<div align="left" style="text-align: center"></div>
ฟังคำว่าระยะสุดท้ายแล้ว รู้สึกห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก แล้วหลายครอบครัวก็จะเจอกับตัวเอง ผมได้รับหนังสือจากลูกหว้าส่งมาให้อ่าน เรื่องพยาบาลไร้หมวก อ่านแล้ววางไม่ลง คุณพยาบาลถอดใจเขียนได้ดีมาก ผมยกให้เป็นหนังสือยอดเยี่ยมแห่งปีของตนเอง ชวนให้ลูกๆและใครๆได้อ่าน มีความรู้สึกว่าอยากให้ทุกคนได้อ่าน คนแนะนำหนังสือเล่มนี้จึงได้บุญมาก
</span><p align="justify">เพื่อนเราคนหนึ่งเธอชื่อดอกแก้ว ได้เขียนบล็อกหัวข้อ บันทึกสุขภาพไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เนื่องจากเราอยู่จังหวัดใกล้เคียง ผมเคยพาชาวเฮฮาศาสตร์ไปเยี่ยมที่สำนักงานเธอครั้งหนึ่ง แต่เธอกลับมาเฮฮาร่วมกับเพื่อนๆที่มหาชีวาลัยทุกครั้งที่เราจัดชุมนุมกัน ถ้าอ่านในBlogเก่าๆ จะเห็นว่าดอกแก้วจำลองงานวัดฉบับกระเป๋ามาให้เราได้เฮฮากันแบบลืมวัย </p><p align="justify">วันนี้เป็นพิเศษของเธอ ที่เพื่อนๆดอกแก้วจัดงานเปิดตัวหนังสือที่เธอเขียน ผมอยากจะไปร่วมงานเธอ แต่ไม่รู้ล่วงหน้าทำให้จัดตารางไม่ตรงกัน แต่ก็ทราบจากพวกเราที่รักเธอ และตั้งใจไปให้กำลังใจเธอ โดยเฉพาะน้าอึ่งอ๊อบเธอตั้งปณิธานแน่วแน่นะดอกแก้ว ว่าจะไปร่วมให้กำลังใจหญิงไตเหล็กที่น่ารักคนนี้ให้ได้ ผมรู้สึกหวิวๆเหมือนกันที่ไม่ได้ไปงานสำคัญนี้ จึงได้แต่ฝากความระลึกถึงไปกับน้าบุญธรรม แล้วก็รออ่านผลการจัดงานครั้งนี้ ไม่ทราบว่ามีใครเขียนไว้ตรงไหนบ้างยังตามหาไม่เจอ </p><p align="justify">วันนี้เพื่อนชาวเฮฮาศาสตร์ มาช่วยกันต้อนรับชาวUKM.มหาวิทยาลัยมหาสารคามกันหลายคน ครูเสือ เจ๊องุ่น ออต สายลม อาจารย์ศักดิ์พงศ์ เอก อาจารย์ขจิต บังเอิญว่าชาวมมส. มีมือเขียนBlogประเภทกามนิตเรียกเฮียตั้งหลายคน โดยเฉพาะอาจารย์JJ นั่งประชุมแพล๊บเดียวขึ้นBlogพร้อมภาพประกอบเพียบ และพวกเราก็ช่วยกันรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมวันนี้ จึงไม่ขอฉายซ้ำกันอีก </p><p align="justify">แต่อยากจะเล่าบรรยากาศของพวกเรา ไม่ว่าจะพบกันที่ใดก็ดูมีความสุข เจ๊องุ่นวางแผนให้เราประหลาดใจอยู่เรื่อยๆ รายการอาหารมื้อเย็นมีหมั่นโถกับขาหมู ยำมะเขือยาว และกุ้งเผา แม่ครัวใหญ่บอกว่า อ่านในBlogตอนที่พ่อไปเยี่ยมหมู่บ้านสิชลที่ปาย เห็นเขาเลี้ยงหมั่นโถขาหมูน้ำแดง วันนี้เลยก็ลองทำให้ชาวมหาสารคามชิมเสียเลย </p><p align="justify">แต่เรื่องที่อึ้งกิมกี่กว่านั้นก็คือสายลมเป็นคนทำหมั่นโถ เราก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าหนุ่มอารมณ์หวานผู้นี้จะมีฝีมือทำอาหารพิเศษได้ ช่วงตอนหัวค่ำหลังจากเขียนรายงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแล้ว เขาไปจับกลุ่มกันร้องเพลง สายลมเอากีต้าร์มาด้วย ชวนกันร้องเพลงเป็นปี่เป็นขลุ่ยใต้เงาจันทร์หรุบหรู่ จนกระทั้งเที่ยงคืนเศษ บทจะสลายวงก็ง่ายๆ พากันจัดการปูสื่อปูที่นอน ตอนนี้แผ่สองสลึงคร๊อกฟี่กันทั้งทีมไปแล้ว </p><p align="justify">เหลือผมอยู่คนเดียว จึงรีบเขียนบทความนี้ แล้วจะตามไปเฝ้าพระอินทร์เช่นกัน ก่อนจะไปนอนก็ยังมาค้างคาใจกับคำว่าระยะสุดท้าย แหม..ทำไมมีความโง่ระยะสุดท้ายบ้างก็ไม่รู้เน๊อะ อิอิ </p>
สวัสดีครับท่านพ่อครูบาฯ
ขอบคุณครับ
...ราตรีนี้ยังอีกยาวนัก
ยังมีผมเป็นเพื่อน(blogger) อีกคนครับพ่อ
ขอบคุณน้าสมนึก ครูอ้อย น้าอึ่งอ๊อบ
ที่ช่วยกันคนละไม้คนมือ
ไปกอดหน่อยแทนพวกเรา
อยากอ่านหนังสือนี้มากๆเลย
ดีจังที่มีหนุ่มเก่ง มาร่วมวง
สวัสดีค่ะครูบาฯ....
ขอบคุณค่ะ..ความสำเร็จของเพื่อนพ้องพี่น้อง GotoKnow
สวัสดีคะ พ่อครูบา
จะไปตามหาหนังสือทั้งสองเล่มมาอ่านคะ
แอบเห็นหมั่นโถวกับขาหมูแล้ว...น้ำลายหก...
สงสัยมื้อเย็นนี้คงต้องตามหาหมั่นโถวมาจัดการซะแล้วคะ
---^.^---