คุณเคยเกิดความสงสัยอย่างนี้บ้างไหมครับ...คือว่า...ขณะนี้มีร้านน้ำชาข้างถนนเยอะมากโดยเฉพาะข้าง ๆ แถวที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่...
ในสมัยก่อนมักมีร้านประจำอยู่เฉพาะที่และผู้คนรู้จักทั้งนั้นเมื่อเอ่ยชื่อร้าน...ความสงสัยของผมมีอยู่ว่า...ทุกวันนี้คนดื่มน้ำชามากขึ้นจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้...แล้วหรือ...
Income หรือรายได้จากธุรกิจนี้น่าสนใจว่าเลี้ยงชีวิตจนเป็นอาชีพหลักได้เลยหรือ..
Age หรือระดับอายุคนที่ไปดื่มเครื่องดื่ทประเภทนี้น่าจะอยู่ประมานเท่าไดกันแน่...
Sex หรือเพศหญิงกับชายใครนิยมไปดื่มมากกว่ากัน...แล้วทำไมต้องเลือกไปดื่มในร้านน้ำชานั้น...
สมัยก่อนการไปดื่มน้ำชาเพื่อแก้ง่วง แต่สมัยนี้ผมยังเข้าใจความหมายเดิมอยู่หรือมันเปลี่ยนไปเป็นอะไรแล้วครับ
มันเป็นเรื่อง Explain vs Understand เสียจริง ๆ นะครับ หรือคุณเห็นเป็นอย่างไร...ฮา ๆ เอิก ๆ.
สวัสดีครับ คุณ
แสดงว่าความหมายเปลี่ยนไปตามยุดสมัยนะครับ
สื่อถึงความเป็นวัฒนธรรมบริโภคนิยมเป็นอย่างดีนะครับ...
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับอาจารย์
ในกรุงเทพฯ หาร้านชาแบบที่อาจารย์ว่าไม่ค่อยเห็นครับ ที่เห็นเยอะมากจะเป็นร้านกาแฟ ตามปั๊มน้ำมัน ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งราคาค่อนข้างสูง ประมาณ 50 - 90 บาท ขึ้นไป กลุ่มเป้าหมายหลักน่าจะเป็น นักศึกษา จนถึงคนทำงาน (20-40 ปี) เรื่องเพศไม่น่าจะมีนัยสำคัญครับ เห็นพอๆ กัน การเลือกร้านกาแฟ คงขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่คน อาจจะมีที่ตั้งใจไปดื่ม บางคนใช้เป็นที่นัดหมาย บางคนก็ไปนั่งฆ่าเวลา รอคนที่นัด
แต่ที่แน่ๆ คือ ไม่ได้ไปเพื่อพบปะพูดคุย สังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับคนที่ไม่รู้จักครับ วัฒนธรรมวิถีชีวิตแบบนี้ หาแทบไม่ได้แล้วในเมืองใหญ่ครับ
ที่มอ.ปัตตานี สมัยผมเรียน มีแหล่งน้ำชาสามที่ครับ คือ วงเวียนหน้ามอ. ,หน้า รร.ท.5 และที่ริ่มแม่น้ำปัตตานี
ผ มชอบสองที่ครับ คือ หน้ามอ. สำหรับเวลาเย็น คุยกันไป ดูรถเข้าออกมหาวิทยาลัย อีกที่หนึ่ง เป็นริ่มแม่น้ำปัตตานี บรรยากาศสมัยก่อนสวยมาก คลายเคลียดได้ดีมาก สมัยเรียนป.โท นั่งเกือบทุกคืน กับเพื่อนสนิท สามสี่คน นั่งกันตั้งแต่สามทุ่มถึงเที่ยงคืน จากนั้นกลับมานั่งทำวิทยานิพนธ์ต่อจนถึงตีสี่ตีห้า แล้วเข้านอน