BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

สมบัติบ้าในวัด : หนังสือและเอกสาร


สมบัติบ้าในวัด : หนังสือและเอกสาร

สำหรับพวกสะสมหนังสือ และถ้าเป็นครูบาอาจารย์ก็อาจรวมเอกสารอื่นๆ อีกด้วย คงจะมีปัญหากับการจัดเก็บหนังสือและเอกสารอยู่บ้างไม่มากก็น้อย..............

ตามวัดทั่วไปมักจะมีหนังสือเกะกะตามกุฏิต่างๆ แม้ว่าบางกุฏิอาจมีตู้ใส่หนังสือยู่บ้างก็ตาม... หนังสือในวัดมีหลายประเภท ซึ่งตามที่ผู้เขียนเห็นๆ ก็อาจจำแนกได้ดังนี้

หนังสือสวดมนต์ รุ่นก่อนก็มีเจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน รุ่นใหม่ก็มีมนต์พิธี ... เจ็ตตำนานและสิบสองตำนานนั้น เดียวนี้ไม่เป็นที่นิยมของพระ-เณร เพราะตัวอักษรเรียงกันเป็นพืด และที่พิมพ์ผิดพิมพ์ตกก็เยอะ... แต่็หนังสือเจ็ตตำนานสิบสองตำนานนี้ก็ยังมีขาย และยังมีผู้นิยมซื้อมาใช้โดยการรู้เท่าไม่ถึงการ... ทำนองว่า สมัยปู่หรือพ่อบวชใช้เจ็ตตำนาน จึงสั่งลูกหรือหลานว่าให้ไปซื้อเจ็ดตำนาน... ประมาณนี้

ต่อมามีหนังสือใหม่ชื่อ มนต์พิธี รวมเอาเจ็ตตำนานกับสิบสองตำนานไว้ในเล่มเดียวและจัดวรรคตอนใหม่ จึงง่ายต่อการเรียนและท่องจำ ดังนั้นพระเณรรุ่นใหม่จึงนิยมมนต์พิธีมากกว่า... มนต์พิธี มีหลายผู้รวบรวมเหมือนกัน เช่น สมุห์เอี่ยม หรือ จ.เปรียญ ฯลฯ (ไปลอกมา มิใช่แต่งเอง) 

นอกจากนั้นก็มี สวดมนต์ฉบับหลวง สวดมนต์แปล ... ซึ่งผู้เขียนรวบเรียกว่า หนังสือสวดมนต์... หนังสือสวดมนต์ทั้งหมดนี้ ก็มีเข้าวัดมาเรื่อยๆ แต่ก็มีผู้ใช้ฉีกขาดหรือตั้งไว้ตากฝน ชำรุดเสียหายไปเรื่อยๆ เหมือนกัน...

...........

หนังสือนักธรรม-บาลี ก็มีอยู่ในวัด สำหรับหนังสือนักธรรมอาจมีทั่วไปตามวัดต่างๆ... ส่วนหนังสือบาลีก็อาจมีตามวัดในเมืองที่เป็นหรือเคยเป็นสำนักเรียนบาลี.... หรือเคยมีพระ-เณรเรียนบาลีในวัดนั้นแล้วก็ทิ้งไว้เป็นสมบัติบ้าในวัด....

หนังสือนักธรรม-บาลีเหล่านี้ สำหรับผู้สนใจก็ได้อ่านเล่นบันเทิงใจและปัญญา... แต่บางเล่มก็ไม่ใช่คนทั่วไปจะอ่านได้ เช่นที่เป็นบาลีล้วนๆ หรือที่อธิบายไวยากรณ์ชั้นสูง... ที่อ่านได้สะดวกก็จำพวกนิทานธรรมบท อธิบายกระทู้ธรรมหรือจำพวกพุทธประวัติ...

พระ-เณรที่รังเกียจในการศึกษาเล่าเรียนบางรูปก็อาจเห็นหนังสือเหล่านี้ไร้ค่า... แต่หลวงตาบางรูปชอบอ่านหนังสือ ใช้เวลาหลายๆ ปีอ่านหนังสือเหล่านี้กลายเป็นผู้คงแก่เรียนที่หลบซ่อนอยู่ในวัดก็มี (ผู้เขียนเคยเจอหลายท่าน)

............. 

หนังสืออื่นๆ เช่น หนังสืออนุสรณ์ต่างๆ มีที่พิมพ์แจกตามงานศพเป็นต้น... หนังสือของพวกเด็กวัด ซึ่งเคยอาศัยวัดเพื่อเรียนหนังสือ เมื่อออกไปแล้วหนังสือบางส่วนก็ทิ้งไว้ในวัด มีตั้งแต่หนังสือระดับประถมมัธยมจนถึงระดับปริญญา....

ผูกเทศน์ รุ่นเก่าก็เป็นใบลาน รุ่นใหม่ก็เป็นกระดาษพับเลียนแบบใบลาน... รุ่นใหม่ๆ ก็อาจเก็บไว้อย่างดี แต่บางผูกเก่าๆ อาจมีใครทิ้งลืมไว้กลายเป็นรังหนูจนใช้การไม่ได้... จำได้ว่าผู้เขียนเคยเก็บชิ้นส่วนผูกเทศน์เหล่านี้มาเผาหลายครั้งแล้ว เพราะเหลือเพียงชิ้นส่วน ไม่เป็นเรื่องเป็นราวที่จะควรจะเก็บไว้ใช้งานต่อไป....

............

อันที่จริง เดิมทีผู้เขียนต้องการที่จะบ่นเฉพาะหนังสือและเอกสารของผู้เขียน แต่เห็นว่าควรจะบ่นเป็นสมบัติบ้าในวัดก็เลยเล่ารวมๆ กันไป...

ห้องผู้เขียนรกรุงรังด้วยหนังสือและเอกสารเต็มที่แล้ว... สองวันก่อนตั้งใจจะจัดเก็บหนังสือ แต่ได้เพียงกวาดพื้นห้องนิดเดียว แม้ตอนนี้ก็ยังคงกองไว้เต็มห้องเหมือนเดิม ทำนองว่าขี้เกียจเหลือเกิน... ประมาณนั้น

เมื่อแรกบวช ผู้เขียนจะเก็บหนังสือไว้เป็นกลุ่มๆ ซึ่งมีไม่มากนัก ง่ายต่อการจัดเก็บ... แต่ปัจจุบันนี้ เบื่อที่จะแยกประเภท เพราะมีหลากหลายเกินไป... ๒-๓ ปีมานี้ จึงมีความฝันอันสูงสุด ว่าจะทอดผ้าป่าหาัปัจจัยซ่อมชั้นล่างของกุฏิ แล้วจัดทำเป็นห้องสมุดส่วนตัว... ประมาณนั้น 

เอกสารก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์บ้าง ใบเสร็จบ้าง เดือนหนึ่งก็หลายใบ และใบคำสั่ง หรือระเบียบการอื่นๆ บ้าง... จำได้ว่าผู้เขียนเก็บใส่ถังเต็มถังพาทิ้งก็หลายครั้งแล้ว แต่เก็บทุกครั้งก็ได้มาเต็มถังอีกทุกครั้งเหมือนเดิม.... ประมาณนี้

.........

หนังสือและเอกสารทั้งที่เป็นสมบัติวัดทั่วๆ ไป และทั้งที่เป็นของส่วนตัว... จัดเป็น สมบัติบ้า ได้เช่นเดียวกัน เพราะจะทิ้งก็เสียดาย รู้สึกว่ายังมีคุณค่าอยู่... แม้จะมีการทิ้งไป หรือบริจาคไปบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็มีมาใหม่เสมอ จึงยังคงเป็นสมบัติบ้าคู่กับวัด และในส่วนของผู้เขียนก็คงจะเป็นสมบัติบ้าคู่กับผู้เขียนตลอดไป.... 

หมายเลขบันทึก: 124719เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2007 20:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

กราบนมัสการหลวงพี่ BM.chaiwut

อ่านแล้วอมยิ้มตามค่ะ เพราะตัวเองก็มีสมบัติบ้าคู่ออฟฟิสเหมือนกันค่ะ  ช่วงหลังๆ ดีหน่อยทำ ๕ ส. ทิ้งทุกปี แต่พวกหนังสือเก่า หรือเล็กเชอร์เก่าสมัยตัวเองเรียนหนังสือก็ยังอยู่เลยค่ะ...

มีสมบัติเข้าข่ายคล้ายๆ กันเลยค่ะ ตราบใดที่ยังมีที่เก็บอยู่ ก็คงยังจะเก็บน่ะค่ะ...  

P

กมลวัลย์

เอกสารบางส่วนตอนที่เรียน เป็นของส่วนตัวของเรา แม้จะไม่มีราคาหรือคุณค่าสำหรับคนอื่น แต่สำหรับตัวเราเองจะมีคุณค่าสูง......

อาตมาก็นึกถึงรายงานเก่าๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่เขียนส่งอาจารย์ไป เฉพาะบางฉบับที่เขียนเอง มิใช่ลอก อยากจะเอามาอ่านอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบความคิดเห็นของตัวเอง... แต่ก็เป็นไปไม่ได้...

เจริญพร   

ธรรมชาติของคนเรียนหนังสือครับ 

ของผมตอนนี้ก็เริ่มมากอีกแล้วเริ่มเรียนใหม่ไม่ถึงเทอมหนังสือไม่มีที่วางอีกแล้ว  หลังจากจัดไป 2 ตู้  คิดว่าเรียนจบ ป.เอกเมื่อไหร่  จะเอาคอกหมาที่บ้านมาสร้างห้องเป็นที่เก็บหนังสือแน่เลย

P

อ.ฌอง : วุทธิศักดิ์ โภชนุกูล

เบียดเบียน เจ้าไก่ย่าง หมูปิ้ง ข้าวเหนียว ... ฯลฯ อีกแล้ว

เจริญพร 

แวะมาเยี่ยมคุณพี่ :-)

หนังสือคุณน้องไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียนเลยคุณพี่ ฮ่าๆๆ แต่ถ้าเป็นเปเปอร์งานวิจัยล่ะก็ .. เพียบ เดี๋ยวนี้ใช้วิธีอ่านจากคอมเลย ไม่ต้องปรินท์ เปลืองหมึก เปลืองกระดาษ และไม่มีที่เก็บจ้า :-D

เจ้าไก่ย่าง หมูปิ้ง ข้าวเหนียว และเขียวหวานคงต้องหาบ้านใหม่ ^__^

P

ณิชนันทน์

แม้ว่าจะไม่เปลืองค่า... แต่ถ้าคอมฯ มีปะหา ก็เศร้านะคุณน้อง (หรือสบายใจก็ได้ เพราะไม่ต้องอ่าน...) 

เจริญพร 

 

ของกระผม...กลับเป็นเอกสารจากการประชุมอ่ะครับพระอาจารย์....

 

ภรรยาผมต้องคอยเก็บไปชั่งกิโลขาย...ได้ตังไปกินหนมหลายตังอยู่...

 

ถ้าพระอาจารย์อยู่ใกล้ผม...จะหาคนขายกระดาษขาประจำให้เลยครับ...รับรองเขาไปหาอาจารย์ทุกสัปดาห์ได้เลย...55555

 

ประเด็นหนังสือและเอกสาร...ผมถือว่าเป็นสมบัติดีมากกว่าครับ...อ่านก็ได้เรียนรู้...ไม่อ่านก็เก็บขายได้...ไม่อยากขายก็บริจาคห้องสมุดตามชนบทได้...555

P

นายขำ

ท่านเลขาฯ ว่ามาก็ถูก....

สมบัติดี 

อ่านเองก็ได้ความรู้ ขายก็ได้ตัง บริจาคก็ได้บุญ

..... 

ส่วนของอาตมา (แว้บสายตาจากจอ มองไปที่กองหนังสือ) น่าจะหนักไปทาง สมบัติบ้า มากกว่า....

เพราะอ่านก็ไม่ค่อยรู้เรื่องจึงไม่ค่อยได้อ่าน จะขายจะให้หรือจะทิ้งก็เสียดาย ที่เก็บก็ยังไม่เรียบร้อย...

แต่ที่น่าจะเป็น สมบัติดี อยู่บ้างก็คือ สามารถใช้แทนหมอนได้... ตอนมีงานฝังลูกนิมิตที่วัด พรรคพวกมานอนที่กุฏิ ใช้หนังสือเป็นหมอน... พวกว่าสะดวกดี ไม่ต้องไปหาหมอนอยู่.... ประมาณนั้น  

เจริญพร 

5555555...กระผมมาขัดคอตามประสา...พระอาจารย์แก้ทางมวยเป็นมุขได้อีก...สมควรกราบกรานสักจอก...เอ้ย...

 

 

กราบ3ครั้ง..

P

นายขำ

สงสัยว่าท่านเลขาฯ พักเที่ยง จึงแว๊บมาเปิดเน็ต ?

เจริญพร 

พระอาจารย์ครับ...ก็อยู่กับคอมฯได้สองวันนี่แหละครับ...พรุ่งนี้ก็ต้องระเห็จไปอีกแล้ว...

 

นึกอยากเขียนบันทึก...ก็คงใช้สมาธิได้ไม่เต็มที่(สู้มาเที่ยวขัดคอเขาจะสนุกกว่า...55555) แค่ตามอ่านบันทึกของพันธมิตร/ผู้รู้ใจ...ก็หมดเวลาพอดี...อิอิ

 

 

 

P

นายขำ

อนุโมทนาให้ท่านเลขาฯ สนุกกับงาน.... จ้า

เจริญพร 

กราบนมัสการค่ะ (คงหมายถึงสวัสดี ใช่หรือเปล่าคะ) หวังว่าเวลานี้หลวงพี่คงรับสวัสดีนะคะอ (ณ เวลานี้ )ฮ่าๆๆๆ

เข้ามาเยี่ยมตอนดึกเช่นเคย เพราะกลางวัน เรียนเกินพิกัด ไม่รู้ทำไมนะ ระบบการศึกษาของไทยถึงได้เรียนอะไรกันมากมายปานนี้  เรียนมาก มิได้หมายความว่าจะรู้มาก  ถึงรู้มาก แต่นำไปใช้ไม่เป็น ก็ไม่มีความหมายอะไร .... บ่นมากไปแล้ว ... ขอโทษค่ะ....

เข้าเรื่องดีกว่า... สมบัติบ้า? คิดว่าสมบัติ  ไม่บ้า และคนเก็บก็ไม่บ้า เพราะที่เก็บสมบัติเอาไว้ก็เผื่อวันหน้า จะใช้... ไม่บ้า ...เพราะยังคิดถึงอนาคต (พูดเข้าข้างตัวเอง)  ของตัวเองก็เห็นจะเป็นหนังสือ ที่เก็บมาตลอดจนตอนนี้ไม่มีที่นอนแล้ว ...คือว่าประมาณเช่าห้องให้หนังสืออยู่....เรารักหนังสือ แสดงว่าเรารักการเรียนรู้ แต่ก็นั่นแหละ ก็จะพยายามจะให้เป็นหมวดหมู่ เหมือนหลวงพี่ตอนแรกค่ะ (ฮ่าๆๆ)

 

P

สุรีรัตน์

ถูกต้องแล้ว อาจารย์ว่าที่ดอกเตอร์... 

นมัสการ ก็ สวัสดี ... กราบนมัสการ ก็ กราบสวัสดี

.......

นักการศึกษาวิชาหมอดูบอกว่า ตำหรับตำราหรือหนังสือนั้น ถ้าได้ศึกษาค้นคว้าเยอะๆ ก็ดี... แต่ควรจะวางไว้ไกลๆ เพราะถ้าวางไว้ใกล้ๆ เยอะ หนังสืออาจล้มทับ ก่อให้เกิดอันตรายได้... ประมาณนี้

เจริญพร 

ี  

ขอจมอีกนะครับ...ขอผมก็เยอะครับตังค์หมดไปกะหนังสือเดือนหนึ่งๆหลเป็นพัน....แต่ก็คุ้มค่าศึกษาไปก็รู้ว่าสันดานเดิมเราเป็นยังไงทุกวันนี้พัฒนาตนเองขึ้นมาได้จากคนที่เหลวแหลกคนหนึ่งก็อาจจะว่าได้..ก็เพราะได้อ่านหนังสือนี้แหละ..ถึงเป็นสมบัติบ้าก็เถอะ..แม้แต่เอกสารการเรียนก็ยังมีบ้างไว้ดูสิ่งที่ผ่านมาแล้วนำมาเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ครับ..แม้แต่ที่ท่านอาจารย์เคยตรวจให้  10ปีที่แล้วก็ยังเก็บไว้ยังมีลายเซ็นท่านอาจารย์อยู่อีกนะครับ...เดี๋ยวว่างๆจะสแกนส่งให้ดู.....การอ่านแล้วคิดสามารถเปลี่ยนชีวิตผมไว้ไดครับ....แม้แต่กระดาษห่อเคยแก้แล้วนำมาอ่านยังเปลี่ยนชีวิตคนมาแล้วครับท่านอาจารย์

ไม่มีรูป

อนวหยบุรุษ

 

  • ขออนุโมทนา ที่ยังเก็บรักษาไว้

ตอนอยู่กรุงเทพฯ น้องชายเคยบอกว่า พี่หลวง ไม่ใช่แกเรียนไปทำไหร่ แกเรียนให้โม้ ไว้หลักคอเพื่อนนิ...(ปญฺจ ปญฺจ ปญฺจ เป....)

พออายุแกขึ้น เรื่องที่โม้มาหลายๆ ครั้งก็คร้านจะโม้... เพื่อนๆ ที่มาให้ขัดคอถึงกุฏิก็ค่อยๆ หมดไป... ตอนนี้ว่างๆ ก็มาโม้ในบล็อก นึกคลื้มใจก็เข้าไปขัดคอพรรคพวกในบล็อกบ้างเป็นครั้งคราว ( ปญจฺ ปญฺจ ปญฺจ เป... )

เจริญพร 

กราบนมัสการ พระคุณเจ้า

สิ่งของภายนอกก็คือสิ่งของภายนอก

ที่ว่าบ้านั่นเป็นใจของคนไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ

ใจคนบ้าก็เป็นคนบ้า  ใจพระบ้าก็เป็นพระบ้า

P

เอกชน

 

  • หากว่า อันว่าคำถามว่า คำว่า บ้า ดังนี้ มีความหมายเป็นไฉน ย่อมเป็น ดังนี้ พึงมีไซร้ ?
เจริญพร 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท