Kick off ขับเคลื่อนขบวนองค์กรชุมชนสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุข


ผมนั่งคิดว่าเอ...ทำไมภาคีสนับสนับสนุนดังกล่าวจึงแท็กทีมกันมาหนุนเสริมจังหวัดนคร จนแบ่งเวลาให้พูดกันให้จบกระแสความไม่ได้ ก็ได้ฟังจากหน่วยงานดังกล่าวเขาเฉลยบนเวทีเองว่า เป็นเพราะอานิสงค์ของ KM นั่นเอง เพราะชุมชนที่นครศรีฯมีการปูฐานกระบวนการเรียนรู้ไว้แล้ว มันง่ายต่อการพัฒนาต่อยอด

วันนี้ได้ไปร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ แนวทางขับเคลื่อนขบวนองค์กรชุมชนสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุข ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ตามคำเชิญของ พมจ. และ พอช.ผู้เข้าร่วมประชุมจากเครือข่ายภาคีพัฒนาภาคประชาชน ท้องถิ่น ราชการ หน่วยงานสนับสนุนส่วนกลางประมาณ 300 คน

ทางผู้จัดตั้งเป้าหมายว่าภาคประชาชนจะเข้าร่วม 55 ตำบล   เอาเข้าจริง 70 ตำบล จำนวน 70 ตำบลนี้คือหัวขบวนที่จะลุกขึ้นมาทำตนเองให้ดีในเรื่องสวัสดิการชุมชนและเรื่องอื่นๆที่จะสามารถบูรณาการเข้ามาเรียนรู้จัดการร่วมกันได้สู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุข จากนั้นจึงจะใช้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตำบลอื่นต่อไป

มีรายละเอียดเยอะมาก คงต้องอ่านเอกสาร และอ่านโน้ตที่จดไว้ก่อน แล้วจึงค่อยๆแกะออกมาเขียนได้ วันนี้กลับถึงบ้านก็อยากจะเขียนความรู้สึกเสียก่อนว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร

รู้สึกว่าภาคีสนับสนุนจากส่วนกลาง (กรุงเทพฯ) มากันเป็นกองทัพเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สกว. สปสช. ศอ.สส. สสส. ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม ธกส.พอช. ที่ปรึกษา รมต.กระทรวง พม.(ดร.อเนก นาคะบุตร) หลังจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวต้อนรับ เล่างานการปูฐานการทำงานแบบ KM และเปิดการประชุมแล้วหน่วยงานต่างๆดังกล่าวก็ขึ้นเวทีอภิปรายสาธยายภารกิจหนุนเสริมงานจังหวัดนคร เรียกว่านาทีต่อนาที ได้ไปคนละเล็กละน้อย รอบเดียวจบ คนละ 5-10 นาที ไม่มีต่อรอบสอง ผมนั่งคิดว่าเอ...ทำไมภาคีสนับสนับสนุนดังกล่าวจึงแท็กทีมกันมาหนุนเสริมจังหวัดนคร จนแบ่งเวลาให้พูดกันให้จบกระแสความไม่ได้ ก็ได้ฟังจากหน่วยงานดังกล่าวเขาเฉลยบนเวทีเองว่า เป็นเพราะอานิสงค์ของ KM นั่นเอง เพราะชุมชนที่นครศรีฯมีการปูฐานกระบวนการเรียนรู้ไว้แล้ว มันง่ายต่อการพัฒนาต่อยอด

ผมรู้สึกว่าการประชุมสัมมนานี้มีสาระมากมายในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะในช่วงของการนำเสนอ การจัดการข้อมูลครัวเรือนเพื่อใช้บริหารจัดการชุมชนท้องถิ่น ตำบลขอนหาด อำเภอชะอวด  ช่วงของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านวิชม ทองสงค์ ได้นำเสนอแบบจำลองการพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช "หยดน้ำเพชรโมเดล"และประสบการณ์จัดการความรู้สู่ชุมชนอินทรีย์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงการนำเสนอกรณีศึกษาการจัดสวัสดิการชุมชนท้องถิ่นบนฐานความรู้ขององค์กรชุมชน 6 กรณีศึกษา ในพื้นที่จังหวัดนครศรีรรมราชล้วนๆซึ่งน่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นกรณีการจัดการวิสาหกิจสู่สวัสดิการชุมชน การพลิกฟื้นนาร้างพรุควนเคร็งสุ่กองทุนสวัสดิการภัยพิบัติ กองทุนที่ดินบ้านสระพัง กองทุนสวัสดิการตำบลจากฐานสัจจะวันละ 1 บาท เครือข่ายสัจจะสะสมทรัพย์ฯวัดป่ายาง และกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับตำบล การนำเสนอนโยบายจัดสวัสดิการชุมชนท้องถิ่นของกระทรวง พ.ม. โดย ดร.อเนก นาคะบุตร ที่ปรึกษา รมต.พม. การแบ่งกลุ่มสัมมนาออกเป็นกลุ่มย่อย 9 กลุ่ม เป็นกลุ่มปฏิบัติการเชิงพื้นที่ 8 กลุ่ม และกลุ่มภาคีสนับสนุนหรือเอื้ออำนวยจากผู้แทนส่วนกลาง จังหวัด อีก 1 กลุ่ม สุดท้าย อ.ภีม ภคเมธาวี จาก มวล. สรุปสังเคราะห์ผลการประชุม

ผมสังเกตบรรยากาศการเรียนรู้แล้ว วันนี้ได้น้ำได้เนื้อจริงๆ จดจ่อกับประเด็นการประชุมมาก ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านวิชม ทองสงค์ ท่านก็สลับขึ้นลงเวทีใหญ่ และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มย่อย จน AAR เมื่อ 5 โมงเย็น กลับบ้านพร้อมกับผู้เข้าประชุมครับ

เกือบลืมครับ วันนี้ได้เจอ ปลัดวาสนา ด้วงฉุย ด้วยครับ น้องปลัดเขาบอกว่าเขาสนใจเขียนบันทึกบล็อก จะรวมกลุ่มผู้เรียนและให้ผมไปแนะนำที่สำนักงานปกครองจังหวัดครับ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่โกเมศว์ ทองบุญชู ประธานเครือข่ายแผนชุมชนพึ่ทงตนเองภาคใต้ ที่จะนัดทีมงานและพื้นที่เครือข่ายแผนชุมชนพึ่งตนเอง 17 ตำบล ที่มีอินเตอร์เน็ตและ จนท.พร้อมแล้ว เรียนเรื่องบล็อกกันครับ

วันนี้ระบบ gotoKnow คงจะอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง  ไม่สะดวกใช้งานเท่าไหร่ หยุดไว้แค่นี้ก่อน ต่อบันทึกหน้านะครับ มีภาพมาฝากในบันทึกหน้าด้วย วันนี้อยากให้ได้บรรยากาศการประชุมไปก่อน

หมายเลขบันทึก: 80758เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2007 21:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2012 10:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
วันนี้ก็ไปร่วมอบรม ภาคีเครือข่ายประชาคม สู่ชุมชนอยู่ดีมีสุข ..........ชุมชนเข้มแข็งเมืองไทยแข็งแรง  ที่โรงแรมทวินโลตัสมาเหมือนกันค่ะ(เป็นรุ่นที่ 2)   ซึ่งมีกำหนดการอบรม 3 วัน  คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดายที่ตัวเองไม่สามารถร่วมอบรมได้จนจบในวันนี้ ด้วยมีภารกิจอื่นที่ต้องทำ เสียดายจริงๆค่ะ เพราะดูจากหัวข้อกำหนดการอบรมแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากๆ สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้เลย  ตอนแรกก็งงเหมือนกันค่ะว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้มีงานอบรมแบบนี้ขึ้นมา ได้มาอ่านบล็อกของคุณครูนง เลยพอจะทราบเรื่องราวความเป็นมาเป็นไป   เป็นเพราะอานิสงค์ของ KM นั่นเอง เพราะชุมชนที่ที่นครศรีฯมีการปูฐานกระบวนการเรียนรู้ไว้แล้ว มันง่ายต่อการพัฒนาต่อยอด   ไว้จะมาอ่านอีกรอบนะคะ คงต้องไปทำงานต่อก่อน  สวัสดีค่ะ

  สวัสดีครับ
     ตามมาอ่านด้วยความอิ่มใจ  และยิ่งทำให้เห็นชัดว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้มาจากไหน  มาจากกายและใจที่แน่วแน่ของคนที่รวมตัวกันอยู่ ณ ที่ต่างๆ นั่นเอง   
    ไม่มีอัศวินม้าขาว  ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมาบันดาลอีกแล้ว ..
    
      ด้วยสองมือ กับหนึ่งใจ ที่แน่วแน่ 
ไม่ยอมแพ้ ต่ออำนาจ ความขลาดเขลา
สิ่งเคยหวัง เคยตามหา ตามคว้าเงา
จะสยบ อยู่แทบเท้า ของคนจริง

  • ตามมาเรียนรู้และแสดงความชื่นชมครับ
  • ทางนครฯ น่าจะง่ายในการต่อยอดเหมือนที่ครูนงบันทึกไว้ ทีมงานส่วนกลางจึงลงกันไปเป็นทีมใหญ่ 
  • หวังว่าจังหวัดที่ไม่ง่าย  ทีมส่วนกลางก็คงไม่ละเลยนะครับ  (ยิ่งยากยิ่งท้าทายนะครับ..จะบอกให้)....อิอิ
  • ขอบพระคุณมากครับที่บันทึกมาแบ่งปัน

อย่าฟังความเห็นของคนในพื้นที่ว่าทางทีมจากส่วนกลางลงไปมะรุมมะตุ้มมากไป และไปเกิดการแย่งซีนกันหรือเปล่าครับ

ผมอยู่ส่วนกลางอยากจัดทัพที่จะหนุนพื้นที่ได้จริงๆ โดยไม่สับสน เพราะเชื่อว่าพลังริเริ่มจากพื้นที่เป้นของจริง

อยากได้คำแนะนำครับ

ที่ศอสส เราแบ่งความยากง่ายของการทำงานแต่ละจังหวัดไว้เหมือนกันครับ ว่าจะมียุทธวิธีในการลงไปหนุนเสริมยังไง แต่ก็อยากได้ข้อเสนอแนะจากพื้นที่ด้วย 

 

คุณจิราพร คงทอง อาบาเช่ ครับ

            สำนักงานอยู่กันใกล้กันแค่นี้ แล้วจะไปเยี่ยมเยียนรู้จักถึงที่ครับ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียน ฝากความเห็นไว้ เกือบลืมอยากบอกว่า ผมคอเดียวกับคุณวิชาญ คุณสุรพลหรือคุณต้อย และคุณพี่สุธัญย์ ในสำนักงานของคุณอาบาเช่ครับ แล้วจะไปคุยเร่อง KM การทำทีมนครศรีฯ เรื่อง...และเรื่องบล็อกที่คุณอาบาเช่สนใจอยู่ด้วยครับ

อ.พินิจ ครับ

     ขอบคุณกลอนเพราะๆที่ฟังแล้วฮึกเหิมเพิ่มกำลังใจครับ ..ขอฝากกลอนเพราะๆของอาจารย์แด่ชาว gotoKnow ทุกคนเลยครับ

     ขอบคุณมากครับอาจารย์ คนใต้บ้านเราแต่ไปดังที่กรุงเทพฯ

น้องสิงห์ป่าสัก ครับ

             อิอิๆๆ...  อะอะๆๆ แบบว่า....ได้ทั้งสองแบบอยู่แล้ว  ส่วนกลางเขาไม่เกี่ยงอยู่แล้ว

เรียน หมอสมศักดิ์

            ไม่มีแย่งซีนแต่ประการใดครับ พูดกันคนละ 5 -10 นาที รอบเดียว ไม่มีรอบสอง เพราะเวลาน้อยไปกันหลายคนหลายหน่วยงานก็อย่างว่าและครับ

             ผมว่าข้อมูลที่หมอต้องการน่าจะเป็นเจ้าภาพหลักอย่าง สสจ.นครศรีฯ พี่วีณา จะตอบได้ดีกว่าภาคีเครือข่ายอย่าง กศน.นะครับ

             ผมอาจจะมีข้อมูลให้คุณหมอได้บ้างที่บันทึกนี้และบันทึกนี้ครับ

ผมคนเดินทาง  มาตามดูเรื่องราว

อ.ชาญวิทย์ ครับ

           ขอบคุณนะครับที่เดินทางรอนแรมมาถึงที่นี่ได้ ไม่ทราบได้อะไรบ้างหรือเปล่า.....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท