ขอบคุณอาจารย์
ค่ะ
ไม่ทราบเลยค่ะ ฤดูเฮอริเคนหรือเปล่า เห็น พยาบาลเขาคุยกันเรื่องแคทรินาเข้า ปีก่อนๆ ว่าบ้านเขาไม่มีไฟฟ้าใช้กัน 4 วัน จนถึง 2 อาทิตย์
ขอบคุณ ที่เตือนให้ระวัง ค่ะ เพราะไมอามี่เกิดบ่อย
เรียน อาจารย์
เสาร์ที่ 2 มิย 50
ไป Museum of South Florida อีกครั้ง
หลังจากไปแล้ว ซักถามได้ข้อมูลว่า เขาเปิดให้ชมฟรีวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ วันอื่นๆ จะ 5 $ ( 170 บาท ค่ะ)
เปลี่ยนแผนเลยค่ะ ประหยัดตังค์ไว้กินข้าวได้ อีก 1 มื้อ
นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เจอ
ที่โตรอนโต คานาดา และที่นี่ แนะนำว่าก่อนจะเข้า Museum ควรถามก่อนจ่ายเงินซื้อบัตรเข้านะคะ ว่ามีวันชมฟรีไหม เพราะไม่ค่อยเขียนไว้ด้วย
ที่นี่ มี 2 ชั้น ชั้นล่างจะเปลี่ยนนิทรรศการ ทุก 2 เดือน วันนี้ เรื่องประวัติศาสตร์ เกาะในรัฐอื่นๆ ของอเมริกา คนเข้าไป เยอะ เพราะผู้ชมคงเคยดูข้างบนซึ่งคงเดิมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไปแล้ว
เลยขึ้นไปข้างบนดีกว่า โล่งที่เดียวค่ะ ชั้นบน ดิฉันเดินอยู่คนเดียวในตอน 10 โมง พอใกล้เที่ยงถึงมึคนมากันเพิ่มขึ้น
เหมือนที่เขียนไว้ ที่ข้าง museum ในรูปค่ะ
เริ่มจากสมัยก่อนเชื่อกันว่าคนเดินกันมาจากไซบีเรียมาทางดินแดนที่เอเซียเดิมต่อกับอเมริกา ที่อลาสกา
พอดินแยก ทวีป แยก คนที่อยู่กลุ่มแรก เราก็ เรียกว่าเป็นพวก อินเดียนแดง แต่ต่อมาอินเดียนแดงลดลง เรื่อยๆ เพราะ ป่วย และตายจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่คนมาเยี่ยมเอามาฝากซะเยอะ (อันนี้ มีเขียนไว้จริงๆ ในบันทึกว่า สำรวจ ปี 1900 มีอินเดียนเหลือ เพียง 80 ครอบครัว )
สัญญลักษณ์ ของ อินเดียน เรียก Totem pole และของที่เก็บได้มาจากหมู่บ้านอินเดียน
ขอ อภัย ค่ะ เพิ่งมาพบว่ารูปหัวกลับ แหะๆ
หลังโคลัมบัสพบ อเมริกา ไมอามี่ก็โดนยึดครองจาก นักเดินเรือเสปนเป็นส่วนใหญ่ และมีชาติ อังกฤษ ฝรั่งเศษ และสหรํฐ อเมริกาเข้ามาแจม เขาเรียกว่าเป็น international rivalry ใครๆ ก็อยากได้แหลมฟลอริดา
ตอนนี้เองที่เสปนนำเอาคนผิวดำจาก อัฟริกามาทำงาน เป็นทาส ในไร่อ้อย และยาสูบ จนในที่สุดมี คนผิวสี 7 ล้านคนในปี 1800 เดิมอยู่รวมกันเรียก เมืองที่อยู่ว่า เมือง Colour town ตอนหลังเพี้ยนเป็น Over town
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 คนเพิ่มมาจาก อเมริกาเหนือ คาริบเบียน และลาติน อเมริกา
พอ หลังสงคราม สงบ คนอพยพมาฟลอริดาอีกมาก ทั้งยุโรป คนยิว อเมริกากลางและใต้
ปี 1959 เกิด การปฏิวัติในคิวบา ฟิเดล คาสโตร ยึดอำนาจ มีการอพยพจากคิวบา ครั้งใหญ่มาก คน อพยพมา ทางน้ำ ล่องเรือมา เสียชีวิตเรือล่มก็ เยอะ แต่รอดมาถึงอเมริกา รวม หกแสนกว่าคน เขาเรียกการหนีครั้งนี้ว่า Freedom Flight
(มี อนุสรณ์ เป็น ตึกสีเหลือง (ในรูป) กลางเมือง ไมอามี่ เดิมตึกนี้เป็นที่ทำการหนังสือพิมพ์ ไมอามี่นิวส์ แต่พอมีชาวคิวบาอพยพมา พักในตึกหลังขึ้นจากเรือ และชุมนุมกันจนได้เปลี่ยนสัญชาติก็เลยกลายเป็นเรียก ชื่อตึก ว่า Freedom Tower )
หลังจากนั้นคนอพยพมาจาก ไฮติ นิคารากัว โคลอมเบีย จาไมก้า และอื่นๆ อีกหลายๆ แสน
ปัจจุบันยังมีลักลอบมาอีกเรื่อยๆ
พบคุณป้าที่มาจากนิวยอร์ก แกต่อต้าน ภาษาสแปนิช แกบอกว่าอยู่ไมอามี่นี่นะ บางทีรู้สึกเหมือนอยู่ประเทศโลกที่ 3 เลย มีคนทุกประเภท แถมคนเหล่านี้อยู่อเมริกานะ ยังไม่พูดภาษาเขาอีก พูด สแปนิช พวกนี้เนี่ย แล้วค้อน หนึ่งตลบใหญ่
นี่เอง เวลาเดินไปไหน ดูคนที่เดินไปมา จะเห็น ประชากรเกิน ครึ่งเป็น คนลาติน ส่วนที่เหลือ เป็นคนผิวดำ และส่วนน้อยเป็นฝรั่ง คนเอเซียจะมีน้อยสุด ก็ เลยทำให้คนเอเซียอย่างดิฉัน เป็นจุดสังเกตุ
เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟฟ้าหลายสถานีจะจำดิฉันได้ และชอบทักทายโดนทัก ว่าเป็น ญี่ ปุ่นหรือจีน เรื่อย
เมื่อวานโดนเจ้าหน้าที่ถามว่า Are you China?
อดยิ้มไม่ได้ ตอบไปว่า No,I am from Thailand.
ลุงก็ยิ้มแล้วพูดต่อว่า
Oh you are Thailand
โห เรานี่ ตัวโต ขนาดเท่าประเทศจีน ไม่ก็ไทยเลยรึ
แถมตอนจะกลับ ว่า
เจอกลุ่มเด็กที่ มีคุณแม่ ลาตินอเมริกัน ผิวขาว แต่พาเพื่อนบ้านผิวสี มาเล่นในมุมของพิพิธภัณฑ์ ด้วย สนุกกันใหญ่ใส่ตาเดียว เด็กๆบอกว่า เขาเป็น Pirates of the Caribbean
เด็กๆมาทักทาย มาคุย มาแนะนำตัว และ ทำท่าทางตื่นเต้น
ที่รู้ว่า
น่าสนใจ... ได้ความรู้ ประสบการณ์เพิ่ม
สวัสดีค่ะ
คุณป้าที่มาจากนิวยอร์ก แกต่อต้าน ภาษาสแปนิช แกบอกว่าอยู่ไมอามี่นี่นะ บางทีรู้สึกเหมือนอยู่ประเทศโลกที่ 3 เลย มีคนทุกประเภท แถมคนเหล่านี้อยู่อเมริกานะ ยังไม่พูดภาษาเขาอีก พูด สแปนิช พวกนี้เนี่ย แล้วค้อน หนึ่งตลบใหญ่
พวกคนสูงอายุเป็นอย่างนี้ทุกคนค่ะ
มีความรู้สึกต่อต้านคนต่างชาติผิวสีค่ะ แสดงออกมากๆ
ดิฉันเคยไปอยู่อเมริกา 2 ปี อยู่แบบเสียภาษีให้เขาด้วยนะคะ ไม่ได้อยู่ฟรี ยังรู้สึกเลย
อย่างที่เขียนไว้ที่นี่ค่ะ
http://gotoknow.org/blog/goodliving/99001
เมื่อหลายปีก่อน มีพนักงาน ตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่าย บุคคล มีเรื่องไม่พอใจ กับผู้จัดการฝ่ายผลิต เนื่องจากถูกหาว่า ไปก้าวก่ายงานของฝ่ายผลิต ซึ่งเป็นLine function และขอพบดิฉันเพื่อ ขอลาออก
โดยให้เหตุผลว่า จะไปอยู่กับญาติที่อเมริกา ดิฉันถามว่า จะไปทำอะไร เขาบอกว่า ยังไม่ทราบ แต่จะไปทำงานที่คนอเมริกันเขาไม่ทำกัน คงหางานไม่ยาก
ดิฉันบอกว่า ถ้างั้น ก็ไปเป็น คนล้างชาม เอาไหม และเกลี้ยกล่อมให้ไปคิดดูดีๆใหม่ อย่าเห่อฝรั่งนักเลย ฝรั่งเขาไม่ปลื้มกับเราหรอก มีแต่เขาจะมองเราว่าชอบไปแย่งงานคนของเขาทำ อยู่ประเทศที่เราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ไม่ชอบ อยากไปเป็นพลเมือง ชั้นสอง ชั้น สาม ในที่สุดก็คิดได้ ไม่ลาออกค่ะ
เห็นด้วยจริงๆ อ่านบล็อกนี้ ของอาจารย์ แล้วค่ะ
เป็นแฟนพันธ์แท้อาจารย์
เลย ค่ะ
อ่านทุกบล็อก แสดงความเห็นบางบล็อก ตามเวลา ที่บางทีต้องรีบๆ อะไรก็ไม่รู้
ชื่นชมอาจารย์ มากเลย
ชอบค่ะ หญิงเก่ง
อาจารย์ครับ
ช่วงนี้เป็นฤดูเฮอริเคนหรือเปล่าครับ
เพื่อนผมอยู่แถวๆนั้นบอกว่า เขามีการเตรียมความพร้อมรับมือกัน
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับอ. ที่บอกว่า ฝรั่งเขาไม่ปลื้มกับเราหรอก มีแต่เขาจะมองเราว่าชอบไปแย่งงานคนของเขาทำ อยู่ประเทศที่เราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ไม่ชอบ อยากไปเป็นพลเมือง ชั้นสอง ชั้น สาม
ที่สิงคโปร์ที่คนเขาก็คิดว่า เขาเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของโลกเหมือนกันนะครับ อาจจะดูถูกเราเล็กๆเมื่อทราบว่าเราเป็นต่างด้าว ถึงจะเป็นหมอก็เถอะ
ขอบคุณ อ อุบล
|
ขอบคุณอาจารย์
ค่ะ
ไม่ทราบเลยค่ะ ฤดูเฮอริเคนหรือเปล่า เห็น พยาบาลเขาคุยกันเรื่องแคทรินาเข้า ปีก่อนๆ ว่าบ้านเขาไม่มีไฟฟ้าใช้กัน 4 วัน จนถึง 2 อาทิตย์
ขอบคุณ ที่เตือนให้ระวัง ค่ะ เพราะไมอามี่เกิดบ่อย
เรียน อาจารย์
ขจิต ฝอยทอง |
ติดตามมาอ่านด้วยความชื่นชมครับ
ขอบคุณ อหมอจิ้น และ อ แฮนดี้ค่ะ
หลายชาติ หลายภาษา แต่ภาษาหลักมี 2 เท่านั้น
ทำให้ดำรงชีวิตไม่ลำบากค่ะ มีแต่คนที่พร้อมจะใช้สื่อสารด้วยภาษาใบ้กับเรา ถ้าเราทำท่าไม่รู้เรื่อง
ยิ่งสรรพสินค้า โรงพยาบาล รถเมล์ เจ้าหน้าที่จะพูด สองภาษา
นั่งในรถเมล์ ก็ได้แต่ยิ้ม เพราะพูดกับใครในรถเมล์ คุณปู่ คุณย่า ตายายลุงป้าน้าอา เป็นลาติน จะตอบมาเป็นภาษาเสปน ซะทั้งนั้น
คนผิวสีก็มีนะคะ แต่ ไม่ค่อยกล้าทัก ลึกๆ แล้วกลัวคนอ้วนดำค่ะ กลัวตั้งแต่เป็นเด็กเลย
ถ้าในรถไฟฟ้า จะเป็น คนทำงานออฟฟิส แต่งตัวดี พูด ภาษา อังกฤษ กัน ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ
เรียน อาจารย์ อ้อ
เรียน อาจารย์
อาจารย์ จัดกะเป๋ายังคะ
มาจริงเมื่อไหร่
คิดเหมือนกัน เลย ค่ะอาจารย์ ว่าจะมีเหยียดสีผิวไหม ตอนเห็นคนหลากผิวพรรณ และ หลากเผ่าพันธ์ อยู่ร่วมกัน
แทบไม่มีเลยค่ะ มีแต่เจอคุณป้าอเมริกันผมทองที่มาจากนิวยอร์ก และไม่ชอบคน อพยพ ทั้งหมด บ่นว่าทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ประเทศ โลกที่ 3 ทั้งที่อยู่อเมริกา
นอกนั้น เห็นความช่วยเหลือกัน โดยไม่ได้มีเรื่องสีผิวมาแบ่งแยก
เมื่อกี้ขึ้นรถเมล์ (ชักเก่งแล้ว เมื่อก่อนไม่กล้าขึ้น) พี่เซนิดหน่อย ตอนรถออกเลยเกาะ ไม่กล้าเดิน ก็มีแขนล่ำสันแข็งแรงของหนุ่มลาตินยื่นมาให้จับ และจูงไปนั่ง น่ารักไหม
ป้ายต่อมา มีคุณปู่นิโกร ขึ้นตามมา คนขับผิวขาว ก็ตะโกนว่า พวกคุณต้องลุกให้ ที่นั่งแก่ Senior citizen นะ ก็ มีคนลุก พร้อมกัน 2 คนเลย
โรงพยาบาลที่นี่ ให้การบริการผู้ป่วยที่มาตามนัดดีมาก ของที่ให้ผู้ป่วยใช้ จะอย่างดี ที่นั่งรอ เป็นเหมือนห้องรับแขก มีของเล่นให้เด็กขณะรอ มีหนังสือ แมกกาซีนให้อ่าน
และมีบัตรรถไฟฟ้า และคูปองแมคโดนัล แจกในวันที่ทำกิจกรรม
ชอบเก้าอี้ ในห้องตรวจที่คุณแม่นั่งดูดี บุนวมนั่งสบาย หมอนั่งเก้าอี้สตูลหมุนไปมา ห้องน้ำ เขียนว่าสำหรับผู้ป่วย ไม่มีของหมอ พยาบาลในห้องตรวจ แต่ก็ใช้ด้วยกันกับคนไข้(ต้องกลับไปปรับที่รพเชียงรายค่ะ)
ดูแล้ว หมอพยาบาลให้เกียรติ ผู้ป่วยนัดดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน
และการทักทาย กอดคนไข้กัน เห็นประจำเลยค่ะ จนอยากไปกอดด้วย
ผู้ป่วยทั้งหมด ใช้ระบบประกัน ไม่ต้องจ่ายเงินสักเหรียญ ถ้าเป็นผู้ป่วยอพยพไม่มีทะเบียนเขาเอาเข้ามูลนิธิ โรเจอร์ ทำให้ได้ยาฟรีหมด ทั้งที่ยาต้านไวรัสเหล่านี้ ราคาแพงสุดๆค่ะ
มีแต่เจอคุณป้าอเมริกันผมทองที่มาจากนิวยอร์ก และไม่ชอบคน อพยพ ทั้งหมด บ่นว่าทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ประเทศ โลกที่ 3 ทั้งที่อยู่อเมริกา
ผมกำลังสงสัยว่า ใครกันแน่ที่เป็นต่างด้าว ระหว่างคุณป้าคนนี้ ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของที่นี่ กับคนอื่นๆทั้งละติน นิโกร เอเชี่ยน เรื่องนี้ตลกร้ายครับ
ขอบคุณ อาจารย์
โอ ถ้า อาจารย์ เจอคุณป้าคนนี้ ถ้าจะมันน่าดู
แต่จริงๆ แล้วเธอช่วย พี่เป็นอย่างดี อธิบายทางให้ และบอกให้ลงป้ายนี้ บอกด้วยว่าตอนกลับนะ ให้ไปขึ้นรถสาย C นี้ ที่ ถนนCollins ซึ่งขนานกับถนนนี้(Washinton) ไม่งั้นจะกลับไม่ได้ รถเมล์ วิ่งมาทางกลับอีกทาง
และคุยกัน ยังบอกอีกว่าเช่าบ้านแพงนะ น่าจะสัก 500 ก็ได้แล้ว 950 น่าจะได้เป็น คอนโดทั้งห้องเองไม่ใช่ 1 ห้องในบ้าน น่าคิดนะคะ
เพียงแต่คุณป้าคงรำคาญ ว่า ไปไหนก็ ไม่ค่อยสะดวก พูดภาษาอังกฤษ ก็ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่อง บอกว่าเพราะสำเนียงเธอเป็น คน นิวยอร์ก
แต่คุณป้า ก็ เป็นคนส่วนน้อยของที่นี่จริงๆ บ่นได้ แต่เปลี่ยนอะไร ก็ไม่ได้ค่ะ