ผมอยู่ในฐานะที่นำข่าวสารจากซอกหลืบของโลกของคนชายขอบไปบอกกับคนในสังคม...ว่ามีอีกหลายชีวิตที่ต้องการเเสงสว่าง และกำลังใจ น้ำใจและการช่วยเหลือกันไม่มีพรมแดนครับ
ผมเพิ่งเดินทางกลับลงมาจากโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ หลังจากไปทำงานและเลย Count down กลางป่าสน “ดุลยภาพของการพัฒนากับหน้าต่างแห่งยุคสมัย” Count Down 2008 กลางป่าสนผืนใหญ่ที่สุดของประเทศ บรรยากาศสวยงามของธรรมชาติของโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ทำให้การเดินทางของผมครั้งนี้ ช่วยเติมเต็มแรงกายแรงใจให้สมบูรณ์เตรียมพร้อมในปีใหม่
ก่อนลงมาจากดอยวัดจันทร์ทางเจ้าหน้าที่โครงการหลวงวัดจันทร์ และผมได้เดินทางไปที่วัดบ้านวัดจันทร์ เพื่อนำไปทำบุญเสริมศิริมงคล พร้อมถวายปัจจัยให้แก่พระ และพระท่านให้พรท่ามกลางบรรยากาศแห่งความยินดีในวันเริ่มต้นปี เป็นการจบภารกิจการทำงานของผมในปีนี้ พร้อมกับเตรียมเดินทางกลับเมืองปาย
เช้าวันนี้ ที่เมืองปาย
ผมมีเวลาพักอีกหนึ่งวัน อยู่กับบ้าน แต่วันนี้ผมได้ให้คุณแม่นัดบรรดาเพื่อนของคุณแม่ มาช่วยกันคัดแยกสิ่งของบริจาคออกเป็นหมวดหมู่ ใส่ถุงพร้อมผนึกป้ายให้ชัดเจน ง่ายต่อการนำไปบริจาค
ผมอยากให้คุณแม่และเพื่อนๆของท่านได้มีกิจกรรมบุญร่วมกัน อย่างน้อยการทำกิจกรรมเหล่านี้ ช่วยให้พวกท่านมีความสุขที่จะได้ร่วมทำบุญกับ Blogger และผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคของมา
เสื้อผ้าที่ถูกคัดแยก ถูกแบ่งออกเป็นกองๆ พับและเก็บใส่ถุง พร้อมปิดปากถุง เต็มลานหน้าบ้าน เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานของแม่และเพื่อนๆ ดูมีความสุขยิ่งนัก...ผมอิ่มใจไปด้วยกับบรรยากาศแห่งความสุขนั้น
เราช่วยกันจัดของจนเสร็จ แยกผ้าห่มออกเป็นมัดๆละ ๑๐ ผืน สิ่งของที่กองเต็มพื้นที่หน้าบ้าน ถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย รอการขนย้ายจากทาง โรงพยาบาลปาย ที่จะไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในวันพรุ่งนี้ ตามกำหนดการ
ผมนั่งมองดูกล่องพัสดุหายขนาดที่เรียงรายหน้าบ้านเป็นมิตรไมตรีของเพื่อนร่วมโลกที่แบ่งปัน น้ำใจที่ดี จรรโลงโลกนี้ให้น่าอยู่ หลายท่านส่งของเพียงหนึ่งกล่องแต่ต้องเสียค่าจัดส่งค่อนข้างแพงเอาการ เท่าที่ผมสังเกตจากการติดแสตมป์หน้ากล่อง...กล่องทุกกล่องที่เดินทางมาถึงบ้านผม ทั้งหมดมาด้วยแรงของกุศลที่ทุกท่านได้ร่วมกัน
ถุงกระสอบขนาดใหญ่บรรจุเสื้อผ้า ที่ไม่น่าเชื่อว่า จะมีไปรษณีย์ Blogger สองท่าน คือ เพื่อนของผม อาจารย์นเรศมันต์ เพชรนาจักรนมินทร์ (นม.) และ อ.ไฉน แบกขึ้นรถมาจากกรุงเทพฯ ถึงปาย ...ทั้งหมดด้วยความตั้งใจเกินร้อยของมิตรของเรา และได้ทำกิจกรรมบุญดีๆในบันทึก ความอบอุ่นสู่แดนดอย : กิจกรรมบริจาค รอบแรก พร้อมเพื่อน Blogger จากกรุงเทพฯ ด้วยกันที่เมืองปาย
ไม่กี่วันที่ผ่านมามีผู้ไม่ประสงค์ออกนามบริจาคเงินสดมาจำนวน ๒,๐๐๐ บาท ผมตั้งใจจะนำเงินสดจำนวนนี้ เปิดบัญชีเป็นเงินทุนการศึกษาเบื้องต้นให้แก่เด็กชายคนหนึ่ง บนดอยห้วยน้ำโป่ง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน จากการบรรยายความจำเป็นผ่านคุณครูนชุวรรณที่ผมนึกภาพตามแล้ว...น่าสงสารมาก
ผมขออนุญาตคัดลอกจากอีเมล...ของคุณครูนชุวรรณ ถึงผมไม่นานนี้
-------------------------------------------
สวัสดีคะ ...
ข้อมูลเด็กค่ะ ประกอบไปด้วย
บิดา ชื่อ นายต่อ อายุ 60 กว่า ๆ เป็นอัมพาตครึ่งซีกซ้าย
มารดา ชื่อ นางซอย อายุ 50 กว่า ๆ มีอาการหูหนวก
มีบุตรจำนวนสามคน
- ด.ญ. เหม่ย อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 ร.ร.เขตพื้นที่ฯ หย่อม
บ้านห้วยน้ำโป่ง ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า
- ด.ญ เอ อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 ร.ร.เขตพื้นที่ฯ
หย่อมบ้านห้วยน้ำโป่ง ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า
- ด.ช สมบัติ อายุ 9 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.2 ร.ร.เขตพื้นที่ฯ หย่อม
บ้านห้วยน้ำโป่ง ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า
ครอบครัวนี้ ผู้เป็นแม่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่ถือว่ามีความขยันอดทน หมั่นเพียร มีความรักลูกเป็นอย่างมาก การประกอบอาชีพนั้นไม่แน่นอน รับจ้างบ้าง ทำไร่บ้าง รายได้บางวันก็ ได้บางวันก็ไม่ได้ผู้เป็นพ่อนั้น เป็นอัมพาต ไม่สามารถทำงานหนัก ๆ ได้
ด.ช. สมบัติ นั้น ขณะนี้เรียนอยู่ชั้นป.2 แต่สมองเท่าเด็ก ป.1 เพราะเด็กมีปัญหาทางด้านสมองมาตั้งแต่เกิด ถือว่าเป็นเด็กที่น่าสงสาร เวลาให้ทำอะไรก็สามารถทำได้หมด บางทีเด็กก็จะนั่งเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟัง ฟังแล้วเกิดความสงสารอยากช่วยเหลือ
ครอบครัว ดช.สมบัติ(ภาพจากอีเมลครูนชุวรรณ ถึงผม)
บ้านที่ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ก็เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ พอประทังชีวิต
ครอบครัวนี้มีสัญชาติพม่า แต่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้นานแล้ว ไม่รู้ว่า
อาจารย์ยังจะช่วยเหลืออยู่หรือเปล่าค่ะ
และอีกอย่างได้ยินพ่อแม่เด็กบอกว่า จะสร้างบ้านหลังใหม่อยู่ค่ะ เนื่องจากบ้านที่อาศัยอยู่นั้นผุพัง เวลาฝนตก หลังคารั่ว เพราะหลังคาเป็นหญ้าคาค่ะ
นี่เป็นประวัติคร่าว ๆ ของเด็กค่ะ
ครูนชุวรรณ
*** จากอีเมลถึงผม Saturday, December 29, 2007
ครูนชุวรรณ ถามผมมาในอีเมลว่า “อาจารย์ยังจะช่วยเหลืออยู่หรือเปล่าค่ะ” ผมคิดว่าครูนชุวรรณยังกริ่งเกรงว่า เด็กชายคนนี้เป็นเด็กต่างด้าว สัญชาติพม่า …ยังจะช่วยเหลืออีกหรือไม่?? <p>ไม่แปลกที่ครูนชุวรรณ จะถามคำถามนี้กับผม</p><p>ที่เมืองไทย สามสิบบาทรักษาทุกโรค ไม่ครอบคลุมดูแลต่างด้าว ยากจน เขาต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งที่แพงมากในชีวิตประจำวันเขา</p><p>เขาเป็นพลเมืองชั้นสองที่ถูกจำกัดสิทธิด้านต่างๆ อย่างจงใจ</p><p>และ สิทธิอันพึงมี พึงได้ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ถูกตัดทอนลงไป อย่างไม่เท่าเทียม</p><p>ซึ่ง...พวกเขาผิดด้วยหรือ ที่เลือกเกิดมาเป็น คนต่างด้าว ไร้สัญชาติ</p><p>—————— </p><p>ผมยิ่งเพิ่มความเห็นใจ ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใด หากพวกเขาเหล่านั้นต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาขาดแคลน ทำไมจะไม่ช่วยเล่าครับ??</p><h3>ผมอยู่ในฐานะที่นำข่าวสารจากซอกหลืบของโลกของคนชายขอบไปบอกกับผู้คนในสังคม…ว่ามีอีกหลายชีวิตที่ต้องการเเสงสว่าง และกำลังใจ น้ำใจและการช่วยเหลือกันไม่มีพรมแดนครับ</h3><p>ผมขออนุญาตนำเงินที่มีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม จำนวน ๒,๐๐๐ บาท ตั้งใจว่าจะปรึกษากับคุณครูนชุวรรณ เปิดบัญชี เพื่อ ดช.สมบัติ (ไม่มีชื่อสกุล) ไว้เป็นทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่จำเป็น โดยผมจะเพิ่มเงินในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งในบัญชี</p><p>ได้พูดคุยกับผู้ใจบุญท่านนี้ ท่านประสงค์ที่จะ นำเงินเข้าบัญชีเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ ด.ช.สมบัติ ด้วยในรูปแบบการบริจาครายปี ทั้งนี้ผมได้แจ้งหมายเลขบัญชีไว้ให้ท่านแล้ว จึงแจ้งข่าวอันน่ายินดีนี้มาให้ทราบพร้อมกันนี้ครับ</p><p>อีกท่านที่ลืมไม่ได้คือ ท่านอาจารย์Wasawat Deemarn มิตรคนหนึ่งของผมที่ประสานงานคุณครูนชุวรรณกับผม ของบริจาคส่วนหนึ่งที่ยังเก็บไว้ที่บ้าน ผมจะทยอยส่งต่อไปที่โรงเรียนหย่อมห้วยน้ำโป่งของครูนชุวรรณอีกไม่นานนี้ครับ</p><p>กิจกรรมการบริจาคที่ปาย ที่แม่ฮ่องสอน เรากำลังเริ่มกระจายสิ่งของครับ </p><p>ผมฝากข่าวไปยังผู้บริจาคทุกท่าน พร้อมผู้ที่ติดตามข่าวสาร ผมจะนำภาพกิจกรรมพร้อมรายละเอียดปลีกย่อย นำเสนอเป็นระยะๆผ่านบันทึกนี้</p><p>ในโอกาสนี้ขอสวัสดีปีใหม่ ปีหนูทองทุกๆท่านด้วยครับผม</p><p>ผมจะเดินทางขึ้นดอยพรุ่งนี้พร้อมกับทีม รพ.ปาย ตชด.กว่า ๓๐ ชีวิตเพื่อไปบริจาคสิ่งของเหล่านี้ครับ</p><p> —————————-</p><p>ขอบคุณมากครับ</p><p>จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร</p><p> </p>