การปลูกต้นมินต์เพื่อผลิตน้ำมัน
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ดิฉันได้มีโอกาสนำผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทิพย์เคเบิ้ลทีวี ไปทำข่าวที่หมู่ที่ 21 ตำบลปางมะค่า อำเภอขาณุวรลักษบุรี ซึ่งระยะการเดินทางคิดออกจากตัวจังหวัดกำแพงเพชรถึงอำเภอขาณุวรลักษบุรี 80 กิโลเมตร และต้องเดินทางจากอำเภอขาณุวรลักษบุรีไปถึงหมู่ที่ 21 ตำบลปางมะค่าอีก 80 กิโลเมตรถือว่าเป็นการทำข่าวที่เดินทางไกลพอสมควร ในการเดินทางมีคุณสถิตย์ ภูทิพย์ เกษตรอำเภอขาณุวรลักษบุรีเป็นผู้นำทางโดยมีคุณศิริศักดิ์ ชาญเชี่ยว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว ผู้รับผิดชอบตำบลปางมะค่า อยู่ในพื้นที่รอต้อนรับพร้อมกับเจ้าของภูมิปัญญาท้องถิ่นผู้ปลูกต้นมินต์เพื่อผลิตน้ำมันคือคุณลุงสำรวย ทวีทรัพย์ อายุ 83 ปี หลายท่านที่ได้ฟังอายุของคุณลุงแล้วคงคิดว่าน่าจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว แต่ความจริงแล้วคุณลุงสุขภาพยังแข็งแรง พูดและเล่าเรื่องต่างๆถ้าใครได้ฟังแล้วต้องทึ่งกับความคิด ซึ่งคุณลุงเล่าให้ฟังว่าที่ตัวเองรู้เรื่องต่างๆและเข้าใจโลกยุคสมัยปัจจุบันเพราะตนเองมีโอกาสได้เข้ารับการศึกษาตั้งแต่อายุ 5 ขวบและสามารถเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 เมื่อ 70 ปีที่แล้วด้วยอายุเพียง 12 ปี</p> ตอนนี้ขอวกมาเล่าเรื่องการปลูกต้นมินต์เพื่อผลิตน้ำมัน คุณลุงเล่าให้ฟังว่า <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เมื่อปี 2522 ได้นำต้นมินต์มาจากจังหวัดนครสวรรค์ มาปลูกเพราะว่าต้นมินต์มีน้ำมันที่มีสรรพคุณในการแก้หวัด แก้แมลงกัดต่อย แก้เข็ดขัดยอก แก้ปวดเมื่อย ปวดท้อง คนที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต นำน้ำมันมินต์มานวดก็สามารถหายได้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ในปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกต้นมินต์ อยู่ 3 งาน วิธีการปลูกก็แยกไหลจากต้นแม่มาปลูก 2 ไหล ต่อหลุมการดูแลรักษาก็ต้องลดน้ำเช้าเย็นต้นมินต์ต้องการความชุ่มชื้นแต่ต้องไม่มีน้ำท่วมขัง ไม่มีโรคและแมลงรบกวนปุ๋ยที่ใส่ก็จะใช้แต่ปุ๋ยหมักชีวภาพ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"><div style="text-align: center"></div></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"></p>เมื่ออายุได้ 75 วันก็สามารถจะเก็บเกี่ยวได้ หรือให้สังเกตถ้าอายุ 75 วัน ต้นมินต์จะออกดอกประมาณ 60 % ของแปลงปลูกทั้งหมดหลังจากนั้นทำการเก็บเกี่ยวโดยจะทำการเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าและออกดอกเพราะน้ำมันมินต์จะมีกลิ่นแรงกว่าที่เก็บเกี่ยวในช่วงกลางวันหรือเย็น เมื่อเก็บแล้วนำมาตากแดด 3 วันแล้วนำไปใส่หม้อนึ่งความดันเพื่อกลั่นน้ำมันโดยในหม้อนึ่งนั้นจะใส่น้ำไว้ชั้นล่างแล้วมีตะแกรงกั้นแล้วจึงใส่ต้นมินต์ที่ตาก 3 แดดแล้วมาใส่อัดให้แน่นแล้วปิดฝาแล้วก่อไฟ น้ำมันจากต้นมินต์ก็จะระเหยออกมากระทบกับความเย็นก็จะกลายเป็นหยดน้ำผสมกับน้ำมันมินต์แล้วจึงนำมาแยกน้ำและน้ำมันมินต์ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="left">ออกจากกัน <div style="text-align: center"></div></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"> แล้วนำมาบรรจุขวดจำหน่ายขวด 10 ซีซี ขวดละ40 บาท ถ้าจำหน่ายเป็นลิตรๆละ 3,000 บาท ในพื้นที่ 3 งาน ในแต่ละปี จะได้น้ำมันมินต์ 30-35 ลิตรสร้างรายได้ปีละ 9,000 -100,000 บาท</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"><div style="text-align: center"></div></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> และกากของต้นมินต์ที่สกัดน้ำมันแล้วนำมาผลิตปุ๋ยชีวภาพจำหน่าย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"><div style="text-align: center"></div></p> ในตัวคุณลุงสำรวย ทวีทรัพย์ มีภูมิปัญญาอีกมากมายหลายเรื่องเช่นการผลิตส้มโอแบบปลอดสาร การดำรงชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียง ในครั้งต่อไปถ้ามีโอกาสได้เข้าไปคุยกับคุณลุงอีกจะนำมาเล่าให้ฟังใหม่ วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ
>>>สวัสดีครับ..สบายดีเหรอ
>>>ขอบคุณมากที่นำเสนอมาให้อ่านเพิ่งทราบว่ามีการปลูกที่นี่
>>>มีโอกาสไปเอายอดมาขยายพันธุ์ที่เมืองกาญจน์บ้าง
ตอนนี้กำลังทดลองปลูกอยู่
การปลูกก็ไม่ยากมาก
ส่วนมากมิ้นจะไม่ชอบปุ๋ยเคมี
จะชอบปุ๋ยคอกมากกว่า