การนอนกรนเกิดจากหลายสาเหตุ ผลเสียของการนอนกรนมีทั้งต่อตัวเองและต่อคนข้างกาย หากมีโอกาสควรหาทางแก้ไข
ก่อนอื่นต้องขอบคุณอาจารย์ Beeman ที่รับปากว่าจะ (ทน) ติดตามอ่านบันทึกของผมจนครับ 19 บันทึก
นี่เพิ่งได้ 2 บันทึก คือ กระเพาะเป็นแผล กับปวดท้อง (ลำไส้) จากอาหารเป็นพิษ หากจะเขียนให้ครบ 19 บันทึก คงต้องเขียนถึงอวัยวะเกือบทั้งหมดในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต เซี่ยงจี๊ ปอด..........และ “หัวใจ”
นั่นคือความกังวลเล็กๆ ที่เกิดขึ้นว่าจะหาเรื่องมาเขียนให้ครบได้อย่างไร
อีกอย่างคือ..หากเขียนครบเมื่อไหร่...ทุกท่านคงจะมองเห็นผมทะลุปรุโปร่ง เป็นแน่แท้...
บันทึกนี้เป็นเรื่องของ สมอง คือ การนอน
ใครๆ ก็นอน.. บางคนนอนดึก (หรือไม่ค่อยนอน) เช่น นายบอน และ อ. ขจิต สี่ ห้าทุ่ม ก็ยังเขียนบันทึก
บางคนตื่นเช้ามาก เช่น Ka-Poom และ คุณกฤษณา ตื่นได้ไงก่อนตีห้า
ผมเป็นคนหลับยาก ตื่นง่าย แค่ลมพัดนอกบ้านก็ตื่นแล้ว (เว่อไป..??)
(ไม่เว่อ หรอกครับ ฮวงจุ้ยบ้านผมไม่ค่อยดี ประตูบานเลื่อนห้องนอนจะรับลมโดยตรง เวลามีลมแรงๆ จึงรู้สึกได้)
การตื่นง่ายทำให้เมื่อก่อนนี้ผมได้ยินเสียงกรนของคนข้างๆ (ที่ว่าเมื่อก่อนนี้เพราะปัจจุบันรักษาหายแล้ว)
มีหลายวิธีที่จะลดเสียงกรน เช่น ให้จับนอนตะแคง หรือให้เอาลูกเทนนิสผูกด้านหลังเสื้อนอน หรือซื้อท่อพลาสติกเล็กๆ ใส่ให้จมูกโล่ง
ผมเคยเล่าให้เขาฟังหลายครั้งก็ทำท่าไม่ยอมเชื่อ ไม่ยอมรับเพราะไม่มีหลักฐานทำให้ผมนึกถึงวิธีการหาหลักฐานการกรนขึ้นมาได้ ..
เมื่อหลายปีมาแล้วมีพี่ๆ หลายคน นอนกรน เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน จะนอนรวมกันหลายๆ คน เสียงกรนก็จะสนั่น หวั่นไหว (แยกห้องชายหญิง)
มาวันหนึ่งมีคนทนไม่ได้ ก็เลยหาหลักฐานโดยการอัดเทปไว้
รุ่งเช้าก็ให้ทายกัน ว่าเสียงนี้เป็นของใคร
จึงเป็นที่เรื่องที่สนุกสนาน ด้วยหลักฐานมัดตัวที่ไพเราะ ทำให้ต้องยอมจำนน
ปล. ผมสงสัยว่า อ. Beeman ได้ตัวเลข 19 มาอย่างไร เพราะสำหรับผม ตัวเลขประจำตัวคือ100 จนได้รับฉายาเจ้าพ่อ 100 ครั้ง