1.ชื่อสามัญ : Methotrexate
ชื่อการค้า : Methotrexate 2.5 mg
รูปแบบยา : ยาเม็ด
ยานี้ใช้สำหรับ
ยานี้ใช้เพื่อรักษาโรคต่างๆ ดังนี้
โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยใช้ยาอื่น
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis)ที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยใช้ยาอื่น
มะเร็งเต้านม (breast cancer)
มะเร็งศีรษะและคอ (cancers of head and neck)
มะเร็งปอด (lung cancer)
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิด (lymphomas)
มะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemias)
มะเร็งอื่นๆ
ภาวะการอักเสบเรื้อรังของลำไส้ไม่ทราบสาเหตุ (Crohns disease)
วิธีใช้ยา :
ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดใช้สำหรับรับประทาน ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ดื่มน้ำตามมากๆ
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เมื่อรับประทานยานี้
ไม่ควรหยุดยาเอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ :
การแพ้ยาเมทโทเทร็กเสด (methotrexate) ยาเคมีบำบัดใดๆ หรือแพ้ยาอื่นๆ
ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง โดยเฉพาะ แอสไพริน (aspirin) ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยารักษาสิว ยาปฏิชีวนะ ยากันชัก ยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ยาซัลฟา
วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร ที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้
การตั้งครรภ์ การวางแผนในการตั้งครรภ์ ห้ามตั้งครรภ์ขณะใช้ยานี้
การให้นมบุตร
การมีหรือเคยมีโรคหรือภาวะต่าง ๆ ดังนี้
ได้รับการฉายรังสี
การมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การติดเชื้อ (โดยเฉพาะการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคอีสุกอีใส โรคงูสวัด)
การมีโรคแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก การอุดกั้นของกระเพาะอาหารหรือลำไส้ หรือมีโรคแผลเปื่อยจากลำไส้อักเสบ(ulcerative colitis)
การมีน้ำในช่องท้อง
การมีน้ำคั่งในปอดหรือโรคปอดใดๆ
การมีความผิดปกติของเลือด ปัญหาเลือดออกผิดปกติ
การมีความผิดปกติของการทำงานของตับหรือไต
พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ขณะรับประทานยานี้หากมีภาวะที่อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ เช่น เสียเหงื่อปริมาณมาก อาเจียน ท้องเดิน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
หากท่านต้องได้รับการผ่าตัดหรือทันตกรรมขณะใช้ยานี้ ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่
ระหว่างการใช้ยานี้ไม่ควรได้รับวัคซีนใดๆ ดังนั้น ผู้ป่วยควรบอกแพทย์ที่ทำการรักษาทุกท่านว่าท่านใช้ยานี้อยู่
การติดเชื้อ HIV หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS)
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา :
ถ้าลืมรับประทานยาให้แจ้งแพทย์ผู้รักษาทันทีเพื่อพิจารณาการรับประทานยาในรอบนั้น ห้ามเพิ่มขนาดยาด้วยตัวเอง
หากอาเจียนหลังรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา :
1) อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ให้หยุดรับประทานยาและรีบไปพบแพทย์ อาเจียน เจ็บหน้าอก ท้องเสีย ตัวเหลือง ตาเหลือง มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัด ได้แก่ ไข้ ไอ เจ็บคอ ไอแห้ง พูดลำบาก เคลื่อนไหวลำบาก แขนขาอ่อนแรงหรือมีอาการชา มีอาการปวดหรือแดงของขาเพียงข้างเดียว ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะ หรือปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หายใจเร็ว หรือหายใจลำบาก ชัก มีอาการหนาวสั่น แผลเปื่อยในปากหรือลำคอ ตุ่มพองในปาก ผิวหนังมีตุ่มพอง แดง หรือลอก ผื่นคัน หรือผื่นลมพิษ ปัสสาวะลำบาก หรือมีอาการเจ็บเวลาปัสสาวะ หรือปัสสาวะมีเลือดปน อุจจาระสีดำคล้ำหรือมีลักษณะคล้ายยางมะตอย มีเลือดออกหรือมีรอยฟกช้ำผิดปกติ หน้ามืด เป็นลม อ่อนเพลีย หรือ เหนื่อยผิดปกติ สายตาผิดปกติ หรือสายตาพร่า หรือสูญเสียการมองเห็น
2) อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
ผมร่วง ไวต่อแสงหรือแพ้แสง ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด สวมแว่นกันแดด และทาโลชั่นกันแดด ก่อนออกนอกบ้าน เป็นสิว รอบเดือนผิดปกติ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ เวียนศีรษะ
การเก็บรักษายา :
เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยให้อยู่ในอุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ
เก็บยานี้ในภาชนะที่ป้องกันแสงได้ เช่น ขวดหรือซองสีชา
2.ชื่อสามัญ : Leflunomide
ชื่อการค้า : Arava (20 mg)
รูปแบบยา : ยาเม็ด
ยานี้ใช้สำหรับ
ยานี้ใช้เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis)
วิธีใช้ยา :
ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดใช้สำหรับรับประทาน
โดยปกติรับประทานวันละ 1 ครั้ง
ควรรับประทานยาให้สัมพันธ์กับมื้ออาหารและตรงเวลาเดิมทุกวัน
ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ท่านอาจได้รับยาในขนาดสูงใน 3 วันแรกของการเริ่มรับประทานยา
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ :
การแพ้ยาเลฟลูโนไมด์ (leflunomide) หรือแพ้ยาอื่นๆ
การใช้ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง โดยเฉพาะยาลดระดับไขมันในเลือด ยาต้านการอักเสบ ยากดภูมิคุ้มกัน ยาต้านวัณโรค ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ยาต้านเชื้อรา ยากันชัก ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
การใช้วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร ที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้
การตั้งครรภ์ การวางแผนในการตั้งครรภ์ ผู้ที่ได้รับยาเลฟลูโนไมด์ (leflunomide) ห้ามตั้งครรภ์ขณะใช้ยานี้หรือในระยะเวลา 2 ปีหลังจากการใช้ยานี้ครั้งสุดท้าย
การให้นมบุตร
พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
การมีความผิดปกติของการทำงานของตับหรือไต
โรคเกี่ยวกับไขกระดูก
การมีโรคหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ได้รับยาเคมีบำบัด โรคเอดส์ ได้รับยาสเตียรอยด์
การมีโรคติดเชื้อ
ระหว่างการใช้ยานี้ไม่ควรได้รับวัคซีนใดๆ ดังนั้น ผู้ป่วยควรบอกแพทย์ที่ทำการรักษาทุกท่านว่าท่านใช้ยานี้อยู่
หากท่านต้องได้รับการผ่าตัดหรือทำฟันขณะใช้ยานี้ ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าท่านกำลังใช้ยานี้อยู่
การมีความผิดปกติของเลือดหรือมีภาวะซีด
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา :
โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา :
1) อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
ปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาล ท้องเสียรุนแรงหรือเรื้อรัง หายใจลำบากหรือหายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว ผด ผื่น คัน หน้าบวม ไข้ หนาวสั่น ไอ เจ็บคอ มีแผลในปากหรือ มีอาการเจ็บปาก อ่อนแรงหรือเหนื่อยเพลียผิดปกติ มีเลือดออก มีจุดเลือดออก หรือมีรอยฟกช้ำผิดปกติ ตัวเหลือง ตาเหลือง
2) อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
ผมร่วง ปวดศีรษะ มีอาการคันตามผิวหนัง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง น้ำหนักลด
การเก็บรักษายา :
เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยให้อยู่ในที่อุณหภูมิ15 - 30 องศาเซลเซียส และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ
เก็บในภาชนะป้องกันแสงและความชื้น
3.folic acid 5 mg บำรุงเลือด
4.ชื่อสามัญ : Esomeprazole ชื่อสามัญ : Celecoxib
ชื่อการค้า : Celebrex ( 400 mg )
รูปแบบยา : แคปซูล
ยานี้ใช้สำหรับ
ยานี้ใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด บวมจากภาวะอักเสบของข้อ เช่น ไขข้อกระดูกอักเสบ (osteoarthritis) ไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) และ ไขข้อกระดูกสันหลังอักเสบ (ankylosing spondylitis)
ยานี้ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน
ยานี้อาจใช้ร่วมกับการผ่าตัดหรือวิธีรักษาอื่น เพื่อลดการเกิดก้อนเนื้อที่เจริญผิดปกติในลำไส้ใหญ่ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่
ยานี้อาจใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดจากสาเหตุอื่น
วิธีใช้ยา :
ยานี้อยู่ในรูปแบบยาแคปซูล ใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปรับประทานวันละ 1 ถึง 2 ครั้ง หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
รับประทานยาพร้อมดื่มน้ำตามหนึ่งแก้ว ควรรับประทานยาหลังอาหารทันที เพื่อลดอาการไม่สบายท้องที่อาจเกิดจากยา และควรรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกครั้ง
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ :
การแพ้ยา เซเลคอกซิบ (celecoxib) แอสไพริน (aspirin) ยากลุ่มซัลฟา (sulfa) กลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) หรือแพ้ยาอื่นๆ
ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร ที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้
ตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
สูบบุหรี่
ภาวะที่เลือดไหลง่ายกว่าปกติ หรือใช้สารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulants)
มีความผิดปกติของการทำงานของตับหรือไต
โรคหัวใจ หรือภาวะที่ระบบไหลเวียนโลหิตมีความผิดปกติ
ภาวะหอบหืด โดยเฉพาะหอบหืดที่เกิดจากยาแอสไพริน (aspirin)
ภาวะเลือดจาง
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 3 แก้วต่อวัน
ทำศัลยกรรมบายพาสหลอดเลือดหัวใจโคโรนารี (coronary bypass graft surgery) ภายใน 2 อาทิตย์ก่อนใช้ยา
หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำฟัน ต้องแจ้งให้แพทย์ผู้ผ่าตัดหรือทันตแพทย์ทราบก่อนว่าท่านใช้ยาตัวนี้อยู่
เคยมีประวัติการบวมที่มือ แขน น่อง เท้า หรือข้อเท้า
ภาวะที่มีเลือดไหลที่กระเพาะอาหาร หรือภาวะแผลในกระเพาะอาหาร
ภาวะติ่งเนื้อที่โพรงจมูก (nasal polyps)
ความดันโลหิตสูง
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา :
โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา :
1) อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
มีสัญญาณว่ามีเลือดออกที่กระเพาะอาหาร ซึ่งได้แก่ อุจจาระดำ ปัสสาวะมีเลือดปน ไม่มีแรง เหนื่อง่ายกว่าปกติ อาเจียนเป็นเลือดหรือมีสีคล้ายเมล็ดกาแฟบด น้ำหนักขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ หรือมีอาการบวม เลือดออกผิดปกติ หรือมีรอยจ้ำเลือดฟกช้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร ผิว หรือตามีสีเหลือง ผิวซีด อาการคล้ายโรคหวัด มีไข้ แผลพุพอง (blisters) ผื่นลมพิษ ผื่นคัน อาการคัน อาการบวมที่บริเวณหน้า ช่องคอ ลิ้น ริมฝีปาก ตา มือ เท้า ข้อเท้า หรือน่อง กลืนลำบาก หรือหายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ปวดหลัง ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน พูดแล้วเสียงผิดปกติ (hoarseness) พูดไม่ชัด ตาพร่า มองเห็นไม่ชัดเจน ปวดหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการแสบยอดอก (heartburn) หรือปวดช่องคอ มีอาการกดเจ็บบริเวณกระเพาะ ร่างกายด้านใดด้านหนึ่งอ่อนแรง
2) อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
เวียนศีรษะ รู้สึกไม่สบายท้องเล็กน้อย มีลมในท้อง ท้องเสีย ท้องผูก
การเก็บรักษายา :
เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ
5.ชื่อการค้า : Nexium (20 mg)
รูปแบบยา : ยาเม็ด
ยานี้ใช้สำหรับ
รักษาอาการกรดไหลย้อน(Gastroesophageal reflux disease)
รักษาภาวะมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกิน เช่น Zollinger-Ellison syndrome
หรือใช้ร่วมกับยาอื่นเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย H. pylori ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหาร
ป้องกันแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากยา NSAIDs
อาจใช้เพื่อรักษาโรคหรืออาการอื่นๆได้ ดังนั้นหากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
วิธีใช้ยา :
ยานี้ใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปรับประทานวันละ 1 ครั้ง ให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ควรรับประทานยานี้ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
ควรรับประทานยานี้เวลาเดียวกันของทุกวัน
ควรระวังการรับประทานร่วมกับยาลดกรด หากมีการรับประทานควรปรึกษาวิธีการรับประทานจากแพทย์
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ :
ประวัติแพ้ยา อีโซเมปราโซล แลนโซปราโซล โอเมปราโซล แพนโตปราโซล ราบีปราโซล หรือยาอื่น
ใช้หรือกำลังจะใช้ ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง? วิตามิน? ?อาหารเสริม ?และสมุนไพร
ตั้งครรภ์ วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
มีหรือเคยมีโรคตับ
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา :
โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา :
1) อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
ผื่นแดงรุนแรง ผื่นคัน ผื่นลมพิษ บวมบริเวณหน้า ริมผีปาก ลิ้น ปัญหาการหายใจ ผิวซีด หายใจลำบาก เสียงแหบ เจ็บหรือแน่นหน้าอก ปัสสาวะมีสีคล้ำ เหนื่อยง่าย
2) อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
ปวดศีรษะ ท้องเสีย ท้องผูก ปากแห้ง คลื่นไส้ เจ็บท้อง มีแก๊สในกระพาะ
การเก็บรักษายา :
เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ
ยาตัวที่ 1และ2 กัดกระเพาะหรือเปล่าค่ะ
ตอบ ระคายเคืองกระเพาะอาหารคะต้องทานหลังอาหารและทานให้ตรงเวลา
ยาตัวที่ 4 ถ้าไม่ปวดต้องทานไหมค่ะ
ตอบ ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้เพื่อทราบว่าทานเพื่อหวังผลลดปวดอย่างเดียวหรือลดการอักเสบของข้อร่วมด้วย
หมายเหตุ ข้อมูลที่ให้อาจมากเกินไปคุณยุ ต้องรับข้อมูลอย่างมีสติ หากสงสัยข้องใจประการใดโปรดขอรับคำอธิบายเพิ่มเติม หลายครั้งการให้ข้อมูลทางการแพทย์ทำให้ผู้ป่วยเข้าใจคลาดเคลื่อนโดยมิได้เจตนา นำมาซึ่งการตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือสร้างความกังวลให้โดยไม่รู้ตัว