การดูแลรักษาคนไข้อย่างไร นับเป็นหัวใจของรายวิชานี้เลยทีเดียว และสิ่งที่ผู้สอนพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายวันเลย เรียกว่าเป็น คาถาประจำใจเลยก็ว่าได้ คือ WHY framework หรือ กรอบแนวคิด..ทำไม
ความสำคัญคือ เป็นกรอบแนวคิดที่ทำให้เราใส่ใจในรายละเอียด เพื่อการดูแลรักษาคนไข้ของเรามากขึ้น มากกว่าทำไปตามๆกัน โดยอธิบายไม่ได้ว่า ทำไปทำไม
จุดหลักคือ ต้องถามตัวเอง ถามผู้ร่วมงาน หรือถามอาจารย์ของเราอยู่เสมอว่า
ทำไมถึงทำอย่างนั้น ทำไมอาการนึ้จึงเกิดขึ้น ทำไมให้ยาแล้วได้ผล ทำไม ทำไม แล้วก็ทำไม
คนไข้โรคเดียวกัน อายุเท่ากันที่ถูกนำตัวมาส่งโรงพยาบาลด้วยอาการเดียวกัน เช่น สับสนไม่ได้สติ แต่แนวทางการดูแลรักษาอาจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ ..ทำไม
สิ่งที่ต้องตั้งคำถามเสมอ คือ
- อาการที่ว่านี้มีผลกระทบกับคนไข้หรือไม่ ทำไม
- อาการที่ว่าเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ก่อนหรือไม่ ทำไม
- เราช่วยอะไรคนไข้รายนี้ให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ทำไม
- คนไข้และหรือครอบครัวคาดหวังอย่างไรกับการรักษา อยากให้รักษาหรือไม่ ทำไม
เรียกได้ว่า เครื่องหมายคำถามปลิวว่อนกันไปทั่วเลยครับ แต่มันเป็นแรงกระตุ้นให้เราค้นหาคำตอบ ทั้งจากตัวคนไข้และครอบครัว และจากหลักฐานทางการแพทย์ที่ดีทีสุดในปัจจุบัน เพื่อนำมาใช้ดูแลคนไข้เป็นรายๆไปอย่างเหมาะสมที่สุด
ใช่ครับ ถ้าเรารู้ว่า อาการนี้กระทบกับคนไข้มาก ไม่ใช่สิ่งที่คาดการณ์ไว้ก่อน น่าจะเกิดจากสาเหตุที่แก้ไขได้ และคนไข้หริือครอบครัวต้องการ ก็ควรให้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่า palliative care คือ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น มีแต่คำพูดหรือสัมผัสที่อ่อนโยน อย่างที่หลายคนคิดว่าเป็นเพียงแค่นั้น
งานนี้ทีมวิทยากรช่วยกันรุมตั้งคำถามยิงใส่ผู้เข้าเรียนเป็นชุดราวกับกราดยิงด้วยกระสุน
ทำไม..ทำไม ..ทำไม
คืนนั้นผมนอนแทบไม่หลับเลยครับ คำว่าทำไมมันสะท้อนไปมาในหัว เหมือนกับถูกล้างสมองเลย
ทำไม ถึงนอนไม่หลับ...
ได้คำตอบว่า คิดถึงบ้าน คิดถึงหลายคนที่เมืองไทยครับ
ทำไมถึงคิดถึง
เพราะเห็นข่าวทหารเสียชีวิตอีก ๗ นายที่นราธิวาส
ทำไมบ้านเมืองมันไม่สงบสุขเสียที
.. .. ..
วันนี้เราสูญเสียทหารอีก ๑๒ นาย ทำไม ทำไม ทำไม