การทำ KM ไม่โดดเดี่ยว เมื่อวานนี้ 19 ตุลาคม 2549 นับเป็นโชคและโอกาสที่ดีของผมที่ได้เข้าร่วมประชุมกับภาคีเครือข่าย ของ KM. ณ The Tide Resort บางแสน ชลบุรี ตั้งแต่ 10.00 – 15.00 น. ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 10 เครือข่าย โดย สคส. เป็นหัวขบวน
เรื่องเล่าที่เร้าใจของภาคีเครือข่าย (storytelling) นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสมานั่งฟังการเล่าเรื่องเกี่ยวกับการทำงานของภาคีเครือข่าย ผมและทุกคนได้นั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ ชนิดที่แทบไม่กระพริบตา (deep listening) เลยทีเดียว โดยเริ่มจากอาจารย์ ทรงพล เจตนาวณิชย์ ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับการทำ KM เกี่ยวกับการศึกษาร่วมกับ อบต. ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ
- อาจารย์ ดร. วัลลา ตันตโยทัย ทีเล่าถึงการทำ KM เกี่ยวกับโรคเบาหวานในโรงพยาบาล
- อาจารย์ ดร. ปฐมพงษ์ ศุภเลิศ ที่ทำ KM เกี่ยวกับการจัดการการเรียนการสอนในโรงเรียน
- ผศ. ดร. เลขา ปิยะอัจฉริยะ ที่ทำ KM เกี่ยวกับการจัดการศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศ
- พญ.นันทา อ่วมกุล ซึ่งทำ KM ในกรมอนามัย
- ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร ที่ทำ UKM ในมหาวิทยาลัยนเรศวร
- คุณเดชา ศิริภัทร ที่ทำ KM โรงเรียนชาวนา จังหวัดสุพรรณบุรี คุณสมพร อินทร์แก้ว ที่ทำ KM ในกรมสุขภาพจิต และปิดด้วย
- อาจารย์ พิชิต เรืองแสงวัฒนา ที่ทำเรื่อง UKM จาก มอ.
อีกทั้งเป็นการ Sharing ที่ดีมากซึ่งทำให้ผมหูตาสว่างขึ้นมากเลยทีเดียวเกี่ยวกับการจัดการความรู้ (Knowledge Management) และแถมยังฝัน (dream) กลางวันแสกๆ อีกด้วยครับว่าเมื่อตัวเองสำเร็จการศึกษาออกไป ก็จะได้นำความรู้ และเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ไปใช้ในพื้นที่ที่ตนเองอาศัยพื้นที่เขาอยู่ (อีสานตอนล่างโน้น) ซึ่งค่อนข้างจะขาดการดูแล (อย่างเอาจริงเอาจัง) จากหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่ารัฐ และองค์กรอิสระ เพื่อจะได้ทดแทนบุญคุณของแผ่นดินบ้าง
ความประทับใจที่ลืมไม่ลง (Very Impressive) ทุกเรื่องที่ผมได้นั่งฟังอย่างตั้งใจ (deep listening) ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ดีๆ ทั้งนั้น แต่เรื่องที่ผมประทับใจมากและกินใจที่สุดคือ คำว่า “ชาวนา ทำนาไม่เป็น” ของคุณเดชา ศริภัทร ที่ได้เล่าถึงประสบการณ์ในการพัฒนากลุ่มอาชีพของโรงเรียนชาวนา ที่พัฒนากันมากว่า 30 ปี คุณเดชาเล่าให้ฟังว่าจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ชาวนาทำนาไม่เป็น ทำไมถึงว่าเช่นนั้น ก็เนื่องจากทุกวันนี้ชาวนาจะทำนาก็จะเป็นการจ้างเขาหมด ปัจจัยการผลิตต่างๆ ไม่มีอะไรเป็นของตนเองเลย ปุ๋ยก็ต้องซื้อ สารเคมีในการกำจัด โรคแมลง และวัชพืช รวมทั้งพันธุ์ข้าวไม่มีเป็นของตนเองเลย ทุกอย่างซื้อเขาหมด ด้วยเหตุนี้เองผมจึงเห็นด้วยกับคุณเดชาอย่างมาก เพราะพี่น้องชาวนาส่วนใหญ่ทุกวันนี้ผมมองว่าเป็นการทำนาแบบที่เรียกว่า ผู้จัดการนา
การจัดการความรู้โรงเรียนชาวนาสุพรรณบุรี นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งในการจัดการความรู้ของโรงเรียนชาวนา มูลนิธิข้าวขวัญ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีคุณเดชา ศิริภัทร เป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อน KM เนื่องจากที่นี่พี่น้องเกษตรกรจะมีความรู้ ความสามารถในการทำนา ที่เป็นอาชีพของบรรพบุรุษของเราได้เป็นอย่างดี การผลิตใช้ระบบการผลิตแบบอินทรีย์ทั้งหมด ระบบการจัดการเรื่องปุ๋ยอินทรีย์มีเทคนิคเฉพาะของกลุ่ม โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการเรื่องจุลินทรีย์ที่ไม่เหมือนคนอื่นที่ใครต่อใครก็สนใจอยากเรียนรู้ด้วย และที่สำคัญพี่น้องชาวนาที่นี่ สามารถคัดเลือกพันธุ์ข้าวได้เอง เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่และระบบการผลิต สำหรับชื่อพันธ์นั้น กำลังรอพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเทพฯ อยู่ ซึ่งตอนนี้ได้นำขึ้นทูลถวายเรียบร้อยแล้ว ผมจึงมองว่านี่เป็นอีกความสำเร็จในการทำอาชีพของชาวนา ที่น่านำมาเป็นแบบอย่างในการขยายผลต่อไป
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ขอบคุณครับ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อุทัย อันพิมพ์</p> 20 ตุลาคม 2549
ดีค่ะ เขียนมาเล่าอีกเรื่อย ๆ นะคะ
ขอบคุณมากครับทุกๆ ท่านที่ติดตาม ในส่วนของการทำ KM ในมหาวิทยาลัย ผมขออนุญาตเรียบเรียงก่อนนะครับ แล้วจะนำเสนอเร็วๆนี้ครับ
ขอบคุณมากครับ
อุทัย