มีผู้สอนอีกคนหนึ่งที่ผมยังไม่ได้กล่าวถึง คือ
ศาสตราจารย์ David Currow เป็นศาสตราจารย์ด้าน Palliative Care ที่อายุยังไม่มาก ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการ Cancer Australia ซึ่งถือว่าน่าสนใจมากที่แพทย์ทางด้านนี้ ได้รับการยอมรับให้ดูแลองค์กรที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งทั้งหมดของออสเตรเลีย
ศาสตราจารย์ใช้วิธียกตัวอย่างอาการที่พบบ่อย โดยใช้
กรอบแนวคิด..ทำไม ในการดูแลรักษา คืออาการ
ปวด และ
เหนื่อยหอบ ไม่ได้ไล่สอนทุกอาการไปเรื่อย แล้วที่เหลือจะเป็นชั่วโมงของการถาม-ตอบ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียน ถามคำถามจากประสบการณ์สดๆอย่างเต็มที่ ซึ่งผมชอบชั่วโมงพวกนี้มาก เพราะมันเป็นประเด็นที่แต่ละคนเก็บมาถาม แล้วได้เห็นวิธีการตอบของคนระดับศาสตราจารย์ตอบและสอน
สิ่งที่ผมสังเกตได้คือ
- เป็นการตอบโดยใช้หลัก evidence based คือมีหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างเห็นได้ชัด
- ถ้าประเด็นไหนยังไม่มีหลักฐาน ก็จะบอกว่า เป็นประสบการณ์ส่วนตัว และคะยั้นคะยอให้ช่วยกันรวบรวมข้อมูลเพื่อจะได้มีหลักฐานมากขึ้น
- ให้เกียรติคนตอบมาก พยายามกระตุ้นให้คิดและตอบ คำตอบที่ดูเหมือนว่าไม่ถูกต้อง ก็ยังได้รับการยอมรับ ถามให้คิดต่อจนยอมรับเองว่าผิด ไม่มีคำดูหมิ่นดูแคลนเชือดเฉือนคนตอบให้น้ำตาตกใน
ตัวอย่าง
- อาการทุกอาการมีความหมายต่อตัวคนไข้อย่างไร ถ้าละเลยอาจรักษาไม่ได้ผล
คนไข้อาการปวดเลวลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่สภาพของโรค การดูแลรักษาไม่ต่างไปจากเดิม เมื่อถูกถามถึงความหมาย ก็บรรยายความปวดในแต่ละวันว่าเหมือนกับ ตัวแพคแมนในเกมส์คอมพิวเตอร์กำลังกัดกินกระดูกของตนเอง รู้สึกช่วยเหลือตนเองไม่ได้ กังวลและกลัวตาย เมื่อเรื่องราวเหล่านี้ได้รับการตอบสนองไปด้วย พร้อมกับการดูแลรักษา จึงจะทำให้คนไข้อาการดีขึ้น
- อาการเหล่านี้กระทบต่อ ความสามารถในการดำรงชีวิตหรือ function ของคนไข้มากน้อยเพียงใด
ความสามารถอันหนึ่งที่สำคัญของคนเรา คือ ความสามารถในการนอน ถ้าเราช่วยให้คนไข้สามารถนอนหลับได้ ในการพบหน้าและเริ่มให้การดูแลรักษาในครั้งแรก นับว่าประสบความสำเร็จนี่เป็นเป้าหมายที่ควรคิดถึง และปักธงเอาไว้ทุกครั้ง
- งานวิจัยเกี่ยวกับการดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย
เน้นระดับความน่าเชื่อถือของงานวิจัย จึงเน้นงานวิจัยแบบ randomized control trial ซึ่งหลายคนจะบ่นและท้อว่าทำยากเพราะคนไข้อาการหนัก แต่ถ้างานวิจัยหนึ่งจะช่วยให้วิธีการดูแลรักษาคนไข้ดีขึ้นในภาพรวม ก็ควรจะช่วยๆกันทำ
<< APHN Diploma of Palliative Care ๑๑: จะดูแลรักษาอย่างไร
APHN Diploma of Palliative Care ๑๓: ทักษะการสื่อสาร >>