไม่เพียงพอ
มุมแรก พวกเขาเลยจัดการย้ายมุมโต๊ะพักหนังสือชั้น 2 ให้กลายมาเป็นโต๊ะนั่งอ่าน ซึ่งเป็นไปตามคาดหลังจากจัดได้ไม่ถึงนาที ก็มีนิสิตมานั่งอ่านกันเต็มไปหมดแล้ว
เดิมเป็นโต๊ะพักหนังสือ ก็แปรสภาพมาเป็นโต๊ะอ่านหนังสือในบัดดล
มุมที่สอง ลานเพลินด้านหน้าห้องสมุด มุมจัดนิทรรศการ (ก่อนถึงมุมกาแฟ) หนุ่มๆ แข็งขันช่วยกันยกโต๊ะ จากใต้ถุนตึกอาคารห้องสมุดแห่งเก่า มาจัดวางไว้แทนบอร์ดนิทรรศการ... เช่นเดียวกันค่ะ วางโต๊ะไม่ทันไร เก้าอี้ยังไม่มา น้องนิสิตก็เตรียมเล็ง จับจองเป็นเจ้าของที่นั่งกันแล้ว
หนุ่มๆ ฝ่ายบริการทำหน้าที่แบกหาม โต๊ะ-เก้าอี้มาให้บริการเพิ่มเติม ณ ลานจัดนิทรรศการ ชั้น 1
ภายในเวลาไม่กี่นาที นิสิตก็นั่งเต็มทุกโต๊ะอย่างที่เห็น
ยังไม่ต้องพูดถึงมุมอื่นๆ แม้กระทั่งมุมบริการมัลติมีเดีย (ชั้น 2) ซึ่งปกติจะมีแต่นิสิตนั่งใช้อินเทอร์เน็ตแต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นที่นั่งอ่านหนังสือไปหมดแล้ว ....
มุมบริการมัลติมีเดีย ชั้น 2 แปรสภาพมาเป็นโต๊ะอ่านหนังสือ
และโต๊ะพักหนังสืออีกเช่นกัน ปกติหนุ่มๆ ฝ่ายบริการจะมาจัดเรียงหนังสือก่อนขึ้นชั้นหนังสือให้บริการ ซึ่งอาจจะมีเสียงดังบ้างจากการจัด และคัดหนังสือ แต่น้องนิสิตก็บ่ยั่น ถึงจะมีเสียงบ้าง ฉันก็นั่งอ่านได้ จนขณะนี้หนุ่มๆ ฝ่ายบริการเลยต้องไปคัดแยกหนังสือกันในห้องศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (study room) กันแทนชั่วคราว...
เดิมมุมนี้จะเป็นโต๊ะพักหนังสือ เพื่อเตรียมจัดเรียงก่อนขึ้นชั้นหนังสือ
...บุคลากรทุกคนของสำนักหอสมุดพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาในการให้บริการ แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานเรื่องกฎระเบียบ และสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ในความเป็นจริง ...และความร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของผู้ใช้บริการทุกๆท่านด้วยค่ะ
เยี่ยมเลยครับบรรยายพร้อมภาพ
ทุกปีที่ห้องสมุดเราจะมีเทศการนี้เป็นประจำและตอนนี้เราเปิดถึงเที่ยงคืนเจ้าหน้าที่เราก็เหนื่อยกันเพิ่มขึ้นแต่เราก็ยินดีให้บริการเสมอ ๆ
ขอขอบคุณอาจารย์ Khwantrakul...
ผมขอมองต่างมุม เรื่องของความไม่พอเพียงของพื้นที่อ่านหนังสือ ว่าด้วยความที่ห้องสมุดมอนอ มีพื้นที่น้อยนี่เอง ทำให้ผมรู้สึกว่าห้องสมุด เรามีความคึกคักมาก มีผู้เข้ามาใช้บริการกันอย่างคุ้มค่า เรียกว่าใช้กันทุกตารางนิ้ว
ผมเคยไปเยี่ยมชมสำนักหอสมุดของมหาวิทยาลัยเอกชนบางแห่ง มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่โตมาก มีหนังสือ และวารสารอย่างเต็มที่ จนผมรู้สึกอิจฉา แต่ผมกับพบว่ามีผู้เข้ามาใช้บริการน้อยมาก จนรู้สึกเสียดาย ค่าแอร์ ค่าไฟ
ถ้าถามผม ผมว่า ผมจะหาเสื่อกับ ผ้าผืนบางๆ พร้อมโต๊ะญี่ปุ่นมาวาง เพื่อเพิ่มพื้นที่ครับ แต่น้องๆ นิสิตที่มาใช้ห้องสมุดก็ต้องร่วมมือกันไม่แปลงที่นั่งอ่านให้กลายเป็นที่นอน จนน้ำลายยืดจนไม่น่าชมนะครับ