ลีลาเด็ดBloggerสาวที่หลุดออกมาให้ฮา ฮา
ถามว่ากระบวนการของBloggerเกาะเกี่ยวกันหลวมๆใช่ไหม ตอบว่ามันเป็นเรื่องเฉพาะตัวเฉพาะรายที่ค่อยๆสะสมความสุกงอม ไล่เรียงกันขึ้นมาเป็นสายเครือญาติ จะดูได้จากการที่ผมเจ็บป่วยBloggerที่มีความถนัดในเรื่องนี้ จะบึ่งรถจากกรุงเทพมาจัดแจงพาไปหาหมอ ลูกชายบางคนมาชวนไปเที่ยวญี่ปุ่น พร้อมกับขออนุญาตออกค่าเครื่องบินให้ เห็นเราขาดแคลนปัจจัยในการทำงานก็ซื้ออุปกรณ์ต่างๆให้ หรือเห็นเครื่องมืออะไรที่ชำรุดก็ช่วยเอาไปซ่อมให้ แนะนำวิธีใช้ให้ บางคนอาสาพาไปรู้จักสิ่งดีงาม ไปเที่ยววัด ไปเยี่ยมโรงเรียน ไปให้กำลังใจครูและผู้บริหารโรงเรียน ได้เห็นแววตาเด็กและใบหน้าเปื้อนยิ้มท่ามกลางความเหนื่อยของคุณครูพันธุ์ดี มีความละเอียดอ่อนประณีตในการพบหน้ากันครั้งแรก บางท่านเตรียมชาสมุนไพรมาจากบ้าน เอามาชงอุ่นๆนั่งสนทนากันในห้อง สิ่งนี้มีเงินกี่ล้านก็สร้างให้เกิดไม่ได้ อบรมกันให้ตายสิบชาติก็เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าใจไม่สั่งมาให้โผเข้ากอดกันสักครั้งอย่างอบอุ่น ทั้งๆที่เธอสารภาพต่อหน้าว่าเคอะเขินอย่างยิ่งกับเรื่องพวกนี้ ไม่รู้ทำได้ไง..
การที่มาเชียงใหม่ครั้งนี้ ใครถนัดเรื่องอะไรก็อาสาทำสิ่งนั้น ไม่ต้องรอให้เจ้าภาพร้องขอใดใดทั้งสิ้น ดร.กระปุม สาวน้อยมหัศจรรย์ของเรา เป็นพี่เลี้ยง เป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชีวิตชีวามาก คุณซูซาน หนูมะปรางเปรี้ยว น้าติ๋ว อาจารย์แป๋ว อาจารย์จันทรรัตน์ อาจารย์กมลวัลย์ ครูอ้อย น้าอึ่งอ๊อบ หนูลูกหว้า ทำงานท่ามกลางความเบิกบานใจ เผลอเมื่อไหร่กระโดดกอดกันถ่ายรูปเมื่อนั้น ไม่มีใครบ่นเรื่องงาน มีแต่ช่วยกันคิดเชิงสร้างสรรค์ มีความพร้อมที่จะทำงานตลอดเวลา จิตวิญญาณของชาวblogทำให้เธอเหล่านี้เป็นได้ทั้งคุณนายและคุณแจ๋ว ทุกคนวิจารณ์กันเองและน้อมรับฟังความคิดของเพื่อนๆ เราสนิทใจกันจนก้าวล่วงพ้นเขตที่ไม่ต้องคำนึงว่าคนที่เราพูดถึงจะเสียใจหรือน้อยใจ เรากล้าบอกกล่าวกันตรงๆเพราะเราเอางานเป็นตัวตั้ง และเทใจให้กัน ซึ่งในวงการอื่นยากที่จะทำเช่นนี้ได้ เพราะอัตตามันค้ำคาคอและหัวโขนที่สวมใส่หลายชั้น
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">คุณแผ่นดินหนุ่มน้อยจากมหาสารคาม กระมิดกระเมี้ยนที่สุดในบรรดากลุ่มลูกชายผม งานนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แสดงตัวเป็นเจ้าภาพ ให้ความเห็นเป็นต่อยหอย ลุกขึ้นจับไมค์ทำหน้าที่เต็มศักยภาพทั้งในฐานะวิทยากรและครูพี่เลี้ยง รวมทั้งอาสาทุกเรื่องโดยเฉพาะค้นคิดค้นหาคำตอบอย่างทุ่มเททั้งกลางวันกลางคืน ก๊วนนี้เขาจับคู่เข้าขากับคุณเอกจตุพร อ.ขจิตกามนิตหนุ่มและคุณทวีสิน เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น4หนุ่มเขาระดมพลังทำงานกัน เรียกว่าน่าชมจนห้ามกระพริบตา ทุกเวลาแม้แต่บนโต๊ะอาหาร เขาจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอัตโนมัติ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> นอกจากนี้เรายังมีสมาชิกรุ่นอาวุโสที่เป็นหางเสือคอยงัดท้ายในระบบงานของเฮฮาศาสตร์ อาจารย์Handy อาจารย์บางทราย อาจารย์พิชัย อาจารย์บีแมน อาจารย์แสวง หมอวัลลพ ท่าน JJ อาจารย์แพนด้า ฯลฯ ท่านเหล่านี้เอาประสบการณ์ตรงมาช่วยแนะนำลูกหลานรุ่นกระเต๊าะ เพื่อสร้างทายาทตัวตายตัวแทน ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าBlog เป็นตะเกียงอาละดินสำหรับผม ต้องการอะไรก็เรียกหาได้ทันที เรายังมีเพื่อนที่คอยห่วงหาอาทรกันอีกมาก คุณต้อมที่อยู่เชียงใหม่มาร่วมงานไม่ได้ เธอวางแผนทำของที่ระลึกเป็นการ์ดและหนังสือทำมือฝากทุกคนที่เธอรู้จักทางBlog เอากับเธอสิ..พวกเรานะจังงังกับวิธีผูกสัมพันธไมตรีของเธอมาก ทุกคนพูดถึงเธอ อยากเห็นหน้าเธอ คิดถึงเธอ โธ่ต้อม เธอมาเหมือนสายลม วูบมาไม่พบใครได้แต่ฝากของไว้ให้ดูต่างหน้า เธอเป็นคนหรือเป็นเทพธิดา..นะ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p align="justify"> เขียนไปก็ยาวยืด เพราะผมก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่รู้สึกว่า ถ้าได้พบกันปีละครั้งสองครั้งพวกเราน่าจะอายุยืนและมีความสุขยิ่งขึ้น ท่านบางทรายครับBlog เป็นเครื่องมือผลิตความสุข ความอบอุ่น และความรุ่งเรืองให้กับชีวิตพวกเราด้วยละครับ ตอนแรกนึกว่ามันเป็นสารคลายเครียด แต่ตอนนี้มันเป็นอย่างที่เล่าไว้ข้างบนนั้นจริ๊งจริง ยังมีตกค้างอีกหลายประเด็น ขอส่งท้ายเรื่องทำไมคนอื่นไม่เข้ามาหวีดวายกระตู้วู้กับเรา ยังทำเหมือนคนแปลกหน้า.. </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> ถึงจะจัดละลายพฤติกรรมยังไงก็เถอะ มันก็ยังเกิดสถานเพียงแค่รู้จักที่เป็นทางการ ยิ่งมาเห็นพฤติการณ์ของBloggersที่เหมือนจะล้นทะลักกับความสุขแบบลืมโลก ซูซานวิจารณ์ว่า เราเหมือนพวกหลงปลื้มกันเองจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง</p><p align="justify"> การที่จะเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้..สมาชิกก๊วนจะต้องผ่านการคัดกรองด้วยกลไกของBlogมาระดับหนึ่ง ถ้าให้เร็วก็ต้องเข้าค่ายเฮฮาศาสตร์หรือมีกิจกรรมร่วมกัน กัลยาณมิตรแห่งBloggersจึงจะเข้าแถวมาร้อยเรียงกันได้อย่างเนียนแน่น แสดงว่าวิธีที่ดูเหมือนสนุกง่ายๆของพวกเรา แต่ถ้าใจไม่ได้มาตรฐานก็ยากที่จะฝ่าด่านอรหันต์ทองคำเข้ามาได้ </p><p align="justify">สารประโยชน์ของเรายังน้อยนิด เพราะอยู่ในช่วงตั้งไข่ ดังนั้นสังคมไม่ควรจะมาคาดหวังอะไรกับกลุ่มเราทั้งสิ้น เราจะคิดและทำกันเองอย่างอิสระ นึกอยากทำก็จะทำ ถ้าทำกับองค์กรหรือเจ้าภาพที่ไม่ชอบมาพากลเราก็จะไปตามวิถีทางของเรา ไม่มีใบสั่งใดมามีอำนาจเหนือเรา เราอยากจะหลุดพ้นสังคมตอแหล สังคมทฤษฎี เบื่อพวกวิชามารและเสียงเห่าใบตองแห้ง เข้าไปอยู่ในโลกเฮฮาศาสตร์บ้านหลังใหม่ที่อบอุ่น พัฒนาความพึงพอใจ ไปสร้างเสริมความเข้าใจ ให้ไปเป็นความตั้งใจที่จะทำอะไรร่วมกัน ธุจ้า.. </p>
สวัสดีคะพ่อครู เหนื่อยหรือเปล่าค่ะในการเดินทาง KM เชียงใหม่คำพูดที่พ่อครูบรรยายในงาน ความหมายลึกซึ้ง ล้ำค่ามากคะ
หลังเสร็จงานสัมมนาเล่นเอาผมน๊อคเหมือนกัน เพิ่งตื่นเมื่อสักครู่ แต่ก็นอนหลับฝันดีตลอดครับ
บางทีก็เหมือนฝัน และบางครั้งก็เป็นเรื่องจริง ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นใครจะเข้าใจเท่า Blogger เข้าใจ ทุกอย่างมันใช้ "หัวใจ" ในการแสดงออก
บรรยากาศงานใหญ่ ใครว่าไม่เหนื่อย มันเหนื่อยแต่มันสุข มันสุขจนลืมเหนื่อย...ช่วงเวลา 3 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าปกติ ครับ
ผมประทับใจมากที่ได้กราบ ได้กอด และคุยกับคุณพ่อครับ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมต้องเรียนรู้มีอีกมากมาย-มหาศาล
น้ำที่ครึ่งแก้วผม กลับลดลงเรื่อยๆ ผมรู้สึกตัวเองโง่มากกว่าที่เป็นอยู่ พลังในการอยากเรียนรู้ของผมเร่งสปีดเกินมาตรวัดเสียแล้ว
ไม่มีพลังใดที่จะเข้มแข็งและไพศาลเหมือนพลังปัญญาและการสะสมปัญญาก็ใช้เวลา+ใจ+ความรู้+ประสบการณ์ ผมได้เดินทงเข้ามาแล้วครับ แต่ก็ยาวใกลสำหรับเส้นทางสายนี้
เป็นกุศลอย่างที่สุดครับที่ได้ร่วมทำงาน ร่วมใจ ร่วมจิต กับมิตรรัก คนดีศรีสังคม
ผมขอให้กำลังใจทุกท่านนะครับ และระลึกเสมอว่า "ความดีสวยงามเสมอ"
และอีกภาพครับ
พ่อครู ขา
สวัสดีค่ะพ่อฯ
จากงานนี้ หลาย ๆ คนคงจะเห็นถึงศักยภาพของคนพันธ์บล็อก อย่างเรา ๆ นะคะพ่อ
คนพันธ์บล็อก ที่ทำงานด้วยใจสั่งมา ไม่ต้องอาศัยคำสั่งแต่งตั้งกรรมการใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องมีรายงานการประชุม ทำงานด้วยใจ ทุกอย่างจึงราบรื่น
อยากให้กระบวนการทำงานใหญ่ ๆ ปฎิวัติรูปแบบการทำงานกันได้แล้ว เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ไป จึงไม่ได้เห็นกระบวนการทำงานดี ๆ แบบนี้ ฝากพ่อถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ แบบนี้ ผ่านเวทีที่พ่อมีโอกาสแวะเวียนไปให้ความเห็นด้วยนะคะ
ภาพข้างบนขอตั้งชื่อว่า....."ชายสามวัยแต่หัวใจตรงกัน"...ค่ะ.....
พี่ติ๋วขา
ชายสามวัย หรือชาย สว.
หนูสับสนค่ะ
ไม่แน่ในว่าคำย่อเป็นคำไหน
อิอิ
ครูบาที่เคารพ
กราบขอบพระคุณที่ให้ความกรุณาหลายๆเรื่อง รวมทั้งยังกรุณาไปเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนรักด้วยค่ะ
ครูอึ่งบอกว่า การมาของครูบา อาจารย์ Handy อาจารย์ขจิต คุณทวีสิน น้องเอก และน้องอึ่งอ๊อบ เป็นขวัญและกำลังใจกับคณะครูมากค่ะ
ขอชื่นชมและ อิจฉาจริงๆเลยค่ะ
เวทีนี้ หนิงไร้วาสนาอ่ะ
น้องอึ่งอ๊อบจ๋า
พ่อครูบา เจ้าขา
ตายแล้ว!...น้องหนิงมาหน้าบ้านพ่อครูบา
ดังนั้นสังคมไม่ควรจะมาคาดหวังอะไรกับกลุ่มเราทั้งสิ้น เราจะคิดและทำกันเองอย่างอิสระ นึกอยากทำก็จะทำ ถ้าทำกับองค์กรหรือเจ้าภาพที่ไม่ชอบมาพากลเราก็จะไปตามวิถีทางของเรา ไม่มีใบสั่งใดมามีอำนาจเหนือเรา เราอยากจะหลุดพ้นสังคมตอแหล สังคมทฤษฎี เบื่อพวกวิชามารและเสียงเห่าใบตองแห้ง เข้าไปอยู่ในโลกเฮฮาศาสตร์บ้านหลังใหม่ที่อบอุ่น พัฒนาความพึงพอใจ ไปสร้างเสริมความเข้าใจ ให้ไปเป็นความตั้งใจที่จะทำอะไรร่วมกัน
มาอ่านแล้วอมยิ้มมมมมมมค่ะ เห็นด้วยอย่างแรง ^_^
ธุค่า ..
เห็นด้วยอย่างมาก ที่ครูบาฯบอกว่า Blog เป็นเครื่องมือผลิตความสุข ความอบอุ่น และความรุ่งเรืองให้กับชีวิตพวกเราด้วยละครับ ตอนแรกนึกว่ามันเป็นสารคลายเครียด เครื่องมือผลิตความสุขนี้ มีประสิทธิภาพมากๆค่ะ
" ใจสั่งมา " อธิบายยังไงคนที่ยังไม่ทะลุมาถึงตรงจุดนี้ได้ ก็ยากที่จะเข้าใจ bloggers อย่างพวกเรานะครับ ที่ได้ถอดหมวก ออกนอกกรอบ สลัดคราบหัวโขน ฯลฯ ออกหมดแล้ว มองสังคมส่วนรวมและเครือข่ายการพัฒนาร่วมกัน เห็นความสวยงามและเส้นทางอันแจ่มใสและยาวไกล...แต่ก็ยังพอเห็นทางสว่างนะครับ
ไปถึง ก็ยังคิดถึง
ถึงไม่เจอก็ยังคิดถึง
กลับมาแล้วก็คิดถึงทุกคนที่เชียงใหม่
เดินงัวเงียตามมากอดพ่อครูอีกหนนึง :)
คนดีนี่ กอดเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม
เสร็จงานอยากนอนสักสามวัน แต่งานไม่อนุญาต
เลยมานั่งยิ้มนกอยู่ที่ทำงาน
แอบงีบตอนประชุมอาศัยจังหวะคนพูดยาวๆเล็กน้อย
ฟังหัว ท้าย เข้าใจได้เหมือนกัน :)
สมกับเป็นสุดยอดผู้นำจริงๆค่ะ
แอบงีบตอนประชุมอาศัยจังหวะคนพูดยาวๆเล็กน้อย
ฟังหัว ท้าย เข้าใจได้เหมือนกัน :)
พวกเรา..อย่าไปบอกใครนะคะ
สวัสดีค่ะพ่อครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
อ่านบันทึกพ่อครูฯแล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ นั่งอมยิ้มตลอด
ยิ่งมาอ่านข้อความของหลายๆ คนที่มาลงแล้ว พร้อมกับดูรูปไปพลางยิ่งต้องอมยิ้มค่ะ
ดีใจที่ได้พบพ่อครูฯ อีกครั้งนะคะ พี่แป๋วบอกว่าคราวหน้าไว้พบกันที่ดงหลวงค่ะ ^ ^
สวัสดีครับท่านครูบาครับ
คิดถึงทุกๆท่านค่ะ จริงๆอย่างน้องซูซานว่าไว้ค่ะ เราเห่อกัน ปลื้มกันเองมากเลย ...
ก่อนกลับว่าจะ write รูปทั้งหมดที่แป๋วถ่ายภาพลงแผ่น CD ให้พ่อครูบา ก็ทำไม่ทันเพราะเวลากระชั้นชิดเหลือเกิน ... ถ้าน้องอึ่งอ๊อบ ไม่ไป check in ไว้ให้ก่อน มีหวังตกเครื่องได้นอนเชียงใหม่อีกหนึ่งคืนสมกับที่ยังไม่อยากกลับเพราะอยากตามพ่อครูบาไปลำพูนด้วยแน่ๆค่ะ ... ถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 20 นาที แถมรำลาแบบอาลัยอาวรอีกค่ะ ขึ้นรถไปขึ้นเครื่องเป็นชุดสุดท้ายค่ะ (ไม่รวมคนที่ไปรอขึ้นเครื่องผิดที่)
สวัสดีครับครูบาฯ
ผมรู้สึกผิดและขาดโอกาสอย่างมหันต์ที่ผมเพียงเข้าไปทักทายสวัสดีครับในวันสุดท้ายที่ลงเวทีผ่านครูบาฯ คงต้องอภัยให้ผู้น้อยนะครับ ผู้อาวุโส(ที่ไม่แก่)
สวัสดีครับท่านพ่อ ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
อย่าหักโหมมากนะครับ เป็นห่วงสุขภาพร่างกายท่าน เรื่องสุขภาพจิตของท่านคงไม่ต้องพูดถึงใช่ไหม..ครับ
พ่อครูบาตกเครื่องอยู่ที่ กทม แบบโชคดี จะได้ตั๋วลดราคาสนับสนุนคนกลับบ้านไปลงเสียง รับ-ไม่รับร่างฯ แน่ๆ เลย
นอนหลับพักผ่อนเยอะๆ นะค่ะ ออมแรงไว้ไป เฮฮาศาสตร์ที่ญี่ปุ่น แล้วต่อด้วยดงหลวงค่ะ
ขอให้พ่อครูบาหลับฝันดี ได้ตามโปรแกรมให้ครบนะค่ะ ...ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะพ่อฯ
เพราะมัวแต่ฝันหวาน เลยตื่นไม่ทันเครื่องบิน ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ยังมีเวลาให้ฝันหวานต่ออีกรอบ จะได้ตามเก็บได้ทุกท่านไงค่ะ
ยินดีด้วยครับ กับไอซีทีชุมชน หากต้องการผู้ช่วย กริ่งได้เลยครับพ่อ
กราบสวัสดีครับท่านครูและทุกท่านที่น่ารัก
ถ้าตัดต่อ CD.ต้องประชาสัมพันธ์ฝีมือครับ ช่วยฝากไปทางสวนป่าด้วยก็ได้นะครับ เสียดายไม่รู้ว่าไปนั่งเล่นอยู่หลายชั่วโมง ไม่งั้นชวนไปจีบสาวแม้ว อีก้อ มูเซอแล้ว อิอิ
คุณแผ่นดินหนุ่มน้อยจากมหาสารคาม กระมิดกระเมี้ยนที่สุดในบรรดากลุ่มลูกชายผม งานนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แสดงตัวเป็นเจ้าภาพ ให้ความเห็นเป็นต่อยหอย ลุกขึ้นจับไมค์ทำหน้าที่เต็มศักยภาพทั้งในฐานะวิทยากรและครูพี่เลี้ยง รวมทั้งอาสาทุกเรื่องโดยเฉพาะค้นคิดค้นหาคำตอบอย่างทุ่มเททั้งกลางวันกลางคืน ก๊วนนี้เขาจับคู่เข้าขากับคุณเอกจตุพร อ.ขจิตกามนิตหนุ่มและคุณทวีสิน เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น4หนุ่มเขาระดมพลังทำงานกัน เรียกว่าน่าชมจนห้ามกระพริบตา ทุกเวลาแม้แต่บนโต๊ะอาหาร เขาจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอัตโนมัติ
...
คืนสุดท้าย ผมประทับใจคำที่พ่อบอกกล่าวมาก คือ การหาความรู้ ทำไมเราต้องทุกข์ขนาดนี้ ...
รูปนี้จ๊าบมาก เจ้าลูกชาย อาจจะทำให้ขายออกได้ง่ายขึ้น
รูปนี้ก็จ๊าบมาก ชุดดำกับคนหัวใจสีขาว เข้ากันดีเสมอ
ส่งข่าวถึงครูสุ
ช่วยหาเสื้อสีดำมาแต่งตัวให้หน่อย จะได้จ๊าบเหมือนคนอื่น เสื้อสีแดงพอแล้ว อิอิ
กราบสวัสดี...พ่อครูบาค่ะ
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าBlog เป็นตะเกียงอาละดินสำหรับผม ต้องการอะไรก็เรียกหาได้ทันที เรายังมีเพื่อนที่คอยห่วงหาอาทรกันอีกมาก คุณต้อมที่อยู่เชียงใหม่มาร่วมงานไม่ได้ เธอวางแผนทำของที่ระลึกเป็นการ์ดและหนังสือทำมือฝากทุกคนที่เธอรู้จักทางBlog เอากับเธอสิ..พวกเรานะจังงังกับวิธีผูกสัมพันธไมตรีของเธอมาก ทุกคนพูดถึงเธอ อยากเห็นหน้าเธอ คิดถึงเธอ โธ่ต้อม เธอมาเหมือนสายลม วูบมาไม่พบใครได้แต่ฝากของไว้ให้ดูต่างหน้า เธอเป็นคนหรือเป็นเทพธิดา..นะ
เออ .. หนูเป็นคนค่า เป็นคน ว่าแล้วเชียวว่าเข้ามาอ่านครั้งแรกและตอบไปนี่หนูลืมยืนยันว่าตัวเองเป็นคน haha มายืนยันตอนนี้ก็คงทันเนอะ พ่อครูบาฯ ขา แต่จะว่าไป..หนูก็ชอบไปไหนไม่ค่อยจะทิ้งร่องรอยคล้ายสายลมอยู่เหมือนกันนะ อิอิ
ธุค่า ^_^
ค่ะ ขอยืนยันด้วยอีกหนึ่งเสียงค่ะ หนู่ต้อมแกชอบผูกสัมพันธ์กับคนด้วยวิธีนินจาค่ะ เมื่อไรที่แกอยากให้เจอ ก็จะโผล่มาค่ะ แต่นี่พอดีน้องเค้าไม่ว่างจริงจริ๊ง จึงใช้วิธีผูกกับสายลม เอาของที่ระลึกไปมอบให้ดูต่างหน้าไว้เป็นมัดจำก่อนไงคะ แต่น้องเค้าน่าร๊ากกกกกกกก จริงๆ นะคะ
แวะมาบอก ด้วยรักและคิดถึง(ทุกคน)สม่ำเสมอ ....ค่ะ เหมือนพี่ติ๋วค่ะ ลอกมาเลยทั้งดุ้น ก็มันดีอยู่แล้วนะคะพ่อครูฯ ^ ^
ขอบคุณที่ชมเรื่องรูปนะคะ หนูหน้าบานเลยค่ะ ^__^