เมื่อครูด่าเด็กว่า "โง่"


"ไหนแม่เธอว่าเธอฉลาด ที่แท้ก็โง่"

            วันนี้ขณะนั่งรับประทานอาหารเย็น น้องเอมลูกชายวัย 6 ขวบ ถามว่า "แม่ไปบอกครูว่าหนูฉลาดเหรอ "  แม่บอก "ไม่เคยนะ"  น้องเอมเล่าว่า "วันนี้ครูด่าหนูว่า ไหนแม่เธอว่าเธอฉลาด ที่แท้ก็โง่"  ดิฉันฟังแล้วรู้สึกตกใจ ถามลูกต่อว่า "จริงเหรอลูก แม่ไม่เคยบอกครูนะว่าเอมฉลาด แล้วเอมไปทำอะไรครูถึงว่าอย่างนั้น"   น้องเอมไม่ตอบ เฉไฉไปพูดเรื่องอื่น ดิฉันพยายามชวนคุยแล้ววกกลับมาถามอีกว่า "เอมเล่าให้แม่ฟังหน่อย ที่ครูว่าเอม"   น้องเอมเริ่มอารมณ์ไม่ดีบอก "ไม่เล่า"   ดิฉันมานั่งคิดว่า หากเรื่องที่ลูกเล่าเป็นจริง ทำไมครูจึงใช้วาจากับนักเรียนด้วยคำพูดแบบนี้  ซึ่งโดยความเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่า การเรียนการสอนสมัยนี้ ไม่นิยมการลงโทษด้วยการตี หรือใช้ความรุนแรงอื่น หรือแม้แต่การใช้คำพูดตำหนิติเตียนที่ไม่เหมาะสม 

             ปกติน้องเอมจะเป็นเด็กช่างเล่า มักมีเรื่องเล่าที่ถ่ายทอดได้ดีพอควร สังเกตเรื่องที่เขาเล่า เราฟังแล้วมักจะวาดภาพในใจได้ เพราะมีทั้งบรรยากาศ  เรื่อง  ประโยคสนทนา ที่ถอดจากคำพูดของคนที่ถูกกล่าวถึง   ท่านใดได้อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร หรือมีประสบการณ์เรื่องทำนองนี้อย่างไร ช่วยเข้าแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะคะ

คำสำคัญ (Tags): #ลูกชาย#โง่
หมายเลขบันทึก: 108938เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2007 20:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 08:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีค่ะ

ดิฉันไม่เคยประสบเรื่องแบบนี้มากับตัวเองค่ะ

แต่ถ้าครูพูดเช่นนี้ ก็ไม่สมควรมาก เพราะ คนเป็นครู จะทำร้ายเด็กด้วยวาจาขนาดนั้นหรือคะ

คงจะเครียดมาก มีการวิจัยที่ต่างประเทศว่า คนที่มีอาชีพครูค่อนข้างจะมีความเครียดสูงค่ะ

การใช้คำรุนแรงด้วยคำพูด  เป็นความรุนแรงที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจมากครับ  โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ผมยอมรับว่า  มีคำพูดหลายคำที่ผมนึกไม่ถึงว่า  ผู้ใหญ่จะพูดออกมาเพื่อลงโทษเด็ก  ในขณะที่ผู้ใหญ่เองไม่ได้มีเจตนา  หรือคาดไม่ถึงว่า  คำพูดที่แสนธรรมดานั้น  จะเป็นการกระทำรุนแรงทางวาจา  ต้องไม่ลืมครับว่า  การรับรู้ของผู้ใหญ่เสียหายไปมากแล้วการรับรู้จึงไม่เร็วเท่ากับเด็ก

ผมแนะนำว่า  ควรหาโอกาสคุยกันระหว่างคุณครูและคุณแม่นะครับ  คุยกันดี ๆ ค่อย ๆ คุยกัน  จะได้ช่วยกันคลายแผลเป็นที่เกิดจากคำพูดนั้น  ที่เด็กไม่กล้าเล่าให้ผู้ปกครองฟัง  เพราะ "ครู" ในความรู้สึกของเด็กนั้น  คือผู้มีอำนาจครับ  หากปล่อยไว้  "เขาจะเชื่อจริง ๆ ว่าเขาโง่"  การเปลี่ยนโปรแกรมต้องให้คนพูด คือคุณครูเป็นคนแก้ไขครับ

เด็กสมัยนี้  อาจจะไม่เหมือนสมัยผมเป็นเด็กก็ได้  ผมได้รู้จักกับเด็กวัยหกขวบคนหนึ่ง  แต่พัฒนาการไม่ใช่เด็กหกขวบเลยครับ  เพราะลักษณะพฤติกรรมที่แสดงออก  มันเป็นบุคลิกของ "นางอิจฉาของละครช่องสามเป๊ะ"  ผมค่อนข้างแปลกใจ  เพราะผมไปเจอเด็กคนนี้ตอนแกหกขวบแล้ว  ผมเริ่มสังเกตก็เริ่มได้รู้ว่า  "แกถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวเสมอ ๆ" และสิ่งที่เป็นพี่เลี้ยงแกดีที่สุดคือ "ละครช่องสาม" ครับ  แต่แกดันไปถอดแบบ "นางร้าย" มาเสียนี่  จึงน่าเป็นห่วง

ครั้งหนึ่งผมสอนแกเล่นลูกบอลยาง  ที่ผมสังเกตว่าแกชอบมาก  ในขณะที่เล่าอยู่นั้น  มาคนมาสอบถามเกี่ยวกับแม่ของแก  ผมตกใจมาก  เพราะแกสามารถ "โกหก" ได้อย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลย  แล้วยังหันมาถามผมอีกว่า "หนูพูดเก่งไหมคร?" ทำเอาผมนี้  ตั้งตัวไม่ทันเลยว่า  จะสอนแกอย่างไร  ได้แต่พูดว่า  "ทำไมต้องโกหก  ถ้าเราไม่รู้ก็ต้องบอกว่าไม่รู้  อย่าโกหก"  ผมพลิกตำราทันเท่านี้  เพราะประสบการณ์ตรงไม่มี  ผมจึงตัดสินใจทำโทษแกด้วย  "งดเล่นบอลสองวัน"  แล้วตั้งกติกาว่า  "ถ้าโกหกอีก  ครูจะไม่สอนเล่นบอลอีกหนึ่งวัน"

ผมได้แต่หวังว่า  แกคงจะชอบเล่นบอลมาก  จนยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม  แทนที่จะหันไปหา "ละครช่องสาม" เหมือนเดิม

"รักในหลวง  ห่วงลูกหลาน  อย่าปล่อยลูกหลานดูทีวีตามลำพังครับ" หรือแม้แต่ผู้ใหญ่เอง  ก็ห้ามดูเกินวันละสองชั่วโมงนะครับ  มันทำให้ "สมองกลวง" หาหนังสือที่มีประโยชน์มาอ่าน  จะดีกว่าเยอะเลยครับ

      

       ขอบพระคุณ P     P   มากค่ะ ที่เข้ามาแลกเปลี่ยน ได้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์มากมาย

        ดิฉันกำลังคิดว่าจะรอทิ้งช่วงจังหวะไปสักระยะ  แล้วจะไปพบคุณครูในลักษณะ ชวนคิด ชวนคุย ไม่ได้หวังจะไปค้นหาความจริงโดยตรง  แต่วิธีการคงต้องค่อยเป็นค่อยไป  ขณะเดียวกันก็จะเก็บข้อมูลถึงบริบทของครูในเรื่องต่าง ๆ จากลูก หรือคนอื่น เช่น เพื่อนลูก ผู้ปกครองเพื่อนลูก หรือแม้แต่เพื่อนครูในชั้นเดียวกัน      

สวัสดีค่ะ..พี่วิมลพรรณ

ยินดีที่รู้จักมากๆเลยค่ะ.อ่าน.เรื่องนี้แล้วเป็นอุทาหรณ์ที่ดีมากไว้เตือนสติคุณครูว่า..ไม่ควรพูดจาที่ทำร้ายเด็กอย่างนี้..

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและมิตรภาพที่ดีๆค่ะ..ขอเอาบล็อกพี่เข้าแพลนเน็ตแอ๊วด้วยค่ะ..ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีครับ,
  • การด่านักเรียนถือเป็นการลงโทษที่ฝังรากลึกในจิตใจของเด็ก
  • ลูกชายผมเคยโดนครูตำหนิ  เพียงเพราะขาดความมั่นใจในการบวกเลข..
  • แกเงียบและกลัวครูอยู่ร่วมสัปดาห์, 
  • ผมมาทราบทีหลัง  ตอนแรกก็กะจะถามครูอยู่เหมือนกัน  แต่ก็อดทน .. และพยายามสอนให้ลูกกล้าหาญและทำความเข้าใจในทางบวก
  • สุดท้ายลูกมาเล่าให้ฟังว่า "ครูขอโทษ"  แล้ว...
  • .....
  • ผมไม่ชอบเลยที่ครูต้องด่าว่า "โง่" ......
  • ลูกชายผมในวัยไม่ถึง 4 ขวบ  ยังไม่ควรที่จะโดนครูตำหนิในทำนองนี้ .... เพราะวัยแค่นี้ชี้วัดกันได้แล้วเหรอว่า  ฉลาด หรือ โง่...
  • ผมเข้าใจ,  เห็นใจ ... แต่ก็อยากให้ครูเข้าใจเด็กด้วยเช่นกัน
  • ขอบคุณครับ

  สวัสดีค่ะคุณวิมลพรรณ

      ครูตุ้มก็เคยมีความรู้สึกเหมือนคุณเลยค่ะ  เมื่อตอนที่ลูกชายเรียนชั้น  ป. 4   ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งมีชื่อเสียงดีมากค่ะ   ลูกชายบอกว่ากำลังเขียนหนังสืออยู่  คุณครูก็โยนแปรงลบกระดานมาถูกหน้าผาก โนปูดโตมากค่ะเท่าผลมะนาวกระมัง  แล้วลงจากรถตู้ก็ร้องไห้โฮ  บอกว่าคุณครูโยนถูกเจ็บมาก   แม่ถามว่าครูชื่ออะไร.....ลูกชายบอกว่าแม่อย่าไปบอกผอ. นะ...เพราะคุณครูขอโทษแล้ว....ครูตุ้มนำตาไหลอาบแก้มเลยค่ะ...โทรศัพท์บอกคุณพ่อที่กำลังไปอบรมสัมมนาที่กรุงเทพ....คุณพ่อของลูกบอกว่าเดี๋ยวจะจัดการเองให้น้องสาวไปหาคุณครูทีจังหวัด  คุณครูบอกว่าขอโทษว่าจะโยนใส่คนที่คุยกันเลยไปถูกน้องเจ...ครูตุ้มไม่รู้จะทำอย่างไรดี...ก็มีแต่คำว่าอภัยเท่านั้น  จะพูดไปเรื่องก็ใหญ่โตเพราะลูกเรายังเรียนอยู่ที่นั่น      เรื่องก็เงียบไปจนลูกชายเรียนถึงชั้นป.  6   ลูกชายป่วยครูตุ้มฝากใบลากับหลานสาวไปให้ครูประจำชั้น.....คุณครูประจำชั้นถามหลานสาวว่าเป็นน้องของเจเจเหรอ..จะโง่เหมือนกันไหม....หลานสาวกลับบ้าน   ร้องไห้โฮว่าครูว่าหนูจะโง่เหมือนพี่เจ    น้องชายเลยมาหาครู...ครูบอกว่าพูดหยอกเล่นเฉยๆ     คุณวิมลพรรณลองคิดดูสิคะพอลูกชายจะสอบเรียนต่อ  ม.1   ลูกชายบอกว่าครูว่าหนูโง่  พ่อต้องติดต่อที่เรียนให้หนูให้ได้นะครับเพราะหนูเป็นคนโง่ไง....คิดๆไปก็สงสารลูกว่าเราส่งมาเรียนผิดที่หรือเปล่าเรียนที่โรงเรียนเราสอนก็ไม่เห็นจะมีปัญหาลูกคนโตก็เรียนที่นั่นจนจบป.  6  ก็ไปเข้าเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดได้ตามปกติ    พอเราส่งเสริมลูกคนเล็กทำไมถึงมีเวรมีกรรมแบบนี้...ครูตุ้มก็ได้แต่ปลงว่ากรรมของเรากรรมของลูกเราค่ะไม่อยากพูดต่อมันเศร้ามากค่ะ

 

สวัสดีค่ะ

  • ต้องขอบพระคุณทุกท่านที่มีความเห็นเข้ามาแลกเปลี่ยน
  • เรื่องนี้ ดิฉันได้ติดตามพฤติกรรมลูก (หาข่าว) เพื่อนลูก ผู้ปกครอง สุดท้ายก็เข้าไปคุยกับครู
  • ข้อมูลเรื่องการใช้วาจาไม่สุภาพและลงโทษด้วยการตี นั้นมีอยู่จริง (จากการสอบถามเพื่อน ๆ ลูก ผู้ปกครองบางคนบอกลูกร้องไห้ไม่อยากมาร.ร.)
  • ดิฉันได้เข้าไปคุยกับครูอย่างเป็นมิตร เพื่อสร้างความเข้าใจ ขณะเดียวกันก็ขอร้องครู หากมีปัญหาอะไรที่เกินกำลังครู ให้แจ้งผู้ปกครอง การลงโทษเด็กนั้นทำได้ แต่ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม (ระดับใดครูคงทราบดี)  การใช้คำพูดที่ไม่สุภาพมากกกกก   สำหรับดิฉันแล้วถือเป็นการใช้ความรุนแรงชนิดหนึ่ง (แม้จะไม่มีบาดแผล) 
  • และเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ครู(บางคน)นั้นเป็น "น้ำเต็มแก้ว"  ไม่ค่อยฟังเสียงผู้ปกครอง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วครูกับผู้ปกครองควรได้ทำงานร่วมกันเพื่อเด็ก

 

สวัสดีครับ คุณครูอ๊อด

ถ้าว่าเด็ก ถ้าโมโหร้าย ถ้าหน่ายงานสอน ถ้ารักพวกพ้อง ถ้ามองญาติก่อน ถ้าสอนรำเค็ญ

อย่าเป็นเลยครู ครูต้องมีกัลยาณมิตร เด็กคือผู้มีพระคุณ อาชีพครูอยู่ได้เพราะใครเล่า เด็กเด็กเราคือพระเอก

การเป็นครูนั้น มันมีอะไรหลายอย่างมากที่ต้องอดทน

เชื่อว่าครูแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีนิสัย ปากร้าย ปากตลาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

บางคนก็อาจจะมีนิสัย ที่ไม่แคร์สื่อ มั่นใจในตนเองมากเกินไป เลยทำให้ไม่นึกถึงจิตใจของเด็ก

เพราะคิดว่า ไม่ใช่ลูกของตนเอง และการที่ต้องดูแลเด็กๆหลายๆคน ก็อาจจะเกิดความเครียด

เมื่อเด็กไม่ได้เป็นดั่งที่คาดหวัง ก็คือตั้งใจมาก พอเด็กไม่ได้ ก็ผิดหวังมาก เลยทำให้ มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเด็ก

จึงพูดไม่ดีไป

หลายครั้งพ่อแม่ เลี้ยงดูลูก ใหความรักการเอาใจใส่ ดูแลทุกเรื่อง แต่ครูภาระงานเยอะ และปัจจุบันคิดว่า

ฉันมีหน้าที่สอนหนังสือ ฉันสอนเด็กหลายคน คงจะเสียเวลามาก ถ้าฉันจะต้องมาคำนึงถึงความรู้สึกของเด็ก

ขนาด โรงเรียนรัฐบาลนะ ครูข้าราชการเชิดหน้า ในเครื่องแบบ เป็นเทพ มักจะมองว่าผู้ปกครองเป้นเพียงผู้มาขอส่วนบุญ

ส่วนตัว เป็นทั้งครู และเป็นทั้งแม่ ยอมรับว่าหลายครั้ง เราทุกคนเป็นมนุษย์ เป็นปุถุชน เราก็มีบ้าง ที่ผิดพลาดทางวาจา

ไม่ใช่แค่กับนักเรียนนะ กับเพื่อนร่วมงาน ก็มี กับ ลูกน้องก็มี กับลูกของเราก็มี เลยทำให้เรารู้ว่า การเอาใจเขามาใส่ใจเรา

เป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกคนไม่ชอบที่จะถูกตำหนิ แต่เวลาที่เราถูกตำหนิ แทนที่เราจะโกรธ เรามาเปลี่ยนแปลงตัวเองดีกว่า

โดยส่วนตัว ไม่ชอบการตี ไม่ชอบการลงโทษที่รุนแรง มักจะไม่ทำ แต่การบ่น การดุด่า ว่ากล่าว ยอมรับว่าเป็นประจำ(แต่ไม่เคยใช้คำหยาบคาย)

แม้กระทั่งลูกของเราเอง ก็โดนดุ เมื่อทำสิ่งที่ไม่ดี

อยากฝากถึงพ่อแม่ทุกคน ว่า ให้คุยกันด้วยเหตุผล ฟังความทั้ง2ข้าง เพื่อจะได้ช่วยพัฒนาลูกของคุณด้วยเพราะครูจะรู้จักลูกของคุณ

ในอีกมุมหนึ่งที่คุณไม่รู้จัก

นักศึกษาแพทย์ มหิดล

เรียน คุณพรชัย

การใช้คำพูดแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง กับชุดเครื่องแบบในภาพที่คุณสวมใส่

เพราะการที่จะบอกว่าเด็กเป็นผู้มีพระคุณ เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า ขาดความกตัญญู

ถ้าวันนั้นนั้นไม่มีครูที่คอยอบรมสั่งสอน ให้ความรู้ จะมีคุณที่เติบโตขึ้นมาในวันนี้หรือไม่(ลองใช้ดุลยพินิจดูนะคะ)

ส่วนตัวต้องขอขอบพระคุณ คุณครูทุกท่าน ที่ได้อบรมสั่งสอน และประสิทธิประสาทความรู้ทั้งหมดให้แก่หนู

ขอบคุณสำหรับคำดุด่า ว่ากล่าว ตลอดจนไม้เรียวที่ครูลงโทษเพื่อให้รู้สำนึกชอบชั่วดี

ถ้าไม่มีครูในวันนั้น ก็จะไม่มี นศ.แพทย์ ม.มหิดล ในวันนี้ ค่ะ

ส่วนในเรื่องของ ลูกชายเจ้าของกระทู้ ดิฉันอยากให้ ใช้วิธีการปรับความเข้าใจ นะคะ และอย่าใส่ใจในสิ่งที่เป็นข้อเสีย

เชื่อว่า ใครปฏิบัติอย่าไร ก็จะได้รับผลเช่นนั้นค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ในฐานะที่เป็นครู คิดว่าเข้าใจทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ..

ผู้ปกครองตั้งความหวังว่า... ครูต้องเรียบร้อยพูดจาสุภาพ ไม่ดุด่าว่ากล่าวเด็ก เป็นตัวอย่างที่ดี

ข้อเท็จจริงคือ...ครูคือปุถุชน ไม่ได้บรรลุอรหันต์  รัก โลภ โกรธ หลง ก็ยังคงมีอยู่ เพียงแต่ว่าจะมากหรือน้อย หรือสามารถควบคุมได้มากหรือน้อยเท่านั้นเอง

ครู ตั้งความหวังว่า...ผู้ปกครองเข้าใจ และเห็นใจ   ครูต้องให้เด็กเรียนรู้ จากที่ไม่รู้เลย ให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้น มีพัฒนาการที่ดี   แต่ครูต้องรับผิดชอบเด็กหลายๆคนพร้อมๆกัน ความล้า ความเหนื่อย ก็เกิดขึ้น แล้วทีนี้ต้องถามว่า ถ้าท่านเป็นครูท่านจะทำอย่างไร

ทางออกที่ดีคือ...ผู้ปกครองกับครูต้องคุยกันพบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จะได้เข้าใจตรงกัน 

ถ้าอย่างผมควรทำอย่างไร

ผมไปเล่นกีฬาตอนเย็น ผมก็เล่นตะกร้อ

แล้วมีคนูสองคนขี่รถเครื่องมาด้วกันแล้วจอรถยุข้างสนาม

ตอนนั้นผมกำลังเสิร์ฟตะกร้อ แล้วโดนใส่หัวครูคนนั้น

โดยผมไม่ได้ตั้งใจ แล้วครูคนนั้นด่าผมรุนแรงมาก จนผมแทบร้องไห้ ครูคนนั้นเปนครูภาษาไทย รร. เชียงแสนวิทยาคม

ผมก็กล่าวคำขอโทษไป ขอโทษครับ

ครูเค้าด่าผม ไอ้เวร กูเป็นพ่อมึงเหรอเตะมาหาพ่อมึงทำไม

กูไม่ใช่พ่อแม่มึง มึงไปเตะใส่พ่อแม่มึงนู้น ผมกล่าวขอโทษอีกครั้ง ครูเค้าก็ด่าอีก มึงไปไกลๆส้นตีนกูเลย ออกสนามไปเลย

ถ้ามึงมาให้กูเห็นหน้ากูจะถีบมึง ผมจึงขอโทษอีกรอบแล้วก็เดินไป ผมอายมากเลยครับ แล้วเพื่อผมก็ขี่รถมาปลอบ 

ใจจริงผมก็อยากถามว่ามันใช่สนามตีแบ็ตไหม้

ที่ผมเล่นคือสนามตะกร้อ พึ่งโดนด่าเย็นนี้เอง

ผมเก็บมาผมเครียดมากๆ

สวัสดีครับ ผมมีเรื่องคาใจที่สุด เคยโดนครูด่าแรงที่สุกก็ตอนนี้และครับ เย็นวันที่9 มิ.ย.57

ตกเย็นมาผมกับเพื่อได้ไปเล่นตะกร้อที่ โรงเรียน(เชียงแสน)

พวกผมก็เล่นอย่างเพลิดเพลินกะทั้งมีครูภาษาไทย และวิทยาศาสตร์ขี่มอเตอร์ไซ มาตีแบ็ตด้วยกัน

พอครูมาถึง พวกผมก็เล่นอยู่ จนกระทั้งผมเสิร์ฟครับ

แล้วมันพลาดเตะตะกร้อไปโดนหัวครูภาษาไทยอ่ะครับ

ผมบอกขอโทษครับครู ครูด่าผม ไอ้เวร ไอ้โง่

มึงเตะใส่หัวครูทำไม หัวครูไม่ใช่หัวพาอแม่มึง

ไปเตะใส่หัวพ่อมึงนู้น ผมขอโทษอีกครั้ง

ครูบอกมึงไปไกลๆตีนกูเลยไอ่สัส ออกสนามไปเล่นไกลๆตีนกูเลย สนามนี้เค้าใช้ตีแบ็ตกัน ผมขอโทษอีกครั้งจึงเดินไป

แล้วเะอผมก็มาปลอบว่าไม่ต้องไปสนใจ ใจจริงผมอยากร้องไห้มาก อายก็อาย คนก็เยอะๆ(ครูที่ด่าผม เป็นครูภาษาไทย)

ตอนนี้ทำให้ผมเครียดไม่อยากเรียน ไม่อยากเล่นกีฬาเลยด้วยซ้ำ นี้คือผมไม่ได้ตั้งใจเตะไปโดนครูเค้าจริงๆน้ะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท