ตอนบ่ายวันนี้ ผู้เขียนรู้สึก เบื่อสุดๆ อีกครั้ง ในการไปสอนหนังสือ ขณะเดินออกจากวัด ก็คิดว่า กลับมาคืนนี้จะเขียนเรื่อง เบื่อ ...
เดินไป ใจก็ย้อนคิดไป... เมื่อประมาณสิบวันก่อน เพื่อนรุ่นเดียวกับผู้เขียนคนหนึ่ง (เป็นชาวบ้าน) เพิ่งออกจากโรงพยาบาลไม่นาน มานั่งเล่นอยู่ที่ศาลาใต้ต้นมะขามภายในวัด ผู้เขียนก็เข้าไปทักทายว่า เป็นไง หายดีหรือยัง ? แล้วก็คุยกัน....
เขาถามผู้เขียนว่า หลวงไม่เบื่อบ้างหรือ ? ผู้เขียนก็เล่าว่าประโยคนี้ ผู้เขียนเคยถามหลวงพี่อีกรูปที่กุฏิเมื่อหลายปีก่อน (หลวงพี่รูปนี้ อายุห้าสิบกว่าแล้ว และอาวุโสกว่าผู้เขียน)... ท่านตอบว่า ขี้คร้านอีแหลงแล้ว ! (ไม่อยากจะพูด)... ผู้เขียนก็เลยหยุดไม่ถามเรื่องนี้ และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผู้เขียนก็ไม่เคยคุยกับหลวงพี่ที่กุฏิเรื่อง เบื่อ กันอีกเลย...
และแล้วผู้เขียนก็วิจารณ์ชีวิตว่า คนเราเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน มักจะเบื่อๆ ชีวิต และมักจะเป็นอย่างนี้ทุกคน จะมากหรือน้อย จะถี่หรือห่าง ก็อาจแตกต่างกันไปแต่ละคน....
ขณะที่เราทั้งสองกำลังคุยปรัชญาชีวิตประเด็นเรื่องเบื่อกันอยู่นั้น... ก็มีเพื่อนรุ่นน้องอายุสามสิบกว่าขี่มอเตอร์ไซต์เข้ามาจอด คำแรกที่ทักทายในวงสนทนาก็คือ หลวงไม่เบื่อกันมั้งหรือ ? ผมรู้สึกเบื่ออย่างแรง... เราสองคนก็มองหน้าแล้วก็ยิ้มๆ ทำนองว่า มาถึงก็ตรงประเด็นเลย... ประมาณนี้
พอดีได้เวลาฉันเพล ผู้เขียนจึงกลับมายังกุฏิ... นั่นคือ เรื่องที่ผู้เขียนย้อนคิดไป ขณะที่เดินไปขึ้นรถ....
............
วันนี้ผู้เขียนโดยสารรถตู้... ซึ่งปกติเมื่อขึ้นนั่งในรถ (นั่งข้างหน้า) ผู้เขียนมักจะล้วงหนังสือในย่ามที่จะสอนมาอ่าน... แต่วันนี้ อ่านได้นิดเดียวก็รู้สึก เบื่อ ... จึงเก็บหนังสือใส่ย่าม แล้วก็นั่งคิดเรื่อง เบื่อ ต่อไป....
แม้ว่าจะเบื่อ แต่ก็ต้องมาสอน... คิดๆ ไปก็นึกถึง วิริยาัรัมภะ (การปรารภความเพียร) เพราะเหตุที่ธรรมหัวข้อนี้ อยู่ในหมวด เวสารัชชกรณธรรม คือ ธรรมที่ก่อให้เกิดความแกล้วกล้า มี ๕ ประการ คือ
ผู้เขียนจึงตั้งข้อสงสัยว่า หลักธรรมหมวดนี้ สามารถแก้ ความเบื่อ ได้หรือไม่ ?
.......
ผู้เขียนไปถึงวัดคอหงส์ประมาณบ่ายสองโมง จะเข้าสอนเวลาบ่ายสองโมงสี่สิบ แต่ผู้เขียนยังมีงานรออยู่ คือ จะต้องตรวจบทความที่ให้นิสิตเขียนส่งแต่ละสัปดาห์... วิชาที่สอนคือศาสนาฮินดู ส่วนเรื่องที่ให้นิสิตเขียนไปและต้องตรวจก็คือ ให้วิจารณ์เรื่องความท้อแท้ของอรชุน ซึ่งอยู่ในบทที่หนึ่งของคัมภีร์ภควัทคีตา....
สำหรับผู้ที่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ คงจะพอนึกออก... เรื่องมีอยู่ว่า อรชุนและกองทัพกำลังจะรบกับอีกกองทัพหนึ่ง... อรชุนรู้สึกท้อแท้ชีวิต ไม่อยากจะรบ เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นญาติกัน เช่น อาจารย์อยู่ฝ่ายโน้นลูกศิษย์อยู่ฝ่ายนี้ หรือลุงอยู่ด้านนี้ส่วนหลานอยู่ด้านโน้น เป็นต้น
อรชุนจึงปรึกษากฤษณะซึ่งเป็นนายสารถี... และนั้นคือที่มาของเนื้อหาในคัมภีร์ภควัทคีตา เช่น
........
หลังจากตรวจบทความเสร็จ ผู้เขียนก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า คนเราต้องทำหน้าที่ แม้ว่าจะรู้สึกเบื่อ ท้อแท้ เซ็ง หดหู่ หรือสภาพไม่พึงปรารถนาอะไรก็ตาม.........
ใครรู้สึกเบื่อๆ ชีวิตก็ลองหาคัมภีร์ภควัทคีตามาอ่านเล่นๆ อาจได้ข้อคิดในการสู้ชีวิตต่อไปได้บ้าง.... ประมาณนี้
จุดยืน น่าจะเป็น โลกทัศน์ มุมมอง หรือความเห็นเกี่ยวกับโลกและชีวิต... ทำนองนี้
เรื่องราวที่อาตมาบ่นๆ ไป สิ่งไหนที่คุณโยมคิดว่าเป็นสาระ ก็อาจนำไปเป็นข้อคิดได้....
ลองอ่านพวกนี้ตามลำดับ... อาจตอบคำถามบางอย่างให้แก่ตัวเองได้
เจริญพร
ชีวิตคนคงจะเป็นเช่นนั้นแหละ...
อาตมาเคยให้ความหมายว่า...
มนุษย์ คือ นักแสวงหาที่ไร้คำตอบสุดท้าย ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่
ในความเป็นคนแม้จะมีความหลากหลาย แต่ก็คงจะเหมือนกัน อย่างที่เค้าว่า เป็นความเหมือนในความต่าง ... ประมาณนี้
เจริญพร
ชีวิต ประกอบด้วย ๒ ส่วน
เบื่อๆ อยากๆ
ขอบพระคุณครับ
พระมหาสุพจน์ สิทฺธิญาโณ
ิตถตา เช่นนั้นเอง
อามันตา
พระอาจารย์ครับ...
เมื่อวานผมเข้าไปประชุมตัวแทนเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจาก 8 ภาคทั่วประเทศ...
งานนี้เราจะเล่นกันเรื่องทอดกฐินปลอดเหล้า...
นัยว่าทอดกฐินปัจจุบันเหมือนงานเตรียมพร้อมกินเหล้า....เจ้าภาพก็อยากเลี้ยง...คนร่วมงานก็อยากกิน...พระก็อยากให้คนและเงินมาเยอะๆ... เลยหลงลืมคุณค่าแท้ของศีลข้อ สุราเมรยะไป...
ตอนหนึ่งที่เราคุยกัน...ว่าถ้าไม่กินเหล้ากันมันจะสนุกหรือ...มันจะกลายเป็นทอดกฐินที่น่าเบื่อไปมั้ย...
หรือว่าผู้คนเขาคิดกันว่า...เหล้าช่วยแก้ไขอาการเบื่อได้กระมังครับพระอาจารย์...(ถ้ามีเวลาผมจะเขียนบันทึกรายละเอียดเชิญชวนค้นหาคุณค่าแท้...ทอดกฐินไม่กินเหล้าครับ)
ทอดกฐิน ไม่กินเหล้า
เห็นด้วยเลย
ตามที่เคยเห็น ญาติโยมที่มาทอดกฐิน แล้วเมาสนุกสนานนั้น มีน้อย....
แต่ก็ได้ข่าวเรื่องรถขบวนกฐิน (หรือผ้าป่า) ประสบอุบัติเหตุระหว่างทางเป็นประจำทุกปี....
.....
เฉพาะสำนวนว่า...
....ไปทอดกฐิน ไม่กินเหล้า....
ถ้าสร้างให้เป็นสำนวนติดปากและอยู่ในความสำนึกของคนทั้งประเทศได้ เป็นสิ่งที่อาตมาพึงปรารถนาจริงๆ (คือ ดี นั่นเอง แต่ใช้ว่า พึงปรารถนา เพราะใครบางคนอาจมีคำถามว่า ดี คืออะไร ? ...)
เจริญพร
กราบนมัสการค่ะพระอาจารย์
เบื่อๆ อยากๆ เป็นประจำค่ะ ขอบพระคุณสำหรับวิริยาัรัมภะ (การปรารภความเพียร) หลักธรรมแก้ความเบื่อ
เข้ามาอ่าน 3 รอบแล้วค่ะ
กราบนมัสการค่ะ
กราบนมัสการหลวงพี่มหาชัยวุธ
ตามมาจากข้อคิดเห็นที่ลานว่างค่ะ
ขอบพระคุณที่ช่วยชี้แนะทางแก้เบื่อค่ะ ตัวเองก็มีเบื่อเป็นระยะๆ เหมือนกัน มากน้อยแล้วแต่..ส่วนใหญ่ก็วางได้โดยการลุกไปทำโน่นทำนี่ เป็นการทำตามหน้าที่ดังที่หลวงพี่เล่าในบันทึกค่ะ สังเกตได้อีกอย่างว่าการเบื่อเป็นการส่งจิตออกนอกของตัวเองด้วยค่ะ คือมัวแต่ไปคิดโน่นคิดนี่ ไม่ได้กลับมาอยู่กับตัวเท่าไหร่นักน่ะค่ะ
ตามความเห็นส่วนตัว ความเบื่อสุดๆ ทำนองนี้ มักจะเกิดกับคนวัยกลางคน แต่เมื่อเป็นซ้ำซากระยะหนึ่ง ก็จะผ่านจุดนี้ไป ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา...
อีกอย่างหนึ่ง ความเบื่อของแต่ละคนก็แตกต่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและอุปนิสัยใจของแต่ละคน...
อย่างไรก็ตาม เรื่องความเบื่อนี้ พูดไม่จบ แต่ถ้าเราไม่พูด ก็จบ (5 5 5....)
เจริญพร