ข้อคิดเห็นที่ได้คิด...เขาเขียนมา ผมตอบไป


ผมเลยอยากเชื่อมคำระหว่าง "ทัศนคติ" กับ "การปฎิบัติ" ว่ามันเป็นสะพานข้ามถึงกันและกัน ที่จุดขึ้นและจุดปลายสุดที่ดีงามเช่นกัน

 

Pic from :  malgusto.com

เช้าวันที่ ๑๗ เมษายน

หลังจากที่พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม จากการเดินทางที่ยาวนาน เริ่มจากนครราชสีมา จนถึงเชียงใหม่ สิ้นสุดการเดินทางไปออนซอนอีสานในครั้งนี้

ผมมีเรื่องราวหลากหลายที่ผมได้พบเห็นวิถีผู้คนในเมืองไทยของเราเอง มาเล่าให้ฟังมากมายครับ...ซึ่งกำลังเรียบเรียงอยู่

ห่างหายจากหน้าบันทึก Gotoknow ที่คุ้นเคยทุกเมื่อเชื่อวันก็เหมือนชีวิตขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ...ไม่รอช้า สิ่งแรกที่ทำเมื่อตื่นขึ้นมาเช้านี้คือ อ่านความเป็นไปของสังคมบ้านเรา Gotoknow

ก่อนไป ผมเขียนเรื่อง   บันทึกที่ผมอ่านแล้วชอบ... ก่อนเทศกาลมหาสงกรานต์ และขากลับผมได้อ่าน ข้อคิดเห็นที่น่าประทับใจ และเป็นข้อคิดเห็นที่ผมอ่านด้วยใจแช่มชื่น...

อยากให้ข้อคิดเห็นนี้เป็นบันทึกแรก ปฐมบทก่อนที่จะเริ่มเขียนเรื่องราวใหม่จากแดนอีสานหลังสงกรานต์ครับ

เป็นข้อคิดเห็นจาก คุณ

P
มิตรของผมผ่านทางบันทึก

เขาเขียนมา


  <table border="0"><tbody><tr>

P
Kati เมื่อ อ. 17 เม.ย. 2550 @ 06:34

</tr></tbody></table></span><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สมัยเรียน ม.ปลาย ผมได้อ่านเขียนเรื่องหนึ่ง ของหนังสือรับน้อง ของสถาบันเทคโนฯ พระนครเหนือ ที่ค่ายอาสาของพระนครเหนือจัดทำ สำหรับน้องใหม่ปีหนึ่งที่เข้ามหาลัย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ภาพปกรูปวาดของ วสันต์ สิทธิเขตต์</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>ในเล่มมีเรื่องราว นิทานและเรื่องราว แบบค่ายอาสา อาจดูไม่งดงามในเรื่องภาษา และไม่เร้าใจในเรื่องของความซับซ้อน จากการวางเรื่องราว <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เป็นเรื่องของผู้คนที่ต่างเดินก้าวผ่านสะพานไม้โดยมีตะปูโผล่ขึ้นมา หลายคนก้าวพลาด จนถูกตะปูตำเท้า หลายคนก่นด่า หลายคนโวยวาย ผู้คนมากมายถามหาคนผิด </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>จนกระทั่งมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เห็นตะปูที่โผล่อยู่ จึงหันไปหาท่อนไม้ ก้อนหิน หรืออะไรสักอย่าง แต่เขาเดินเข้าไปทุบจนปลายตะปูหายไปกับเนื้อไม้บนสะพาย แล้วเดินจากไป <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หลายปีที่ผ่านมา ผมยังประทับใจกับเรื่องเหล่านี้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">บ่อยครั้งเดินผ่านทาง ที่เห็นไม้เสียบลูกชิ้นที่เราเห็นและก้าวผ่าน ไม่หนักไม่หนา ก็ต้องหยิบทิ้งให้ไกลคนเดิน เห็นขวด เห็นหิน ที่คาดด้วยสายตา ว่าจะลำบากคนอื่น ถ้าไม่ลำบากเรานัก ก็หยิบไปให้ไกลความลำบาก</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อย่างน้อยผมก็เชื่อว่า ความงดงาม เหล่านี้ ยังจำเป็นสำหรับโลกนี้ จำเป็นสำหรับสังคมที่เราอยากให้เห็น จำเป็นสำหรับพื้นที่แห่งความอบอุ่น และงดงาม ที่เราทุกคนต่างเรียกหา</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อย่างน้อย เราก็ได้ให้กำลังใจ ต่อกันและกัน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปที่จะให้ความดี ยังคงอยู่ในท่ามกลางความงดงามของโลกใบนี้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ในเรื่องที่เขียนไว้</p>  ผมตอบไป <hr> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">  </p> <table border="0"><tbody><tr>

P
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร เมื่อ อ. 17 เม.ย. 2550 @ 07:55

</tr></tbody></table></font><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">คุณ <table border="0"><tbody><tr>

P

</tr></tbody></table></span></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หากใครไม่ถือเรื่องของส่วนรวมเป็นวิสาสะ เป็นธุระ ต่างคนต่างอยู่โลกนี้คงแร้นแค้นน้ำใจยิ่งนัก</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ปรากฏการณ์ที่ทุกคนเดินผ่านไป เมื่อเจอตะปู เรายังเห็นกันตลอดเวลา และ มีคนบางใครหาค้อนตอกตะปูที่โผล่พ้นเนื้อไม้ ก็ยังคงมี…โลกนี้ไม่ได้มีคนแห้งเหือดน้ำใจ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเคยถามเรื่อง ทัศนคติกับกลางวันกลางคืน กับน้องคนหนึ่ง  ผมเชื่อว่าทัศนคติจากการมองสิ่งหนึ่ง สะท้อนความเป็นตัวตนได้ดี…ทัศนคติเป็นที่มาของการปฏิบัติที่ถูกต้องดีงามไปด้วย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หลายคนมอง กลางคืน” เป็นเวลาที่มืดมิด หดหู่ และหนาวเย็น</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หลายคนมองกลางวัน” เจิดจ้า สดใส และ ร้อนแรง </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นิยามของกลางคืนและกลางวันจึงหลากหลายตามแต่วิธีการมองของคนที่มองเข้าไป</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>หากผมจะตอบ เรื่อง กลางวัน และ กลางคืน <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมขอมองตามแบบของผม </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กลางวัน มันงดงามนะผมว่า เราได้เห็น สรรพสิ่ง เราได้เห็นดอกไม้ ผีเสื้อ ความเป็นไปของสิ่งมีชีวิต ที่มีวิถีหลากหลาย ได้รับแสงอาทิตย์อบอุ่น</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กลางคืน ก็เป็นเวลาที่วิเศษมากครับ เราได้พักผ่อน เราได้นอนดูดาว นับดาวกันเพลิน เห็น หิ่งห้อย นั่นมั้ยครับ….แมลงตัวเล็กๆที่มีไฟในตัวเอง ยามท้องฟ้ามืดมิด แสงของหิ่งห้อยเปล่งประกายโชติช่วง …เวลากลางคืนช่างน่าอภิรมย์เสียจริง!!!</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">จงอ่อนละมุนกับโลกใบนี้” เป็นประโยคที่ผมอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง ผมมองว่าการปฏิบัติต่อสิ่งที่มากระทบ สิ่งรอบข้าง หากกระทำไปในแรงบวก เราก็มักจะได้แรงบวกมาเพิ่มพูนเสมอ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การทำงานเพื่อสังคมเช่นเดียวกัน ผมก็เชื่อว่า เราทุกคนร่วมกันทำดี มีจิตสาธารณะ(คำนี้ใหญ่มาก)  บ้านเมืองเราจะเจริญรุ่งเรืองมากกว่าทุกวันนี้ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเลยอยากเชื่อมคำระหว่าง ทัศนคติ” กับการปฎิบัติ” ว่ามันเป็นสะพานข้ามถึงกันและกัน ที่จุดขึ้นและจุดปลายสุดที่ดีงามเช่นกัน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ขอบคุณ มิตรภาพที่ดีงามระหว่างผมและคุณนะครับ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><hr> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อยากให้ผู้อ่านใน Gotoknow ได้อ่านและเติมเต็มร่วมกันนะครับ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p>

หมายเลขบันทึก: 90719เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2007 08:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

หนีมาเที่ยวออนซอนอีสาน ไม่ชวนเลยน๊า...

งอน !!

พี่ หนิงครับ

P

ผมไปอิสานครั้งนี้ คุ้มค่ามากครับ

ได้ไปชัยภูมิ ในหลายๆอำเภอ ผ่านขอนแก่น ไปเที่ยวโคราช พร้อมลอดประตูในที่สุด

ที่สำคัญได้เบิ่ง "หมอลำ" ในบรรยากาศจริงๆสดๆ ครั้งแรกในชีวิตครับ

ต้องขอขอบคุณพ่อใหญ่ แม่ใหญ่ เพื่อนๆโซนอิสานที่ต้อนรับผมอย่างดีครับ

ขอบคุณหลายๆเด้อครับเด้อ

อาจารย์จตุพรค่ะ

ชะห์อ่านแล้วขนลุกค่ะ..

มันทำให้มองถึงในโลกนี้ถึงแม้บางมุมมีความเลวร้าย การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน แต่ขณะเดียวกันก็มีความดี การเอื้ออาทร และความรักที่มีต่อโลกใบนี้เกิดขึ้นเสมอ

ยังมีคนอีกมากมายที่ต้องการให้สังคมเป็นสังคมที่สงบสุขและเห็นการช่วยเหลือแบ่งปันในสิ่งที่ดีดี ..เชื่อเหลือเกินว่า "ทัศนคติที่ดีงามบวกกับการปฏิบัติซึ่งต้องเดินไปด้วยกันจึงจะเชื่อมถึงกันและสิ่งนี้เป็นสะพานที่ทอดยาวไกลเพื่อเกิดเรื่องดีให้กับสังคมและโลกใบนี้ให้น่าอยู่ขึ้นมากขึ้นต่อไป

ขออนุญาตอาจารย์นำบันทึกนี้ไปเล่าสู่เพื่อนๆ น้องๆ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานนะค่ะ

ขอบคุณอาจารย์จตุพรมากค่ะทีให้อ่านบันทึกดีๆ ในเช้าวันนี้

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ...คุณเอก

การเดินทางคงเรียบร้อยดีนะคะ...ช่างน่าเสียดายมากเลยค่ะ...กับทริปที่ไม่ไกลเกินกว่าจะได้ไป F2F กัน..หวังว่าสักวันเราจะ...นั่งคุยละไมจิบกาแฟไปด้วยนะคะ...

มีบางสิ่งมาฝากไปที่นี่เลยนะคะ http://gotoknow.org/blog/mindfulness/90300

(^_____^)

กะปุ๋ม

เป็นบันทึกที่มีทัศนคติที่สวยงามครับ

ชอบภาพปุยเมฆที่ก่อตัวเป็นรูปหัวใจ ภาพนี้สื่อความหมายของการมองธรรมชาติด้วยหัวใจ

ทัศนคติมีทั้งบวกและลบ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนมีทัศนคติที่เป็นบวกทั้งหมด

ทัศนคติที่ดีอาจนำมาให้เราปฏิบัติดีได้ หากเรามีหัวใจของทัศนคติและการปฏิบัติที่เชื่อมโยงกัน

แต่ไม่เสมอไป...บางคนมีทัศนคติที่ดีแต่ไม่พร้อมหรือกล้าที่จะปฏิบัติ...บางคนมีทัศนคติที่ไม่ดีแต่พยายามที่จะปฏิบัติ...นานาจิตตังครับ

ในเชิงกิจกรรมบำบัดทางจิตสังคม เราพยายามแนะนำให้ผู้ที่มีทัศนคติที่เป็นลบมาค่อยๆปฏิบัติในกิจกรรมที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อคนๆนั้น เมื่อใดที่มีการปฏิบัติดีและสม่ำเสมอ เมื่อนั้นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ดีขึ้นก็ไม่มีวันสายครับ

ไม่มีรูป
ชะห์(chah)

แง่มุมดีๆ ที่มนุษย์พึงกระทำต่อกันเราพบเห็นได้เสมอครับ อาจไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ แต่เป็นเรื่องเล็กๆที่งดงาม เราก็ชุ่มชื่นหัวใจ

หากบันทึกนี้ก่อเกิดกำลังใจ พลังแรงใจ ผมขอมอบให้ chah และเพื่อนๆครับผม

ขอบคุณครับ

P

เดินทางเรียบร้อย และหลากประสบการณ์ครับ ไปอิสานคราได้คุ้มเกินคุ้มทุกครั้งครับ เก็บเกี่ยวเท่าไหร่ไม่พอครับ

ประทับใจมากทั้งสถานที่และน้ำใจแฮงๆของผู้คนที่นั่น

ผมเข้าไปตอบ comment แล้วครับ เข้าไปเห็นรูปผมเองก็ตกใจ ถึงว่าครับ มีเพื่อนหลายคนทราบว่าผมไปไหนมาครับ โดยที่ผมไม่ได้บอกพวกเขา

ขอบคุณ คุณกะปุ๋มมากๆเด้อครับเด้อ

 

 

  • แม๋!!!   บุรีรัมย์กับโคราชห่างกันนิดเดียว  น่าจะมาเยี่ยมกันบ้าง
  • ภายใต้ก้นบึ้งของหัวใจ  มนุษย์ทุกคนใฝ่ดีครับ...เพียงแต่หลายครั้งที่กิเลส ทั้งหลายมาเกาะกินจนยากที่จะได้แสดงออกในทางดี
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆ ค่ะ
ได้คิดว่าเราต้องหันมาดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมของเราให้มากขึ้น  อย่างน้อยก็เรื่องเฉพาะหน้าที่ทำได้
***
เคยฟังพระรูปหนึ่ง (จำชื่อท่านไม่ได้)  ท่านเทศน์ในทีวี   ท่านบอกว่าสังคมไทยทุกวันนี้ เป็นสังคมแบบ "เหรอ"   คือพอได้ฟังเรื่องราวอะไร  ทั้งดีและไม่ดี   ก็ได้แต่รับรู้ว่า "เหรอ"  คือได้ยินได้ฟังมาแล้วก็แล้วไป  ไม่ได้คิดจะทำตามเรื่องที่ดี    และไม่คิดว่าจะช่วยกันแก้ไขเรื่องที่ไม่ดี   เพราะคิดว่าธุระไม่ใช่  หรือเป็นเรื่องไกลตัว
...
ฟังแล้วก็สะอึกเล็กน้อยค่ะ ว่า เอ๊ะ...เราก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน

อาจารย์ ป๊อบ

P

ผมพยายามเชื่อมให้เห็นความเป็นไปของทัศนคติและการปฏิบัติ

เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นที่ว่า ทัศนคติที่ดีแต่อาจไม่พร้อมสำหรับการปฏิบัติ แต่เชื่อแน่ว่า ที่ไม่ได้ปฏิบัตินั้นก็คงไม่ได้ทำสิ่งไม่ดีแน่นอน

กระบวนการบำบัดทางจิตสังคม ผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่นะครับ แต่มองว่า น่าสนใจมาก คิดว่าคงต้องใช้เวลาและบุคลากรที่เชี่ยวชาญ เข้าใจ

สังคมที่ใช้คุณธรรมนำความรู้อย่างที่เราพยายามกันทุกวันนี้ ผมคิดว่า "จิตสังคมบำบัด" น่าจะมีส่วนช่วยเหลือสังคม ....ใช่หรือเปล่าครับ

 

P

ผมมองที่ป้ายบอกระยะทางบ่อยครั้ง...ช่วงที่อยู่โคราช เห็นตัวเลขบอกระยะทางเพียง ๑๒๓ กม. ไม่ไกลเลย

ผมคิดว่า การเดินทางสะดวกมาก เพราะเดินทางจากชัยภูมิมาที่โคราชระยะทางไกล แต่ใช้เวลาไม่นานเลย

อยากไปเยี่ยม ..แต่ผมขอเตรียมพร้อมมากกว่านี้หน่อยครับ ประกอบกับไปกับเพื่อนๆ เลยมีสถานที่บังคับ(บ้าง) ตามสมควร

มีเวลาที่เหมาะสม ผมและ อ.ย่ามแดง คงได้เจอตัวเป็นๆกัน พร้อมกับสนทนายาวๆแน่ครับ

เป็นแง่มุมที่ดีครับ...

อุปสรรคหรือปัญหาที่เกิดขึ้นต่อหน้าเรา เราควรต้องแก้ไขก่อนแล้วค่อยมองหาที่มาของปัญหาหรือผู้รับผิดชอบภายหลัง...

ขอบคุณครับ...

P

สวัสดีปีใหม่ครับ พี่นิดหน่อย

ได้กลับบ้านหรือเปล่าครับ

ช่วงเช้าคุยกับเพื่อนคนหนึ่งทางโทรศัพท์ เราคุยกันเรื่องนี้ ...ตอนจบบทสนทนา เราเห็นพ้องกันว่า เมื่อแก้ไขจุดใหญ่ไม่ได้ ตัวเราเองนี่หละต้องแก้ไข

ปัจเจค เป็นส่วนประกอบของสังคมที่ดีครับ

ทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจุดใดในโลก ล้วนเกี่ยวข้องกับเราทั้งนั้น

เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวครับพี่นิดหน่อย

P

"อย่างน้อยผมก็เชื่อว่า ความงดงาม เหล่านี้ ยังจำเป็นสำหรับโลกนี้ จำเป็นสำหรับสังคมที่เราอยากให้เห็น จำเป็นสำหรับพื้นที่แห่งความอบอุ่น และงดงาม ที่เราทุกคนต่างเรียกหา

อย่างน้อย เราก็ได้ให้กำลังใจ ต่อกันและกัน"

ผมขอยกเอา ข้อคิดเห็น ที่สวยงามของคุณ kati มาเขียนตอบนะครับ

 

ความสมานฉันท์ ความรัก ความเอื้ออาทร ที่เกิดจากใจ เกิดจากความรู้สึกที่ทำให้ผู้อื่นแล้วสบายใจ มีคุณค่ามากครับ

 

สวัสดีค่ะคุณเอก

ฮืม...อ่านไปก็คิดว่า ตัวเองยังเป็นคนไม่ค่อยสนใจจัดการตะปูบนสะพานซะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะหลบไม่ให้เดินไปเหยียบ

ต้องหัดคิดแบบเด็กน้อยบ้างแล้วล่ะ หาอะไรมาทุบๆ ซะบ้าง เราจะได้ไม่ต้องเห็นคนทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ขอบคุณค่ะ

^_____^

สวัสดีครับคุณแนนนี่

P
IS

ครับ สนับสนุนคิดเช่นเด็กน้อย... ไม่ได้ใส่เกียร์ว่าง จนเสียทั้งระบบ

ช่วยกันครับ คนละไม้ คนละมือ

ไปเรียนเมืองนอก เมืองนา แสวงหาองค์ความรู้ดีๆ มาประยุกต์ใช้กับบ้านเรานะครับ

เอาใจช่วยให้จบเร็วๆครับ

P
IS

คุณแนนนี่

ยังไงก็ขออวยพรให้เรียนจบเร็วๆนะครับ จะได้มาช่วยกันไงครับ

เรากำลังจะทำเครือข่าย mapping คนดีคนเก่ง อยู่นะครับ

ยังไม่สายและไม่เคยสายเลยค่ะ ที่จะทำดี เป็นตัวอย่างที่ดี เราพยายามได้เสมอ พี่เชื่อมั่นตลอดมาตั้งแต่ยังไม่มี GotoKnow ว่า ใครไม่ทำ เราทำไปเถิด ทำดีให้กับคนทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คิดถึงทุกคนรอบๆตัวว่าเขาคือ "เพื่อนชีวิต"ของเรา อะไรที่เราไม่ชอบ ก็อย่าไปทำกับเขา อะไรที่จะเป็นอันตรายกับเรา ก็จะเป็นอันตรายกับเขาได้ ทุกคนคือญาติของเรา

คิดแบบนี้แล้ว เราก็จะไม่อยากทำอะไรที่ไม่ดีกับใคร และช่วยทำให้ทุกอย่างรอบๆตัวเราดีขึ้น เพื่อเราเพื่อเขาและเพื่อทุกคน

ทำไปเรื่อยๆ ทำอยู่ตลอดมา พูดบ้างไม่พูดบ้าง แต่ก็พบว่า พลังบวกนั้นแผ่ขยายได้ค่ะ ดีใจที่มี GotoKnow เพราะยิ่งทำให้รู้ว่า มีคนดี ที่จะแผ่พลังบวกมากมาย มากกว่าที่เคยคาดคิดเสียด้วยซ้ำค่ะ น่าดีใจที่พวกเราได้พบกันในโลกแห่งนี้ เพื่อช่วยเป็นกำลังใจให้กันและกัน สร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อโลกใบนี้และพวกเราทุกคน

ขอบคุณมากครับ

สำหรับความประทับใจ และการสื่อสารแลกเปลี่ยน

รู้สึกยินดี สำหรับการพูดคุย ให้กำลังใจ และบอกกล่าวเรื่องราวของความประทับใจในชีวิตให้กันและกันฟัง ได้ร่วมรับรู้ ร่วมไถ่ถามกันบ้าง

บางครั้งผมก็พบว่า การทำความดี เหมือนกับการฝึกฝนตนเอง เหมือนการชำระล้างจิตใจตัวเอง ไม่ให้เคยชินจนเกินไป ไม่ให้เกิดความชินชาที่จะลำพังตัวรอด โดยเชื่อว่าเป็นหนทางที่ง่ายดาย และดีที่สุดสำหรับชีวิตตนเอง

ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องทฤษฏีการเอาตัวรอดเท่าสักเท่าไร เพราะหลายครั้งที่ตัวเองต้องกลับมานั่งเจ็บใจ ว่าทำไมไม่ช่วยเหลือเขา กลับรู้สึกเป็นทุกข์ยิ่งกว่า เสมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหา พอบ่อยครั้งเข้า ผมก็เลยเลือกที่จะทำ ทำเพื่อให้เพียงพอกับความรู้สึกของตัวเอง เหมือนกับบอกว่า ทำเถอะ ถ้าทำแล้วสบายใจ แต่ก็อย่างว่า สำหรับชีวิตในแต่ละวัน เราก็ไม่ได้ทำสิ่งที่ควรจะทำทุกวัน ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง บางวันเหน็ดเหนื่อย หงุดหงิด ก็หาข้ออ้างกับตัวได้บ้าง แต่วันไหนที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ลงมือทำ

ทำเพราะรู้สึกดี ทำโดยไม่ต้องมองคนอื่น หรือใช้สายตาบอกกล่าวเขา ไม่มีการตำหนิ ไม่มีการตีความ เพราะเขาอาจไม่พร้อม และเราก็ไม่มีสิทธิที่จะตีความการกระทำ หรือไม่ทำของคนอื่น

บ่อยครั้งที่นั่งรถไฟฟ้าตอนเช้า ซึ่งก็ไม่บ่อยครั้งนักหรอก เพราะผมยังมีโอกาสเลือกเวลาเดินทางได้บ้าง เวลาที่เห็นคนที่เค้าควรจะได้นั่ง ในจังหวะและโอกาสที่เราช่วยได้ เราก็จะช่วย บ่อยครั้งก็แกล้งเดินไปตู้ถัดไป เพราะไม่อยากให้คนอื่นที่เค้าควรจะช่วย หรือแกล้งไม่ช่วย ไม่รู้สึกว่าเรากดดันเค้า  เพราะบางทีเค้าก็อาจเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะช่วยใครได้

เรื่องความพยายามที่จะกระทำ เลือกและปฏิบัติที่จะกระทำ เหมือนการชำระล้างใจ ชำระล้างความรู้สึกที่ไม่ดีซึ่งติดค้างอยู่รอบตัวเรา เหมือนการจาริกในแต่ละวัน เพื่อถามหาที่ทางอันงดงามของชีวิต

วันก่อนมีโอกาสชม รายงานพิเศษของสำนักงานเนชั่น ที่ทำให้กับช่อง 9 เสนอเรื่อง นาโนเทคโนโลยีในประเทศไทย มีเนื้อหาส่วนหนึ่ง พูดถึงการจำลองคุณสมบัติทางกายภาพ ในระดับนาโนของใบบัว ว่าคุณสมบัติที่ทำให้น้ำไม่เกาะติดบนผิว และสามารถชะล้างฝุ่นที่อยู่บนใบบัวได้นั้น เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการจัดวางคุณสมบัติทางกายภาพของกระจก ในระดับนาโน ที่สามารถทำให้น้ำไม่เกาะบนผิวกระจก เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า กระจกล้างตัวเองได้

เมื่อเวลาที่น้ำไหลผ่านไป ก็จะชะฝุ่นผงที่ติดตามกระจก โดยที่ไม่ต้องไปนั่งเช็ดนั่งล้าง ผมคิดว่าคงเหมือนใจของเรานะครับ

พยายามสร้างคุณสมบัติทางกายภาพของใจ

ไม่ให้ตอบสนองต่อสิ่งที่จะมาเกาะ จนทำให้เราหม่นหมอง ขุ่นมัว และก็รอเวลาให้น้ำใจได้ชำระล้างฝุ่นผงเหล่านั้นออกไป ตามเงื่อนไข จังหวะ และโอกาสของชีวิต

ขอบคุณครับ สำหรับน้ำเสียง ทัศนคติ และข้อคิดเห็นหลายๆประการ

ยินดีมากครับ สำหรับการแบ่งปัน และให้กำลังใจกัน ต่อความรู้สึกที่ดีๆ ที่จะร่วมสื่อสาร และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน

ขอบคุณมากครับ

 

P

ก่อนที่จะเขียนตอบ ข้อเสนอแนะพี่โอ๋ผมนั่งอ่าน ข้อเสนอแนะที่คุณkati เขียนมาข้างบนอีกครั้ง(หลายครั้งที่อ่าน)

ผมพยายามจะไม่ละเลยสิ่งเล็กน้อย เพราะคิดว่าสิ่งเล็กน้อยมันสำคัญมีผลต่อสิ่งใหญ่

สิ่งที่ผมทำ และคิด มาจากพื้นฐานของคนหนึ่งคนที่อยากเห็นสังคมดีงาม อยากมีสังคมอุดมคติ สนใจ ใคร่รู้บุคคล เครือข่ายความดีที่มีอยู่หลากหลายในสังคมของเรา

ผมอยากเห็นการเชื่อมกัน เพื่อให้พลังนั้น ผักดันการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนอยู่ในขณะนี้

ผมเห็นครับ ผมเห็นหลายท่านที่โลดแล่น อยู่ในสังคม Gotoknow และจับตามองวิธีคิด และ ความรู้สึกที่พวกเขาถ่ายทอดออกมา...จนแน่ใจได้ว่า เป็นพลังใหม่ เป็นมิตรภาพที่จะถักทอกันต่อไป

คุณ kati ให้ข้อคิดเห็นที่ทำให้ผมได้ฉุกใจคิด...ครับ

เป็นกำลังใจให้กันและกันครับพี่โอ๋

"ความดีไม่มีวันตาย เกียรติยศก็ไม่มีวันตายเช่นกัน" พี่ชายของผมบอกผมเสมอ

ผมไม่เคยลืมครับ

 

                                             จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

                                                     เชียงใหม่

 

 

 

P

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผมขับรถไปเติมน้ำมัน ที่ปั๊มแห่งหนึ่ง

ผมบอกให้ด็กปั๊มว่าเติมน้ำมัน....จำนวน....

แต่เด็กได้ยินผมไม่ชัด ก็เฝ้าเวียนถามเรื่อยๆ ผมก็คิดว่า ผมเองที่เสียงเบา หรือ เขาเองที่หูไม่ดี

ผมอาจจะโทษเขาที่เขาหูไม่ดี หรือ โทษตัวเองที่พูดไม่ชัด ไม่ดังพอที่เขาจะเข้าใจ

ป่วยการที่จะหงุดหงิดเขา 

ผมเลือกที่จะแก้ไขตัวเองก่อน ด้วยการพูดให้ดังมากขึ้น พูดชัดเจนมากขึ้น ...

 

หลายครั้งที่เกิดความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเรามักจะโยนให้กับจำเลยที่อยู่รอบข้าง แต่ลืมมองที่ตัวเราเอง คิดว่าบ่อยครั้งเช่นกันที่สาเหตุอยู่ที่เรา ส่วนสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นสาเหตุรองๆ

ทุกสิ่งผมคิดว่าเราควรเริ่มที่ตัวเอา ...พัฒนาตัวเองให้กล้าแกร่งผ่านการเรียนรู้ เปิดใจให้กว้างสำหรับเพื่อนมนุษย์ ยอมรับความหลากหลาย และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

ทำดีเพราะสุขใจที่ได้ทำ ใช่ตามกระแส...ทำดีแล้วอิ่มเอมใจ ใช่แกล้งเป็น

หากทำชั่วเพียงเล็กน้อย ตราผิดปาบก็ประทับในใจ ลบภาพดีๆออกไปเกือบหมดสิ้น

ความดีสวยงามเสมอ

ประโยคที่บางคนบอกให้ผม เหมือนกับการให้กำลังใจ ที่ต้องพบพานสิ่งต่างๆที่อาจบั่นทอนกำลังใจความตั้งใจดี

สังคมล่มสลาย เพราะคนดีท้อแท้

ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย มีโอกาส มีเวลา ผมชื่นชมและสรรเสริญคนทำดี ...ให้กำลังใจพวกเขาให้ทำดียิ่งๆขึ้นไป

 ผมบอกหลายๆคนรอบข้างเสมอว่า "ทำดีไม่มีใครเห็น แต่เราเห็น และเราภูมิใจ"

ยุทธศาสตร์ขยายความดีที่กำลังจับขั้วกันใน พื้นที่   เสมือนออนไลน์ ผมคิดว่าพอที่จะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง และเกิดกลุ่มทางปัญญาขึ้น...มีการเชื่อมโยงด้วยกาวมิตรภาพ..เราก็ได้เห็นบ้างแล้ว

เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และมีโอกาสในการพัฒนาตนเองท่ามกลางมวลมิตรที่เข้าใจ

ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนกันครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท