เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2550 มีการประชุมผู้บริหารกรมฯ โดยท่านรองอฺธิบดี ท่านรองไพโรจน์ ลิ้มจำรูญ เป็นประธานการประชุม เก็บประเด็นสำคัญได้ดังนี้คือ
1.โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการพลเรือนสามัญโดยผู้แทนธนาคารออมสิน วัตถุประสงค์ของโครงการนี้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ข้าราชการ โดยการรวมหนี้สินมาที่ธนาคารออมสิน ซึ่งจะมีระยะเวลาผ่อนเงินกู้นาน ดอกเบี้ยผ่อนปรน ต้องมีการรวมกลุ่ม(กลุ่มย่อย 6 คน) กลุ่มใหญ่ มีการออมเงินสัจจะทุกเดือน สมาชิกในกลุ่มย่อยต้องค้ำประกันการกู้ทั้งบุคคลและหลักทรัพย์ และต้องมีการทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ วงเงินกู้ต่อราย 7 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท ผู้แทนธนาคารฯได้เล่าให้ฟังกรณีตัวอย่างของครูว่าชีวิตดีขึ้นมาก ครูผ่อนเงินกู้ได้จากที่เคยยืมเงินแหล่งโน้นแหล่งนี้มาผ่อน โดยธนาคารจะให้เงินร้อยละ 1 สำหรับกลุ่มใหญ่ในการสำรองจ่ายให้สมาชิกก่อนกรณีที่สมาชิกไม่มีจ่าย บริหารจัดการเช่นกู้ฉุกเฉิน และการพัฒนาอาชีพของกลุ่มเป็นต้น
2.การปรับโครงสร้างกรมฯ ได้แจ้งไปยังกอง/ สำนักให้ข้อเสนอแนะแล้วกพร.จะได้รวบรวมนำเสนอกรมฯ ส่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป
3.ให้มีการพัฒนาผู้นำทุกระดับโดยเฉพาะผู้นำภายใต้สภาวะจำกัดและให้มีกรอบแนวคิดมองโลกในอนาคต มีการคิดนอกกรอบ
ท่านรองไพโรจน์ให้ความเห็นว่า ขณะนี้เรามีปัญหายังเข้าไม่ถึงองค์ความรู้ในวิชาชีพ เขตจะต้องแสดงบทบาทผู้แทนกรมฯสร้างความเข้าใจ มีการบูรณาการและประสานงานเพื่อเข้าถึงองค์ความรู้ ต้องมีการพัฒนาผู้นำทุกระดับ เทคนิคการบริหารงานให้ประสบความสำเร็จโดยการสร้างจิตสำนึกให้ผู้นำและทำงานอย่างมีความสุข ประมาณเดือน สิงหาคมจะมีการอบรมเกษตรจังหวัด เขต ผู้อำนวยการกอง/สำนักเพื่อให้เปลี่ยนกระบวนทัศน์การทำงานโดยเฉพาะการทำงานที่ไม่ใช่แบบข้าราชการ
4.ทำอย่างไรให้บุคคลากรทั้งประเทศของกรมฯมีการสื่อสารภาษาเดียวกันภายในเวลาจำกัด
ท่านรองไพโรจน์ให้แนวคิดว่าควรใช้วิธี learn how to learn ให้คนได้เรียนรู้เช่นสอนวิธีเลี้ยงปลา ทำปลาเป็นอาหาร ช่วยเหลือตนเองได้ต้องใช้วิธีการสร้าง วิทยากรจากเขต เขตละ 3 คน จังหวัด ๆละ 2คน เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านบริหาร วิชาการ ระเบียบและกฎหมายต่าง ๆ ขณะนี้อายุเฉลี่ยของบุคคลากรในกรมฯคือ 49 ปี ดังนั้นต้องสร้างเลือดใหม่มาทดแทนเลือดเก่า
5.การสร้างรายได้ของกรมฯ
ให้มีการจัดตั้งคณะทำงานประกอบด้วยผู้อำนวยการศูนย์ให้ข้อมูลจริงได้ โดยเชิญกรมบัญชีกลางมาเข้าร่วมเพื่อให้เกิดข้อยุติว่าควรทำอย่างไร ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อเกษตรกร กรมฯและประเทศต่อไป
6.การเพิ่มผลผลิตอ้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่กว่า 8 พันไร่ มีวิธีการดังนี้
7.การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้คือ
ขณะนี้มีปัญหาเรื่อง comtract farming ในการผลิตเอทธานอล
8.ที่ประชุมให้กอง/สำนัก/เขต ให้ความเห็นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้สำรวจว่างานควรทำแต่ยังไม่ได้ทำและงานที่ทำแล้วแต่ไม่จำเป็นต้องทำ ซึ่งแต่ละกองนำเสนอต่อที่ประชุม
ท่านรองไพโรจน์เพิ่มเติมว่าควรมีการกำหนดเป้าหมายการผลิตและการตลาดร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงพาณิชย์ สศก ฯลฯ
ดิฉันเห็นว่าหลายสิ่งเป็นเรื่องดีควรมีช่องทางให้บุคคลกรในกรมฯมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นในการพัฒนากรมฯต่อไป
ธุวนันท์ พานิชโยทัย
29 มิถุนายน 2550
เรียนคุณเขียวมรกต
ขอบคุณเช่นกันคะ ความรู้ถ้าเรายิ่งแบ่งปันก็ยิ่งได้รับกลับมานะคะ
เรียนคุณหนุ่มร้อยเกาะ
ที่คุณถามเรื่อง กษ. ไม่ทราบจริง ๆ คะเห็นเขาพูดกันมากเหมือนกันว่าขัดแย้งกับกฎหมายหรือเปล่า
เรียนท่านรองไพโรจน์ที่เคารพ
ขอบพระคุณท่านมากคะที่กรุณาแก้ไข
เรียนท่านรองไพโรจน์ที่เคารพ
ขอขอบพระคุณท่านที่กรุณาให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์มากคะ