ผมเพิ่งเดินทางมาจากโครงการหลวงหมอกจ๋าม ไม่ไกลจากชายแดนไทยพม่าเห็นมีคนบอกผมว่าห่างชายแดนเมืองยอนประมาณ ๓ กิโลเมตร
สองวันที่ผมเดินทางไปทำงาน เรื่องราววิ่งผ่านเข้ามาให้ผมขบคิดมาก เป็นเรื่องราวเชิงบวกที่หนุนเสริมให้ผมคิดพร้อมกับมีกำลังใจทำงานต่อไป
การที่ผมได้ใกล้ชิดธรรมชาติ วิถีผู้คนที่บริสุทธิ์ ผมมองว่าผมโชคดีมากที่ได้ซึมซับสิ่งเหล่านั้น เป็นวิถีของผมที่เกิดจากการทำงาน
ขาไป.......เช้าตรู่วันหยุด และวันฝนตกปรอยๆ มองออกนอกหน้าต่าง เห็นตึกรามบ้านช่อง ถูกคลุมด้วย แพรฝนสีขาวจาง อากาศสบายๆอย่างนี้...หลายคนพักผ่อน ซุกกายใต้ผ้าห่ม แต่ผมมีภารกิจเบื้องหน้าที่ต้องทำ
ไม่กี่อึดใจ รถโครงการหลวงพาผมมุ่งสู่ด้านทิศเหนือของเมืองเชียงใหม่ โดยมีจุดปลายทางที่โครงการหลวงหมอกจ๋าม
วันนี้ เป็นอีกวันผมนั่งรถอย่างมีความสุข คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยด้วยระยะทางค่อนข้างไกล เสียงเพลงในรถยังทำหน้าที่เป็นอย่างดีเพื่อให้ความสุขสดชื่นกับูคนในรถ เพลง “นิราศเวียงพิงค์” ทำให้ผมเห็นภาพของเมืองงามอย่างชัดเจนในวันที่สายฝนกำจาย นึกชมในใจฝนฟ้าช่างทำหน้าที่ได้ดีเสียจริง...ผมชอบครับฝนปรอยๆกับเพลงเพราะ ทำให้จินตนาการผมทำงานได้ดี
เบื่อ ลำน้ำเฮาไปแอ่วดอย ผาเงิบชวนเพลินใช่น้อย แอ่วดอย แสนเพลินกระไร
มีน้ำตก และนกบินร้องก้องไพร ยินเสียงมันแล้วสุขใจ สุขใดบ่มีเปรียบปาน
โอ้เวียงพิงค์ แม้ฉันจากไปแสนนาน
แต่ความหมุนเวียนแห่งกาล บ่ได้ทำให้ข้าลืม
ผ่านดอยหลวงเชียงดาว....... “ ฤาสูงนี้.........เปียงดาว”
*******************************
โอ้..ผมคิดเหมือนเดิมทุกครั้งเมื่อผ่านภูเขามีชีวิตลูกมหึมานี้ ดอยหลวงเหมือนมีพลังบางอย่าง ผมรู้สึกได้ด้วยตนเอง ผมเป็นเพียงคนกระจ่อยร่อยที่ยืนมองดอยหลวงด้วยความชื่นชมในความยิ่งใหญ่ สง่างาม
ดอยหลวงเชียงดาว ยังเป็นดอยหลวงที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก ไม่ว่ากี่ฝนกี่ร้อนกี่หนาว ไม่เคยประหวั่น ดอยหลวงก็ยังคงอยู่ตรงนั้น และเป็นชีวิตของผู้คนรอบดอย
ไปถึงที่แม่อาย.......
ธรรมชาติวิถีผู้คนที่นั่น สดใสไร้มายา คนไทใหญ่ ไทลื้อ ไทแช่ม ไทมาว และกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่กันอย่างมีสุข แม้ว่าส่วนหนึ่ง พวกเขาไม่มีสัญชาติไทย!!!!
ผมสัมผัสวิถีไทลื้อเต็มๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นต้อนรับอาคันตุกะแปลกหน้าอย่างผม เป็นความประทับใจแรกพบ ทำให้การเริ่มต้นทำงานผมมีความหมายมากยิ่งขึ้น
วิถีการทำงานภายใต้ภารกิจโครงการหลวงมอบหมายเริ่มต้นในคืนนั้นเอง
วันนี้และผมก็ทำสำเร็จตามเป้าหมายทั้งวัตุประสงค์ของงานและเป้าหมายลึกๆที่ผมแอบตั้งไว้ในใจ และผมคิดว่าเป็นการเริ่มต้นให้ชาวบ้านช่วยกันคิดต่อ
ผมสัญญาว่าจะมาหาพวกเขาอีกหลังจากครั้งนี้
แม่เฒ่าชาวไทลื้อ เธอบอกผมว่า “ ให้ผมโชคดี และอย่าลืมพวกเราที่นี่ มาเยี่ยมอีกนะ...”เป็นคำพูดเรียบๆที่มีพลังกินใจผม ก่อนที่ผมจบภารกิจแรกที่นั่น
ผมสบตาเธอ เห็นประกายของความหวังบางอย่างซ่อนในดวงตานั้น คิดต่อว่าประกายดวงตานั้น คงซ่อนความรู้สึกมากมายในความเป็นคนไร้สัญชาติและอยู่ในผืนแผ่นดินไทย
วันนี้ผมมาในภารกิจขององค์พ่อหลวง........ผมตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ
********************************
บรรยากาศที่ผมเล่า เป็นบรรยากาศจริงที่เกิดขึ้นกับผม ใน 2 วันหยุดของใครหลายคน เป็นวิถีทำงานที่มีคุณค่า และ ผมคิดว่า อยากให้เรื่องราวเล็กๆของผมผนวกเข้าไปในความคำนึงของใครหลายคน
อยากให้หลายท่านมองว่างานมีชีวิต และมีความสุขเกิดที่ใจเรา และความตั้งใจ...และไม่ท้อ
ทุกสิ่งทุกอย่างทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่
************************************
ผมจะมาเล่ากระบวนการทำงานที่เป็นสารัตถะอันมีประโยชน์ในบันทึกผมต่อไปนะครับ
สวัสดีค่ะคุณเอก
ภาพหนึ่งภาพแทนคำนับพัน เมื่อภาพสวยหลากสีสันร่วมกับคำบรรยายที่งดงาม ก็ทำให้เกิดความรู้สึกว่าความง่าย งามพิสุทธิ์ใสจากใจถึงใจนั้นอยู่ใกล้ๆนี่เอง
เอาดอกไม้มาฝากค่ะ
เก็บดอกไม้มาฝาก
เก็บจากแถวที่มีฝน...
เก็บมาให้ใครบางคน...
มีฝนปนมากับใบ..
เห็นภาพดอกไม้งาม
อยากถามเธอชอบฝนไหม ?
หรือชอบดอกไม้กับใบ
ช่วยบอกให้ฉันรู้ที อิ อิ อิ
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับบันทึกที่ทำให้เบิร์ดซึ้งกับคำว่า " เกิดในดินแดนต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดิน " ขอบคุณมากๆค่ะ
อ่านแล้วอินเลยครับพี่เอก ..
ภาพและภาษาละเมียด ให้อารมณ์ความรู้สึกจริง ๆ....
.ให้กำลังใจแก่คนทำงานครับผม
สวัสดีค่ะ..คุณเอก
ชมภาพแล้วน่าไปเยี่ยมชมจังค่ะ..
ชื่นใจจังกับประโยคนี้จัง "เกิดในดินแดนต้องทดแทนคุณแผ่นดิน"
บันทึกนี้..ทำให้ดิฉันตระหนักว่า.."ทุกสิ่ง..ควรค่าแก่การจดจำ"ค่ะ..
ขอบคุณค่ะ..
สวัสดีครับคุณเอก
คุณเบิร์ดครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับ ความรู้สึกดีๆและมิตรภาพในเย็นย่ำวันฝนปรอย
ผมเดินทาง ๒ วัน๑ คืน เป็นการเดินทางไปทำงานที่ผมตั้งใจเช่นทุกครั้ง..
ผมโพส ผมเขียนยังไม่จบครับ กดโพสก่อน......
ขอต่อครับ
*************************
เดินทางทำงานวันหยุดกับคนโรงการหลวง ผมได้เรียนรู้กับคนทำงานรอบตัวของผมครับ ทุกท่านมีไมตรีให้ผมเต็มที่ และผมเห็นความตั้งใจของคนทำงาน
บ้านไทลื้อเล็กๆริมน้ำกก ...
ความกระตือรือร้นของคนที่นั่น ไมตรีที่มีให้อาคันตุกะแปลกหน้าแบบผม มีอย่างล้นปรี่ไม่ธรรมดา
ผมเผลอ(ตั้งใจ) ให้พันธะสัญญากับคนที่นั่น ว่าผมตะกลับมาที่นี่(อีกหลายครั้ง) ประเด็ฯพัฒนาที่นี่ผมเห็นค่อนข้างชัดเจน ผ่านกระบวนการเวทีที่ชาวบ้านร่วมคิดในค่ำคืนนั้น
ดึกในคืนนั้นเอง หนุ่มไทลื้อท่านหนึ่ง ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณวิทยากร (ผม) เขากล่าวประโยคซื่อๆ แต่เจาะใจผมมาก ทำให้ผมมีพลังขึ้นมาในทันที
จนท.โครงการหลวง ขอให้ผมมาที่นี่อีก บอกว่าอย่าละทิ้งที่นี่นะ ขอกลับมาช่วยกัน.....
ผมกลับมาด้วยใจที่เต็มอิ่มด้วยงานสำเร็จ และด้วยใจที่เหมือนไปเติมพลัง
ผมมีความสุขและดีใจมากครับกับวิถีของผมสองสามวันนี้
ผมมาบอกเล่าให้ฟังครับ
*****************
มาพบมิตร มาเขียนถ้อยคำดีๆ ให้ดอกไม้สวย ทำให้ผมสุขจนล้นปรี่เลยหละครับ
ขอบคุณครับ
น้องสุภัทร
ดีใจครับที่น้องมาให้กำลังใจครับ
ผมเดินทางสองวัน ผมยังคิดเลยว่าอยากชวนไปด้วยแต่ด้วยฉุกละหุกพอสมควรผมเลยเดินทางไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
อีกหลายครั้งที่โรงการหลวง บอกว่าจะขอให้ไปช่วย ผมคิดว่าเดินทางบ่อยขึ้นนะครับ ช่วงหลัง
ผมปฏิเสธที่จะไปนครศรีธรรมราช เมื่อวาน ขอเลือกพื้นที่ทางเหนือครับ.....ตอนแรกกะไปคีรีวงในช่วงกลางสัปดาห์นี้
*************
เยาวชนไทลื้อที่บ้านวังใผ่ วันนี้มีกิจกรรมเก็บขยะ ผมเห็นความเข้มแข็งของเยาวชนที่นั่นแล้ว น่าชื่นใจมาก สุภัทรไปเห็นพร้อมกับผมคงชื่นใจด้วยเช่นกัน
พรุ่งนี้พบกันนะครับ ในวันเวลาสถานที่ได้แจ้งไว้ครับผม
สวัสดีครับ
ดูอะไรที่สวยๆ อดไม่ได้ที่จะต้องให้คนอื่นได้เห็นกันเยอะๆ ชื่นใจครับ ผมจิ๊กไปเยอะครับ เอาไปรวมไว้
แต่แปลกใจกันคนที่เพิ่งหายป่วย
สวัสดีครับครูแอ๊ว
ผมดีใจมากครับที่ครูมาให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ดีๆในบันทึกผม เป็นมิตรที่สม่ำเสมอน่าชื่นใจครับ
วิถีของครูแอ๊วสวยงามครับ การเป็นครูซึ่งเป็นภาระที่หนัก การสอนคนให้เป็นอนาคตที่ดีของชาติในอนาคตเป็นงานที่หนักมากในความคิดผม
ผมติดตามครูเสมอ
งานผมก็เช่นกันครับ ก็เป็นวิถีของผม ผมเลือกนำเสนอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เพื่อเป็นจดหมายเหตุตนเอง และส่วนหนึ่งสร้างแรงกำลังใจให้อ่าน
ทุกย่างก้าวในชีวิตเราจดจารเสมอ แม้แต่สิ่งที่ร้ายที่สุด ขอให้เรามองว่าสิ่งนั้นเป็นบทเรียนที่มีคุณค่าสอนให้เราเข้มแข็งและผ่านไปได้.......
ขอบคุณครับคุณครู
สวัสดีครับพี่สมนึก
พี่สมนึก
ผมเสียดายครับที่ไม่ได้ไปที่บุรีรัมย์ เพราะผมอาจพบพี่ที่นั่นครับ ผมเองมีภาระกิจช่วงระหว่างนั้นพอดีด้วยครับ
แต่ก็ขอติดตามผ่านบันทึกนะครับผม คิดว่าหากพี่มีเวลาที่เชียงใหม่"งานสัมมนา KM" ขอเรียนเชิญพี่พร้อมครอบครัว
ผมเพิ่งกลับมาจากการทำงานที่โรงการหลวงหมอกจ๋ามครับ เลยรู้สึกว่าอยากเขียนบันทึกมากทั้งๆที่เพลียมากพอสมควรกับการทำงานและเดินทาง
หลังจากโหลดภาพบางส่วนผมก็เริ่มทยอยเขียนออกสู่สายตาคนอ่านเลยครับ
เป็นบันทึกเบาๆก่อนเขียนบันทึกเชิงวิชาการออกมาอีกครั้ง
ขอบคุณครับที่พี่ชอบและพี่เองได้ติดตามบันทึกผมเสมอมา ผมขอขอบคุณมากๆครับ
หวัดดีครับเพื่อน
เข้ามาให้กำลังใจในการทำงานครับผม และสำเร็จงานไวๆ นะครับผม
ขอบคุณมากสำหรับภาพสวยๆ เรื่องราวดีๆ นะครับ คงได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมบ้างนะครับ
รักษาสุขภาพครับ
สวัสดีครับ
ดีใจที่พี่แป๋วมาทักทายในบันทึกผมวันนี้
สบายดีนะครับ อากาศคงไม่ต่างกัน ฝนปรอยๆแบบนี้ก็สุขดี - --
พักหลังดูเหมือนว่า อ.พี่แป๋ว จะยุ่งมากนะครับ บันทึกหายๆไปบ้าง ให้กำลังใจด้วยนะครับ
จะได้เจอกันที่เชียงใหม่อีกแล้ว ดีใจครับ มาอู้กำเมืองกั๋นเน้อครับ
ผมพยายามจะเก็บเสี้ยวของความรู้สึกที่ละเมียดหน่อยๆในมุมผมออกมาเสนอครับ เป็นความรูสึกให้เป็นบันทึกที่โปรยก่อยบันทึกเชิงวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยน
ว่าแต่ป่าหน้าฝน มีเสน่ห์ที่น่าหลงไหลมากครับ
สวัสดีครับพี่เหลียงครับ
สบายดีมั้ยครับ และให้พี่รักษาสุขภาพด้วย
ผมเองเพิ่งกลับมา จากภารกิจตามในบันทึก ไม่ได้แลกเปลี่ยนกับพี่สิทธิรักษ์สองวันก็รู้สึกว่าชีวิตขาดไปนะครับ
ผมได้ประสบการณ์ที่ดีครับ กับความตั้งใจของทีมงาน รวมถึงชาวบ้านที่น่ารัก มีคำพูดหลายๆคำในเวทีที่ผมประทับใจมาก
ที่สำคัญเพื่อนที่ร่วมงานก็มีไมตรีเอาใจใส่ผมเสมอๆแม้เรื่องเล็กน้อย มีความสุขดี มีความสุขมากครับ
ช่วงนี้ผมอาจดูยุ่งๆบ้าง หายๆไปบ้างก็ขออภัยครับ
สวัสดีครับ คุณเม้งครับ
คำทักทายจากมิตรให้ได้หายเหนื่อยและมีกำลังใจขึ้นมากครับ!!!
ผมเดินทางกลับมาก็ได้ทักทายกันเลย ดีใจมากครับ ไปสองวันในป่าสวย ผู้คนดีๆ ก็เหมือนได้ชาร์ตแบตเตอรี่
ผมไปพักที่บ้านพักรับรองของโครงการหลวง อากาศดีมากครับ อากาศเย็นสบาย ผมนอนฟังเสียงน้ำพุท่ามกลางความเงียบของค่ำคืน มันสงบเย็นจนผมรู้สึกผ่อนคลายมาก
ประเด็นงานที่ผมไปทำ เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยชุมชนครับ คาดว่ามีกิจกรรมที่มจะทำต่อเนื่องอีกมากในพื้นตรงนั้น
ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้ให้พันธะสัญญากับคนท้องที่รวมถึง จนท.โครงการหลวง - - -ผมให้พันธะด้วยใจครับ
ผมมีความสุขดีและสัปดาห์นี้ก็คงเป็นอีกช่วงที่ผมต้องทำงานหนักหน่วง จากงานที่ผมเคยเริ่นให้ทราบไปบ้างแล้วนะครับ ผมปฏิเสธการเดินทางไปนครฯ ทั้งๆที่อยากไปเจอเพื่อนๆที่นั่นมาก แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผมจะเดินทางไปเชียงรายอีกไม่กี่วันนี้ และกลับแม่ฮ่องสอน จากนั้นจะไปที่กรุงเทพ+เพชรบุรีต่อในช่วงปลายๆเดือนนี้
ชีพจรลงเท้า แต่ก็"สุขใจ" มาก
ดูแลสุขภาพด้วยครับผม - - --ขอบคุณครับ
ปูเพิ่งเขียนเรื่องคิดถึง เวียงพิงค์ ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้เองค่ะ
.... ได้มาเห็นภาพบรรยากาศ แล้วก็รู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ ... หมอกจ๋าม ...
.... เห็นภาพแล้วคิดถึง .. ปางอุ๋ง .. ที่เชียงใหม่.... ที่นี่คงยังเป็นน้องใหม่ด้านการท่องเที่ยวเลยใช่ไหมคะ
.... คงมีอะไรๆ ที่น่าท้าทายสำหรับจนท.โครงการ รวมถึงคุณเอกที่ต้องสร้างทีมจากคนในพื้นที่ เพราะหากในชุมชนกันเอง มีผู้นำหรือผู้ประสานงานที่เข้มแข็ง ก็จะเป็นรากฐานที่สำคัญ สำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในชุมชนต่อไป
.... เป็นกำลังใจ และขอบคุณสำหรับภาพงามๆ และข้อเขียนที่ละเมียดละไมค่ะสวัสดีครับ คุณpoo
ปางอุ๋ง ที่แม่ฮ่องสอนครับ ปางอุ๋งหรือเรารู้จักกันในนามสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย อยู่ในบริเวณตำหนักปางตอง ที่ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน
ผมเริ่มต้นออกเดินทางพร้อมถ่ายภาพ ดอกสีเหลืองหน้าบ้าน ฝนมา ฟ้าฉ่ำเลยหละครับ แบบนี้หละครับ สวยนัก หมอกลอยต่ำ ป่าเขา สวยเขียว ดูสดชื่น คนทำงานก็สุขไม่แพ้กันนะครับ
กระบวนการทำงานที่ผมไปทำ ผมเขียนในบันทึกต่อไปแล้วครับ
คุณ Poo ติดตามต่อได้เลยครับ
Community Based Research » ทำงานชุมชนแบบไร้กระบวนท่า : แบบหาเช้ากินเช้า หาค่ำกินค่ำ
ทั้งภาพ ทั้งตัวหนังสือ ของคุณเอก ทำให้ต้อมรู้สึกดีมาก ๆ เลย วันนี้
เป็นกำลังให้ทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนะคะ
สวัสดีครับคุณต้อม
ยินดีมากครับสำหรับ ความรู้สึกดีๆที่คุณต้อมจับได้ในบันทึกเล็กๆนี้ ผมเองก็มีความสุขครับ เมื่อวานถึงแม้จะเพลียบ้างตามระยะทางที่ไกล แบบหลับมาในรถเลย....
มาถึงที่พักกะว่าจะพักผ่อน แต่อดใจไม่ไหวขอสักบันทึกเถอะน่า...
ขอให้กำลังใจจงมีแด่คุณครับ
สวัสดีครับคุณแก่นจัง
ผมพิมพ์ตอบมากมายแล้ว มันก็หายไป....
ช่วงนี้ระบบ gotoknow มีปัญหาเรื่องโอเวอร์โหลด ทำให้คนมาแลกเปลี่ยนหายไปหมด - - -
ขอบคุณมากครับที่เป็นปิยะมิตรอ่านบันทึกผมเสมอๆ ผมจะเขียนดีๆมากขึ้นไปครับ
ภาพที่นำมาประกอบเป็นภาพจริงในพื้นที่ เพื่อให้บันทึกน่าอ่านมากขึ้นครับผม
รับรู้ถึงบรรยากาศที่งดงามของธรรมชาติ...
และที่สำคัญได้รับรู้ถึงความสุขของคนที่ทำงานด้วยหัวใจ...
น่าตื่นเต้นจริง ๆ ครับ...
ดิเรก
เราจะออกเดินทางจากเชียงใหม่ เช้าวันที่ ๓ ก.พ.หลังจากเพื่อนลงรถ และมุ่งหน้าไปที่ โครงการหลวงหมอกจ๋ามเลยครับ งานนี้ได้เสพบรรยากาศธรรมชาติเต็มที่
อีกทั้งได้ทำกระบวนการกับชุมชนด้วยครับ กลางคืนผมจะมีเวที คุยเรื่อง ประเด็นวิจัย กับชุมชนครับ เพื่อผลักดันเป็นโครงการวิจัย ประเด็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน
เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ