กลับมาถึงบ้าน ดูทุกคนคึกคักเพราะสาเหตุอะไรไม่ทราบ อมยิ้มอยู่นั่นแล้ว จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม เอาเถอะไม่ยิ้มก็อมไว้ เพราะอมยิ้มดีกว่าอมโรคแน่นอน ถามมีอะไรที่นอกเหนือไปกว่าการยิ้มไหม วันนี้ผมขอตอบว่ามีแน่นอน เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ผมคิดว่าชาวบล็อก คงไม่มีใครไม่รู้จักอาจารย์ขจิต เทพบุตรแห่งชาวบล็อกของเรา ที่หลายคนทึ่ง/อึ้ง/งึด/งง/..จึงพร้อมใจตั้งฉายาให้ว่ากามมานิตหนุ่ม
ในข้อที่สงสัยกันมากก็คือ ..เคล็ดลับอะไรถึงตอบต้อนรับ เข้าไปทักทาย แนะนำ ให้กำลังใจ ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถ้วน โจทย์ข้อนี้ใครๆสงสัย มีรึที่ผมจะไม่ฉงนเช่นเดียวกับทุกท่าน ผมว่าฉายากามนิตหนุ่มยังช้าไป อ.ขจิตนี่กามนิตต้องเรียกพี่เป็นอย่างน้อย ชาวบูรณาการศาสตร์คุยกันว่า
พอนึกถึงโจโฉ..โจโฉก็มา..เมื่อตะกี้นี่เอง อ.ขจิตโทรศัพท์มาบอกว่านั่งรถโดยสารมาถึงบุรีรัมย์แล้ว จะเดินทางต่อด้วยรถประจำทางเข้าอำเภอสตึก ผมวานให้ อ.อุทัยไปรอรับที่คิวรถในตัวตลาด ช่วงโพล้เพล้รางๆอาจารย์ขจิตก็เปิดประตูเข้ามา
หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ก็รับประทานอาหารเย็น มีต้มยำกุ้ง น้ำพริกปลาทู ผัดผักกาด หมูยอทอด อิ่มหนำแล้วก็นั่งสนทนาประสาบล็อก เรียกว่าคุยกันเพลินระหว่างเรา 3 คน
เสียงมาล่วงหน้าก่อน รอยยิ้มมาแซงทันตอนที่เดินมามาอยู่ตรงหน้า ต่อจากนั้นให้ทาย ท่านรู้ไหมครับว่าบุรุษสายฟ้าท่านนี้ทำอะไร? ใครทายถูกมีรางวัล
· อ.ขจิต มาถึง สิ่งแรกทำ คืออะไร?
มาร่วมทายค่ะ
เดาใจหลานขุนแผนพี่ของกามนิตเป็นเรื่องยากนะคะ...เดาว่า สิ่งแรกที่อาจารย์ขจิตทำหลังจากยกมือไหว้ท่านครูบาแล้วคือ
"ถามหาแกงจืดสะเดา"
เริ่มสนุกแล้วละครับ เกมส์ทายพฤติกรรมของกามนิต
ยังไม่เฉลยครับ..
ทายว่า เข้าครัวไปช่วยทำกับข้าวค่ะ
ขอทายนะคะ
คุณครูขจิต กอดครูบา
ถูกไหมเอ่ย
ถ้าถูก ต้องเอารูปมาให้ดูด้วยนะคะ
ใกล้เคียง ยังไม่ถูก
ขอทายอีกรอบค่ะ
ครูขจิต ยิ้ม แล้ว กราบครูบาฯ
หนิงว่า กราบครูบาค่ะ เพระหนิงฝากพร้อมกำชับด้วยค่ะ ให้เรียนครูบาว่า กราบนี้ของหนิง อิอิ
ถามถึงแกงจืดก็ไม่ถูก กราบก็ไม่ถูก ถอดเป้ก็ไม่ถูก เข้าห้องน้ำก็ไม่ใช่ ช่วยทำอาหารก็ไม่ใช่ เข้ามาgotoknow ก็ไม่แม่น
เป็นถึงหลานขุนแผนและเร็วจนกามนิตเรียกพี่ แต่เคยบอกว่าดวงเป็นอาบัติกับผู้หญิง เป็นคนมีน้ำใจ รักเด็ก ไม่รังเกียจคนรวยไม่ดูถูกคนจน มีสัมมาคารวะ วางตัวเสมอต้นเสมอปลาย..
คนอย่างนี้เขาจะทำอะไรเป็นสิ่งแรกน้อ
ตอบแล้วจะมีรางวัลไหมน้อ
ติ๊ก.. ต่อก ติ๊ก... ต่อก
สงสัยจะหอมแก้มครูบา...หรือเปล่าน้อ
(ขออนุญาตมารำพึงในบันทึกของท่านครูบานะคะ..)
จะเฉลยก็ดูจะเร็วไป เพราะยังมีคนอยากทายใจในเรื่องนี้อีก ที่จะสะท้อนคิดในแบบของชาวบล็อกอย่างกันเอง เข้าทำนอง
"ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง"
ผมขออนุญาตนับเป็นญาติทั้งหมดเลย อ.จันทรรัตน์ยอมไหมครับ
กรณีนี้ได้สร้างความคุ้นเคยระหว่างกันอย่างธรรมชาติ มันเป็นอีกโลกหนึ่งของมิตรภาพที่บริสุทธิ์ผุดพรายให้เห็น แอบชื่นใจมาก ขอบคุณทุกคำทาย
|
เรียนท่านครูบา
ได้มีโอกาส (แอบ)เป็นลูกศิษย์ของท่านครูบา (และท่านอื่นๆ) ก็ว่าสุดยอดแล้ว โห..ท่านครูบากรุณานับญาติด้วย..เป็นความกรุณามากเลยค่ะ..ขอบพระคุณค่ะ
สังคมเครือญาติแบบไทยๆ เป็นวัฒนธรรมที่งดงาม ชนชาติอื่นแอบอิฉจามาก แต่คนไทยมักไม่รู้วซึ้งถึงค่าเหล่านี้ ไปยืมวัฒนธรรมอื่นมาสวม มาใช้
ผมอยากจะมีญาติที่ชื่อจันทรรัตน์ ความเป็นญาติจะทำให้สนิทใจที่จะให้ความเห็น ความรู้ ความรัก ได้อย่างเนียน และเนี๊ยบ ซึ่งน้ำใสใจจริงตรงนี้มีอยู่ในตัวตนของอาจารย์มาก เพียงแต่ยังไม่เส้นเกรงใจขวางอยู่
อยากเห็น อยากได้ ความรู้สึกนึกคิดอิสระที่ไม่มีอะไรมาปนเปื้อน ผมคิดว่าจะได้ความบริสุทธิ์ที่ลึกซึ้งจากอาจารย์ ที่ใสๆกระจ่างอย่างกับดวงแก้วมณีใส จะได้ชี้ให้ลูกศิษย์นักศึกษา ได้เห็นวิธีคบ เลือก ที่สูงกว่าพันธมิตรทางวิชาการ ผมมีกรุญาติที่ยิ่งกว่าญาติ ที่อาวรณ์เป็นห่วงเป็นใย เป็นสายใจที่ทำให้มีพลังยืนหยัดที่จะทำงานเพื่อโลกมนุษย์ อย่างปกติธรรมดาๆ
คิดว่าถ้าอยู่เย็นเป็นสุข จะหาช่วงรวมญาติร่วมแผ่นดินให้คนอิจฉาเล่นสักวัน ..วันนั้นผมจะยืดอวดแนะนำว่า..นี่ไงญาติผม โฮ้โฮ! จะปลื้มสุขนาดไหน