278 เจ้าหญิงจากแดนไกล


ขอให้เจ้าหญิงจงเจริญ จากอีคำ

เจ้าหญิงจากแดนไกล

 

วันนี้ หมู่บ้านนำพาเกของฉันคึกคักเป็นพิเศษ ทวดบอกว่าจะมีเจ้าหญิงเสด็จมาหมู่บ้านของเรา เป็นเจ้าหญิงจากแดนไกลที่เราไม่เคยเห็น แต่เป็นญาติพี่น้องกับกับเรา

ฉันอีคำ อายุเพิ่งจะ 12 ขวบเมื่อสิงหาคมปีที่แล้วนี่เอง แม่บอกให้ฉันแต่งตัวให้สวยที่สุดในชีวิต แม่นำผ้าถุงใหม่เอี่ยมและเสื้อที่ทอเองกะมือมาให้ฉันใส่ เป็นผ้าที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน สวยอย่าบอกใครเชียวละ  แม่บอกว่าแม่เก็บเอาไว้เฉพาะในโอกาสพิเศษ และโอกาสพิเศษก็คือในวันนี้

ฉันกับแม่ช่วยกันทำข้าวหลาม ข้าวตอกและข้าวนึ่งเตรียมต้อนรับผู้มาเยือนตั้งแต่เช้าตรู่ วันนี้ต้องทำให้อร่อยที่สุดเชียวนะแม่บอก พวกป้าๆ เองก็ดูตื่นเต้นไม่น้อย ต่างคนต่างเตรียมใส่เสื้อผ้าที่ฉันเห็นแล้วต้องอุทานว่า โฮ สวยจริงๆ ผ้าที่แต่ละคนทอกันเอง ลวดลายสวยงามตามฉบับไทพาเกโดยใช้เวลาทอที่ยาวนานและคงเก็บรักษาไว้อย่างดีเพราะฉันเห็นผ้าเรียบมาก

บ้านของฉันอยู่ห่างจากวัดพุทธไทนำพาเกไม่กี่ร้อยเมตร ทุกวันอาทิตย์ฉันจะไปขลุกอยู่ที่วัด  ทวดซึ่งปีนี้มีอายุครบ 104 ปี บอกว่าให้ไปเรียนภาษาไท เพราะมิฉะนั้นเราจะลืมภาษาไทกันหมด เหมือนกลุ่มไทบางกลุ่มที่พอถึงรุ่นเด็กก็ลืมไปแล้ว เขียนก็ไม่ได้ พูดก็ไม่ได้ทั้งที่ยังมีอักษรภาษาไทอยู่ ฉันเองก็อยากเรียนภาษาเลยไปที่วัดบ่อยๆ ไม่ใช่เฉพาะวันอาทิตย์แต่ไปเมื่อมีเวลาว่างเพราะที่วัดกว้างใหญ่ดี ร่มเย็น มีอาหารอรอ่ยๆ ให้ทานและมีหนังสือให้อ่านเยอะด้วย

ภันเตหลวงพ่อที่วัดซึ่งมีอยู่องค์เดียวเคยบอกฉันว่าฉันฉลาดและหัวไว ถ้าเรียนหนังสือเก่งๆ จะสืบต่อภาษาไทให้หมู่บ้านได้ ฉันละปลื้มจนนอนไม่หลับไปทั้งคืน

เช้าวันนี้ หมู่บ้านฉันเหมือนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็เห็นคนที่หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสดตระเตรียมทำความสะอาดสถานที่กันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าอยากให้เจ้าหญิงจากแดนไกลได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดของหมู่บ้านไทพาเกของเราและที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกก็คือ

หัวหน้าหมู่บ้านมาบอกแม่ในตอนค่ำวานนี้เองว่าให้เตรียมบ้านเรือนให้สะอาดด้วยนะ เพราะเจ้าหญิงจากแดนไกลจะเสด็จมาแวะที่บ้านเรา โอ นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า ฉันจะได้มีโอกาสเห็นและต้อนรับเจ้าหญิงถึงที่บ้านจริงๆ หรือนี่

 

พวกเราไปรวมตัวกันที่สนามกว้างหน้าโรงเรียนไทพาเก แม่บอกว่าเป็นสถานที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของเจ้าหญิงจะร่อนลง ฉันเองตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยได้เห็นเฮลิคอปเตอร์เลย ที่บ้านเราเรียกว่าเหล็กบิน เจ้าเหล็กบินนี้หน้าตามันไม่เห็นจะเหมือนนกเลยและไม่น่าบินได้เลยฉันคิดในใจ วันนั้นมีคนไปยืนเรียงรายอยู่รอบสนามนับพันคนมั้งเพราะดูลานตาไปหมด นัยว่าทุกคนอยากดูเจ้าหญิงและเจ้าเหล็กบินนี้มาก ฉันไปยืนจองที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งนั่งรอยืนรอด้วยความตื่นเต้น เมื่อไหร่ท่านจะบินมาหนอ

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ แต่ว่าฉันได้ยินเสียงดังแว่วมาแต่ไกลแล้ว นั่นไงเหล็กบินมาแล้ว เสียงชายคนหนึ่งตระโกนบอก ทุกคนหันไปมองท้องฟ้าในทิศที่ชายคนนั้นชี้ ก็เห็นเหล็กบินรูปร่างเหมือนปลามากกว่านก ค่อยๆ ลอยเข้ามาผ่านยอดต้นไม้ โอ เกิดลมแรงจัด ราวกับพายุ ทำให้ต้นไม้ไหวเอนไปมาราวกับพายุฝนที่ฉันเคยเห็นในคืนหนึ่ง

 

เหล็กบินค่อยๆ วนไปสุดสนามแล้วก็วกมาตรงกลางที่มีเส้นวงกลมขาวๆ ค่อยๆ จอดลงตรงขอบเส้นพอดี พวกเราที่อยู่รอบๆ ของสนามต้องเอามือปิดหน้าปิดตาเพราะลมแรงที่เกิดจากเจ้าเหล็กบินนั้นแรงมาก ฝุ่นฟุ้งตลบไปหมดแต่ก็น่าแปลกที่ไม่มีใครขยับกายหนีเลย ต่างยืนปักหลักมือปิดหน้าแต่ตาก็แอบดูอย่างตื่นเต้น

เหล็กบินจอดสนิท ลมพายุหายไปแล้วเสียงใบพัดเหล็กค่อยๆ หมุนช้าๆ จนเห็นใบ เสียงเครื่องยนต์ที่ดังค่อยๆ ลดเสียงลงพร้อมกับเสียงพรึมพรัมของคนหลายร้อยหลายพันคนดังขึ้นมา รอบสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว พร้อมกับเสียงฆ้องและกลองและฉาบที่ดังขึ้นเป็นจังหวะตุม ตุม ตุม โม้งโม้งโม้ง โฮ  ความตื่นเต้นของฉันพุ่งขึ้นสุดขีด ในอีกไม่ที่วินาทีฉันก็จะได้เห็นเจ้าหญิงแล้วนะ ฉันหันไปมองอีตาเพื่อนรุ่นเดียวกับฉันที่มาร่วมเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตยืนเกาะแขนฉันเสียแน่นเชียว อีตาก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน

ประตูเหล็กบินเปิดออก บันไดพาดลงมา ร่างหนึ่งก้าวลงมา เสียงคนปรบมือกันกราวด้วยความดีใจ

สวัสดีเจ้าหญิง ๆๆๆๆ  เจ้าหญิงจากแดนไกล    

เสียงดังประสานกัน โบกไม้โบกมือโบกผ้ากันใหญ่

ฉันเองก็ปรบมือและโบกมือกับเขาด้วย เสียงผู้คนที่เปล่งออกมาแสดงถึงความยินดีดังไปทั่วสนามหมู่บ้านไทพาเก ฉันอดไม่ได้ที่จะตระโกนว่า เจ้าหญิงๆๆ รักเจ้าหญิงจากแดนไกล  ด้วยความปลาบปลื้ม น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

เจ้าหญิงท่านช่างงดงามมาก ใบหน้าและรอยยิ้มที่ดูบริสุทธิ์ จริงใจและช่างมีเมตตาเหลือเกิน ฉันดูแล้วรู้สึกรักเจ้าหญิงขึ้นมาทันที ท่านยิ้มแย้มโบกมือตอบพวกเราด้วย มือข้างหนึ่งท่านถือสมุดพกส่วนไหล่ก็สะพายย่ามดูเป็นกันเองเหลือเกิน เสียงโอ่ร้องของผู้คนดังลั่นเมื่อท่านหันมามองจุดใดก็เฮกันลั่น

ชาวไทนำพาเกรักเจ้าหญิงจากประเทศไทย

เสียงผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนที่ยืนรับอยู่ตรงหัวถนนดังมาให้ฉันได้ยินเป็นระยะๆ

เจ้าหญิงเดินอย่างฉับไวและน่าดูเข้ามายังถนนที่นำไปยังวัดพุทธไทพาเก ขบวนฟ้อนรำฆ้องก็เริ่มขยับและเสียงดนตรีที่ฉันคุ้นเคยมาตลอด 12 ฤดูหนาวก็ดังไปทั่งหมู่บ้านนำพาเก ฝูงชนต่างเบียดเสียดและขยับเดินตามหลังเข้ามาเป็นขบวนเช่นกัน เป็นการชุมนุมคนในหมู่บ้านที่มากที่สุดที่ฉันเคยเห็น

 

เจ้าหญิงเสด็จผ่านหน้าฉันไปห่างเพียงนิดเดียว ผู้คนที่ยืนเรียงรายต่างยิ้มแย้มแจ่มใสแต่ก็ตื่นเต้นกันมาก สาวฟ้อนรำโปรยดอกไม้ตามทางที่เจ้าหญิงจะเหยียบย่าง ผู้เฒ่าผู้แก่และหนุ่มสาวต่างยกมือไหว้เมื่อเจ้าหญิงเดินผ่านไป ฉันเองวิ่งมาแทรกในแถวโผล่หน้าไปก็แทบจะทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจ้าหญิงมองมายังฉันแล้วยิ้มให้ด้วย ความรู้สึกของฉันเหมือนกับจะตัวหายไปอยู่ในโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นโลกแห่งความฝัน เป็นสวนสวรค์ ที่มีนางฟ้าเดินผ่านไปโดยฉันยืนอยู่ในสวนนั้นด้วย

อีตาคงจะอยู่คนละโลกกับฉันจึงสะกิดและดันให้ฉันรีบเดินตามขบวนไปอีก

ฉันวิ่งตามมาถึงวัดทุกคนก็เข้าไปนั่งแออัดกันในวัดแล้ว ทุกคนชะเง้อมองไปยังที่นั่งด้านใต้ของโบลถ์ซี่งจัดให้เจ้าหญิงนั่ง ฉันพยายามแทรกตัวเล็กๆของฉันจนมานั่งอยู่ไม่ไกลจากเจ้าหญิง หลังจากกล่าวต้อนรับกันก็มีการเชิญให้เจ้าหญิงพูด เสียงของเจ้าหญิงนุ่มนวลและอ่อนโยนมาก จนทำให้ฉันซาบซึ้งใจยิ่งนัก ส่วนอีตานั้นนั่งฟังอ้าปากค้างน้ำลายยืดเชียวจนฉันต้องหยิกมัน จากนั้นฉันเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้านทำพิธีผูกข้อมือบายสีแก่เจ้าหญิง ฉันคิดว่ากว่าจะมีสิทธิ์ผู้ข้อมือคนอื่นได้คงต้องรออีกครึ่งร้อยปีมั้ง จึงได้แต่ดูงานไปพลางๆ ก่อน

สิ่งที่ฉันชอบใจเจ้าหญิงอีกประการหนึ่งคือท่านใจบุญสุนทานได้บริจาคเงินให้ภันเตหลวงพ่อด้วย ฉันแอบเห็นหลวงพ่อยิ้มฉันก็พลอยยิ้มไปด้วย วัดเราอาจจะได้มีหนังสือดีๆ อ่านมากขึ้นก็เป็นได้ แต่ที่เยี่ยมที่สุดก็คือช่วงการแสดงฟ้อนรำ ในศาลา อาหารที่ฉันและแม่ทำเตียมเอาไว้แต่เช้าตรู่ได้มีโอกาสออกแขกและอวดแขกซะที ฉันงี้ภูมิใจมาก ฉันเห็นเจ้าหญิงทานขนมที่แม่และฉันทำแล้วก็แอบยิ้มอย่างปลื้มใจจริงๆ ใครจะโชคดีอย่างฉันในหมู่บ้านนี้ไม่มีอีกแล้ว

คราวนี้พอเสร็จการแสดงก็มาถึงการเดินไปดูบ้านเรือนซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีบ้านของทวดและแม่ฉันด้วย ฉันรีบวิ่งจู๊ดกลับไปขึ้นเรื่อนก่อนคณะที่จะเดินมาถึง ด้วยความที่ฉันตัวเล็กและวิ่งเร็วนี่เอง แต่เจ้าหญิงจากแดนไกลก็เดินเร็วมาก ฉันไปนั่งหมอบตัวลีบอยู่ในห้องรับแขกทำด้วยไม้ไผ่ที่แม่แสนจะภูมิใจ ถึงแม้จะไม่ได้ดีกว่าบ้านของพวกแขกที่เป็นอิฐแต่บ้านไม้ไผ่ของเราก็แข็งแรง สะอาดและอบอุ่น แค่นี้ฉันก็คิดว่ามีความสุขแล้ว

เจ้าหญิงจากแดนไกลช่างเป็นเหมือนนักข่าวเพราะฉันเห็นท่านซักถามและจดบันทึกในสมุดเล่มเล็กตลอดเวลา  คงเป็นสมุดที่มีค่ามากนะ นี่ถ้าหายไปคงแย่เลยฉันคิดในใจเพราะฉันเองเคยทำกระดาษหายไปหนึ่งแผ่น ฉันนอนร้องไห้ทั้งคืนเพราะอุตสาห์วาดภาพช้างที่สวยที่สุดบนกระดาษแผ่นนั้น

เจ้าหญิงสนใจดูบ้านเราทุกห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวที่ทวดยังใช้ทำกับข้าวและทำสาโทอยู่ ส่วนแม่ก็ทำปลาแห้ง ปลาหมักและหัวมันเก็บเอาไว้กินนานๆ ฉันต้องยกนิ้วที่แสนจะสั้นๆของฉัน ให้เจ้าหญิง ที่แม้แต่ห้องน้ำท่านก็เข้าไปดู ก่อนจะกลับฉันได้ยินเสียงคนในกลุ่มที่มาเยือนบอกว่าบ้านสะอาดมาก โฮ ฉํนว่าแม่ฉันคืนนี้ไม่ต้องกินและนอนแล้วเพราะคงปลื้มไปอีกหลายวัน

น้ำตาไหล เสียงใครคนหนึ่งบอกตอนที่องค์หญิงจะกลับออกไป ใช่ พวกเราคงจะน้ำตาไหลเป็นแน่ด้วยความเสียดายที่เจ้าหญิงจะจากไป หลายคำที่พูดกันฉันก็เข้าใจหมด ไม่ว่าจะเป็นการนับเลขหนึ่งสองสามหรืออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ภาษาไทพาเกกับภาษาของเจ้าหญิงจากแดนไกลตรงกันอย่างน่าอัศจรรย์ มีเสียแปร่งๆของชายคนหนึ่งจากคณะถามขึ้นว่า เจ้าชื่อกะสังโดยมองมาที่ฉัน  เอ แปลกดีนะที่คนๆ นี้เขาถามเป็นภาษาไทพาเกได้

ฉันรีบตอบว่า ชื่อเจ้า อีคำ ลูกคำแดง ฉันเห็นเขายิ้มใหญ่ คงภูมิใจซิที่พูดภาษาไทพาเกของฉันได้

ก่อนกลับเจ้าหญิงจากแดนไกลยังมีใจบุญให้เงินทวดของฉันด้วย ฉันเห็นทวดปลื้มจนน้ำตาไหลและสวดให้พรแก่ท่านอย่างตั้งใจที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง

ฉันอยากให้เจ้าหญิงอยู่หมู่บ้านเรานานๆ จัง จะได้ดูนางฟ้าที่สวยงามแล้วเก็บไปฝันทั้งคืน ก็ฉันไม่เคยเห็นใครที่งดงามเหมือนเจ้าหญิงจากแดนไกลองค์นี้นี่นะ จะมีก็แต่พระพุทธรูปองค์ใหญ่ในโบสถ์ที่วัดนั่นแหละที่ฉันชอบไปจ้องมองบ่อยๆด้วยความสบายใจ

เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน หลังจากดูคำภีร์เก่าที่วัดเก็บรักษาเอาไว้ ไปแวะดูโรงเรียนที่ฉันเรียน ก็ถึงเวลาที่เจ้าหญิงจากแดนไกลจะต้องเดินทางกลับโดยใช้เจ้าเหล็กบินตัวเดิม ผู้คนยิ่งดูเหมือนจะเยอะขึ้นกว่ามื่อตอนขามาเพราะทุกคนเดินมาส่งเจ้าหญิงกันหมดทั้งหมู่บ้าน ฉันแอบเห็นผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนแอบร้องไห้ด้วย ชายจากคณะคนเดิมพูดขึ้นว่าน้ำตาไหล ฉันก็เลยน้ำตาไหลจริงๆ ฉันไม่อยากให้องค์หญิงจากไปเลย

องค์หญิงนางฟ้าของฉันเดินไปขึ้นเหล็กบิน หันกลับมาโบกมือกับพวกเราทุกคน เสียงร้องระงมด้วยความเศร้า สายตาของพวกเรามีน้ำตาคลอกันทุกคน เป็นเวลากี่พันปีแล้วที่เราไม่รู้เลยว่าเรามีญาติอยู่ที่แดนไกล และเป็นเจ้าหญิงด้วย วันนี้ได้เจอญาติ ได้เจอเจ้าหญิง พวกเราจึงตื้นตันใจยิ่งนัก ประตูเหล็กบินปิดแล้ว เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น ใบพัดหมุนเร็วขึ้นๆ เครื่องค่อยๆ ยกตัวขึ้นพ้นพื้นดินอย่างนิ่มนวล ลอยขึ้นไปๆ จนลมพายุแรงพัดมาถูกตัวฉันและทุกคนที่ยืนส่งอยู่ ณ ที่นั้น ฉันไม่ได้ปิดหน้าเหมือน แม้ลมจากใบพัดเหล็กบินจะแรงเพียงใดจนร่างฉันแทบจะลอยขึ้นไปในอากาศ ดูเหมือนว่าไม่มีใครขยับกายเลย เพราะอยากจะมองเก็บภาพที่เห็นเบื้องหน้าไว้ตลอดชีวิต  จะเป็นภาพสุดท้ายที่ไม่ได้เห็นอีกแล้ว  เจ้าหญิงจากแดนไกลของพวกเราชาวไทพาเก

ขอเจ้าหญิงจงมีความสุข จูมใจๆ และลองบ่อยๆ (กลับมาอีก) นะเจ้าหญิง

 

.....................................................................

หมายเลขบันทึก: 243608เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2009 01:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

อ่านแล้วซึ้งใจจริงๆ ครับกับบันทึกของ
"อีคำ" อันแสดงถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อ
"เจ้าหญิงจากแดนไกล"

สงสัยจริงๆ ครับท่านทูตว่าได้บันทึกมาได้อย่างไร 

ลีลาการเขียนไม่ธรรมดาเลยครับ

เห็นทีท่านต้องชวนมาเป็นสมาชิก G2K แล้วล่ะครับ

คุณ ณภัทร9 ครับ

ขอบคุณครับที่แวะมาอ่านเรื่องของ "อีคำ" :)

ขอบคุณแทนอีคำ

เป็นบันทึกที่เรียกน้ำตาแห่งความปิติ ครับ

ราวกับว่าได้อยู่ในเหตุการณ์ ราวกับว่าเป็นชาวไทพาเก

เข้าใจลึกซึ้งกับคำว่า "ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม"

ผมเห็นท่านฑูตในข่าวตอนเสด็จอินเดียด้วยครับ

คุณ paleeyon ครับ

ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายและร่วมปีติกับชาวไทพาเก

พลังของแผ่นดินมีจริงครับ

ผมเรียนได้ว่า อะไรก็ตามที่เป็นความรู้ เป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ  เจ้าหญิงจากแดนไกลทรงทำด้วยความตั้งพระทัย ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย

ผมสะท้อนความรู้สึกของอีคำ ที่....แม้อยู่ไกลถึงอัสสัม ยังรู้สึกและสำนึก ถึงบุญคุณของแผ่นดิน บุญคุณของฟ้า

เป็นความงดงามที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

ธรรมชาติที่ตามปรกติ มีทั้งความดี ความงาม ความน่ากลัว ความโหดเหี้ยมในทุกที่

แต่ความดีงามในกรณีนี้ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้ในที่นั้นมีแต่ความสุข ความปีติ ความสว่าง......

เจริญสุขครับ

สวัสดีครับ

อ่านแล้วประทับใจเช่นเดียวกันครับ

ชาวไทในถิ่นอื่น เป็นชนกลุ่มน้อยไปเสียหมด เหลือแต่ลาวกับไทยเรา

เคยเห็นการศึกษาในแง่ภาษาวัฒนธรรมของชาวไทบ้าง แต่ก็เล็กน้อยมาก

ไม่ได้สื่อสาร สัมพันธ์กับเจ้าตัวชาวไทนั้นๆ เอง

คนไทยในประเทศไทย จึงดูห่างเหินจากไทอื่นๆ

ทั้งๆ ที่น่าจะผูกพันใกล้ชิด สนิทกันมากกว่านี้

ปัจจุบัน เราไม่ค่อยรู้จักเพื่้อนบ้านและญาติ

แต่เรารู้จักคนต่างถิ่นที่อยู่ไกลๆ

ชอบบันทึกชุดไทพาเกมากครับ ;)

คุณ ธ.วั ช ชั ย ครับ

ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน

ครับ คำว่าห่างเหินคงใช้ได้ ทำให้แม้ไทยเราที่ว่ามั่นคงเองก็ลืมความเป็นไทไปซะหมด

ลืมคุณค่าและความดีงามต่างๆ ที่เคยมี

การไปเยือนชาวไทผาเกรวมทั้งไทอาหมนี้ทำให้สะท้อนความคิดหลายอย่างครับ ซึ่งคนไทยเราเองก็น่าจะไปเยือนกันบ้าง

คืออดีตที่ยังอยู่กันอย่างพอเพียง มีเพื่อนบ้านที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันได้เสมอ

ดูแล้วผมนึกถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเลยครับ นับว่าชาวไทผาเกทันสมัยมากที่ปฏิบัติได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เจริญสุขครับ

 

สวัสดีค่ะท่านมาอ่านเรื่องราวไทพาเกประทับใจมากนะคะ

คุณ จอมใจ ครับ

ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน

สิ่งดีงามที่เกิดขึ้น สามารถเกิดได้ที่ไหนก็ได้ครับ

หวังว่าเรื่องเหล่านี้คงช่วยสะท้อนสิ่งที่เป็นอยู่ในบ้านเรา

ให้สามารถเกิดสิ่งที่ดีงามได้เช่นกัน

เจริญสุขครับ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณอิคำที่สื่อเรื่องราวให้พี่น้องที่ประเทศไทยได้รู้

ความเป็นญาติจะลึกซึ้งเมื่อได้พบเจอกันค่ะ

จำได้ที่ทวดของ อิคำ ถวายพระพรเจ้าหญิงจากแดนไกล

และพระองค์ก็ยกพระหัตถ์ประนม

เหมือนการรับพรจากญาติผู้ใหญ่ของคนไทยทั่วไป

ความทรงจำนี้ นอกจากจะติตรึงอยู่ในใจของอิคำ

และผู้อยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนั้นแล้ว

ยังอยู่ในความทรงจำของโยคีน้อยด้วยค่ะ

คิดถึงญาติทุกคนที่อยู่ต่างแดน

อยากมีโอกาสไปถาม อิคำว่า"เจ้าชื่อกะสัง"และถามใครๆอีกหลายๆคนด้วย

โยคีน้อย ตันติราพันธ์

สาธุจ๊ะ

สิ่งสำคัญที่ได้จากเรื่องนี้คือ คนไทยได้สำนึกถึงสิ่งดีงามที่ประเทศชาติเรามีอยู่หรือไม่

อีคำ เด็กน้อยชาวไทพาเก ไม่ว่าจะมีตัวตนหรือไม่หรือชื่ออะไรไม่สำคัญ

สำคัญอยู่ที่ว่า เจ้าหญิงจากแดนไกลอยู่ในหัวใจของคนที่นั่น

เจ้าหญิงทรงงานโดยไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อนำสิ่งที่ดี เป็นความรู้และเป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก....

สิ่งนี้มีคุณค่ามากที่สุด

และคนไทยควรได้ตระหนักในเรื่องนี้

เจริญสุขจ๊ะ

 

เป็นบันทึกที่มีเรื่องราว...ให้แง่คิดหลากหลาย

ชอบค่ะ

คุณ tuk-a-toon ครับ

ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน

หากมีโอกาส ไปเที่ยวอัสสัม อินเดียนะครับ

 

เป็นเรื่องสั้นที่อ่านแล้วประทับใจมาก ๆ ค่ะ การใช้ถ้อยคำ รูปประโยค ดีมากเลยคะ แตงกวาว่าท่านน่าจะเขียนส่งสำนักพิมพ์เป็นงานอดิเรกนะคะ อิ อิ

แตงกวา

ดีใจที่ประทับใจ

อยากให้คนไทยประทับใจเช่นที่อีคำประทับใจ

Ico24 CMUpal.

ขอบคุณครับหมอ สำหรับดอกไม้กำลังใจครับ

ว่างๆ ไปเยี่ยมหมุ่บ้านไทพาเกนะครับ

Ico24 ขจิต ฝอยทอง

ขอบคุณ อจ.ขจิตครับ

เชิญไปเยี่ยมเด็กๆ ในหมู่บ้านนี้นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท