กอด...คือสิ่งที่แทนอะไรๆได้มากมายโดยเฉพาะสำหรับลูก


อ่านบันทึกดีๆของคุณ บิร์ด เรื่อง พลังของการกอด แล้วทำให้อยากเขียนบันทึกเรื่องนี้บ้างค่ะว่า การแสดงความรักกับลูกด้วยวิธีกอดนี้ เป็นสิ่งที่มีค่ามากจริงๆ ตัวเองโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่การกอดคือเรื่องปกติ ตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อยก็จำได้ว่า เวลาเราเจอคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย หรือแม้แต่กับคุณพ่อคุณแม่ เราจะไม่ยกมือไหว้เฉยๆ แต่จะมีการเข้าไปกอดแถมด้วยเสมอๆ จนไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร และเมื่อย้อนคิดไปก็ทำให้คิดได้ว่า นี่อาจจะเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ดี รักและเข้าใจผู้อื่นได้ง่ายเสมอ

กับสามหนุ่ม เราพ่อแม่ก็กอดเขาเป็นเรื่องปกติมาตลอด จนบางครั้งเราไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำว่าการกอดมีอะไรดีพิเศษตรงไหน แต่มีหลายๆครั้งที่ได้รับรู้เรื่องราวของเด็กที่โหยหาการกอด ก็ทำให้เราสะเทือนใจจนน้ำตาไหลได้ เมื่อหลายวันก่อนก็ดูรายการ "จุดเปลี่ยน" พบเด็กชายคนหนึ่งที่เขียนว่าอยากให้แม่กอดบ้าง ทั้งๆที่เขาไปไหนมาไหนกับแม่ตลอดเวลา (ไม่มีพ่อ) แต่แม่ก็ไม่เคยกอดเขาเลย คุณแม่เองพอทราบก็น้ำตาร่วงเหมือนกันค่ะ เพราะเหตุผลของคุณแม่ก็คือ คิดว่าลูกเริ่มโตแล้ว (รู้สึกจะชั้น ป.5 หรือไงนี่แหละค่ะ) คงไม่อยากให้แม่กอด

ทำให้อยากเขียนยืนยันอีกทีค่ะ ว่าการกอดคือการสื่อสารที่ง่ายแต่มีคุณค่ามากมายเกินบรรยายจริงๆ และไม่มีใครแก่เกินกว่าจะกอดหรือถูกกอดแน่นอนค่ะ ลูกชายวัยรุ่นอารมณ์ร้อน วิธีการที่เขาขอโทษหรือขอบคุณที่ง่ายๆและเรารู้ได้ก็โดยการกอดนี่เองค่ะ สะดวกง่ายดายจริงๆ สอนลูกให้คุ้นเคยกับการกอดเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ ถ้าใครยังไม่เคยทำ ไม่มีวันสายไปแน่นอน เริ่มที่ตัวเรานี่แหละค่ะ ขอกอดเขาก่อนได้เลย เพราะนอกจากจะถ่ายทอดความรัก ความปรารถนาดีที่เรามีต่อลูกได้อย่างง่ายดายแล้ว ยังเป็นการสอนให้ลูกรู้วิธีถ่ายทอดความรู้สึกผ่านการกอดอีกด้วย ผลที่ติดตัวเขาและตัวเรานั้นยาวนานและส่งผลดีอื่นๆได้อีกมากมายจริงๆค่ะ ลองดูตั้งแต่วันนี้แล้วจะรู้.... 

หมายเลขบันทึก: 113957เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2007 01:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2012 18:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

สวัสดีค่ะคุณโอ๋....

ขอบคุณค่ะ

สวัสดึค่ะคุณโอ๋

       เคยได้มีโอกาสไปร่วมงาน new school forum ภาคอีสาน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในงานมีครูใน ร.ร.ประถมแห่งหนึ่ง มาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้เรียน 

       ครูเล่าว่า เมื่อเปิดเรียนหลังปีใหม่ ครูถามเด็กว่า น.ร.อยากได้อะไรในปีใหม่ ให้เขียนลงในกระดาษ น.ร.เขียนว่าอยากได้ ตุ๊กตา ของเล่น ฯลฯ   ครูอ่านกระดาษของ น.ร. หญิงคนหนึ่ง เขียนว่า  "อยากได้กอด"  พอครูอ่าน เพื่อน ๆ หัวเราะ   แต่ครูไม่อยู่เฉย สืบหาข้อเท็จจริงว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังความคิด น.ร. คนนี้

        .....น.ร.คนนั้น ไม่เคยได้รับการกอดจากพ่อแม่เลย เพราะครอบครัวยากจนมาก พ่อตาย แม่เป็นอัมพาต  ครูผู้มีใจเมตตา ให้ความช่วยเหลืออีกหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ครูทำทุกวัน คือให้ น.ร.คนนี้ไปหาครูที่ห้องทุกเช้าก่อนเข้าเรียน แล้วครูก็กอดเธอทุกครั้ง   ครูเล่าว่า เวลาผ่านไปไม่นาน สิ่งที่มองเห็นคือ แววตาของ น.ร. มีประกายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าตาสดใส  การเรียนดีขึ้น ฯลฯ  คุณครูเล่าได้อารมณ์มาก คนที่ฟังพากันน้ำตาปริ่ม ตื้นตันใจ....

        อ่านบันทึกของคุณโอ๋ แล้วทำให้คิดถึงเรื่องนี้มากกก  จึงขอเล่ามา ลปรร. ค่ะ

สวัสดีค่ะ

เรื่องการกอดนี้ พอดี ครอบครัวมีการแสดงออกเรื่องการกอดมาตั้งแต่เด็ก  พอมีครอบครัว ก็มีการกอดกันเป็นประจำ ไม่ใช่เรื่องแปลก

ตอนนี้ ลูกชายอายุ 30 กว่าแล้วยังกอดกับแม่อยู่ทุกครั้งที่พบกันค่ะ  เป็นแม่ลูกที่รักกันมาก เขารักและแคร์แม่มากค่ะ

การกอด มีพลังจริงๆค่ะ

สวัสดีค่ะพี่โอ๋

เบิร์ดก็โตมาจากการกอดเหมือนกันค่ะ และจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังถูกกอด  ถูกหอมอยู่เหมือนเดิม...ความรัก  ความอบอุ่น  ความผูกพันที่ได้รับทำให้เบิร์ดและน้องๆทุกคนไม่เคยเหลวไหล และภูมิใจในครอบครัวของเรายิ่งนัก...สายใยรักที่บางเบาแต่แน่นเหนียวได้ร้อยรัด และถักทอเป็นผืนผ้าแห่งความผูกพันที่ห่มคลุมพวกเบิร์ดทุกคนให้เย็นฉ่ำใจในวันที่ร้อนผ่าว  และอบอุ่นในวันที่เหน็บหนาวตลอดมา...

เอาดอกไม้มาฝากสำหรับบันทึกที่อบอุ่น อ่อนโยนของพี่โอ๋ในวันที่สายฝนเต้นระบำค่ะ

 

แจกันb V020

 

ขอบคุณมากค่ะสำหรับบันทึกดีๆที่ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น อ่อนหวานของการกอด...ขอบคุณมากๆค่ะ

สวัสดีค่ะ

....  กอด ใครคิดว่าไม่สำคัญ

กอด สิ่งเดียวเท่านั้น มันทำให้อบอุ่นไปถึงทรวงใน

...  ตระกองกอด พลอดรัก ถ่ายเท

พลัง ความอบอุ่น ความผูกพัน ...

ฝนตกโปรยปราย ก็รู้สึกอบอุ่นได้ในเร็วพลัน

...  ขอบคุณค่ะ  ... 

สวัสดีครับ

  พออ่านบันทึกนี้ก็คิดถึงสิ่งที่เราทำแล้วก็อธิบายไม่ได้ครับ   

มันเป็นความรู้สึก...  แบบว่าเจอลูก   เช้า  เที่ยง  เย็น  เป็นต้องอุ้มและกอดทันทีเลยครับ    หลังจากนั้นความรู้สึกดีๆก็จะเกิดขึ้นเองทันที

   ช่วงนี้มีบันทึกเรื่อง  กอด ^_^..หลายบันทึกมากครับ

   ขอบคุณพี่โอ๋ครับ...^_^**

สวัสดีค่ะ

      ขอต่ออีกนิด เมื่อคราวไปเข้าห้องย่อยกรมสุขภาพจิต งานมหกรรม KM ปีที่ผ่านมา

     คุณสมพร วิทยากรมือหนึ่ง พูดเรื่องพลังของการสัมผัส "กอด"   เล่าว่า คนในครอบครัวเดียวกันกอดกันน้อยลง  ลูก ๆ ไม่ค่อยได้รับสัมผัสกอดจากพ่อแม่ จึงเป็นที่มาของเด็กสาววัยรุ่น แสวงหากอดจากชายอื่นที่ไม่ใช่พ่อ ที่น่าตกใจก็คือ แต่ละคืนคนที่กอดไม่ใช่ชายคนเดียว แต่เป็นหลาย ๆ คนในคืนเดียวกัน

      ฟังแล้วเศร้าจัง ค่ะ

ลูกสาวที่ถูกพ่อกอดบ่อยๆ เขาจะอิ่ม โตขึ้นมาจะได้ไม่ต้องหิวโหยหากอดจากอกชายอื่น (เร็วไปนัก) จริงหรือไม่จริงก็ลองสังเกตดูนะครับ

บ้านผมกอดกันได้ทั้งวันครับ บางทีกอดกันทีเดียวทั้งบ้านเลย (แบบว่า ๓ สาวที่บ้านผม ตัวเล็กทั้งนั้น)

 

สวัสดีด้วยความระลึกถึงยิ่งค่ะพี่โอ๋

  •  สามหนุ่มของพี่โอ๋คงโตขึ้นเป็นคนที่อบอุ่นและอ่อนโยน   เพราะคุณแม่ละเอียดอ่อนออกอย่างนี้    
  • ดีใจจังเลยค่ะที่พี่โอ๋เขียนบันทึกถึงเรื่องกอด  อ่านแล้วชื่นใจ   และรู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นที่จะกอดคนที่เรารักอย่างอบอุ่น....  และจริงใจ  และด้วยความบริสุทธิ์ใจ
  • เอ่อ...  เรียกว่า กอดอย่างมีวุฒิภาวะ   คือแอมแปร์รู้สึกอย่างนั้นนะคะ  
  • ขอกอดพี่โอ๋หนึ่งทีนานๆนะคะ  ....  ตอนนี้ดึกแล้ว  แอมแปร์ไม่เขินเท่าไหร่    : )         : )

ลูกสาวหมอจะถูกคุณพ่อกอดบ่อยๆค่ะ   หมอกอดลูกในสมัยเด็กๆ   แต่พอเป็นสาวก็กอดน้อยลงแต่มักจะจับมือกันมากกว่าค่ะ     อ่านแล้วจะไปกอดลูกสาวมากขึ้นค่ะ

  • สวัสดีครับคุณโอ๋
  • ผมก็ให้ความสำคัญและเห็นความสำคัญของการกอดครับ
  • ช่วงตอนเป็นวัยรุ่นเวลาผมคิดจะนอกลู่นอกทาง แล้วความรู้สึกอบอุ่นที่ครอบครัวให้ก็จะผุดขึ้นมา ถ้าไม่มีความอบอุ่นจากการกอดของครอบครัว ผมไม่รู้ว่าจะมีวันดีๆอย่างทุกวันนี้หรือเปล่า
  • ขอบคุณที่ให้โอกาสได้ร่วมแบ่งปันครับ

สวัสดีค่ะคุณโอ๋

อ่านบันทึกนี้รู้สึกถึงพลังอันอบอุ่นค่ะ  เพราะการกอดคือการถ่ายทอดความรักให้กันค่ะ

ราณีก็กอดนะค่ะกับหลาน ๆ หอมกันฟัดกันประจำ เขาจะเข้ามากอดเราบ่อยๆ  และหอมแก้มกันบ่อยมากค่ะ   ทำให้เราใกล้ชิดกันค่ะ

เสียดายราณีไม่ค่อยได้กอดพ่อกับแม่ เท่าไร เพราะไม่เคยถูกเลี้ยงดูมาแบบนั้น  แต่เดี๋ยวนี้พยายามแสดงออกให้แม่รู้โดยการกอด และหอมแก้ม  แต่ก็เป็นในโอกาสพิเศษนะค่ะ พยายามทำนะค่ะ

ขอบคุณที่ทำให้อ่านบันทึกที่ดีค่ะ

 

ครูอ้อย คุณoddy คุณ sasinanda คุณ เบิร์ด คุณ poo คุณหมอสุพัฒน์ อ.หมอแป๊ะ น้องแอมแปร์ คุณหมออัจ คุณ บัวชูฝัก คุณ Ranee ขอกอดทุกๆท่านแทนคำขอบคุณที่มาร่วมแบ่งปันความรู้สึกดีๆสนับสนุนการกอดกันนะคะ ซาบซึ้งกับทุกๆตัวอักษรที่ทุกท่านเข้ามาฝากไว้ตรงนี้ รู้สึกได้เลยว่าเป็นแรงพลังที่ทำให้อยากทำดีต่อๆไปให้มากๆยิ่งขึ้นค่ะ ขอบคุณจริงๆ

มาโหวด ด้วยคนค่ะ

ทีม กอดกันกลม

อ่านบันทึกนี้อีกรอบก็ยังรู้สึกดีใจที่ได้เขียนนะคะ คุณหมอเล็ก นี่ก่อนที่น้องฟุงจะไปนอนก็ยังมากอดกัน หอมแก้มซ้ายขวา หอมไปหอมมา จนต้องบอกว่าไปนอนได้แล้วลูก โดนคุณพ่อแซวด้วยว่าโตจะตายอยู่แล้วยังต้องมาให้แม่กอดก่อนไปนอนอีก เขามีความสุข เราก็มีความสุขนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท