ภาคีจัดการความรู้ภาคราชการ plus กรมอนามัย Open House (2) นำเรื่อง


สิ่งหนึ่งที่กรมอนามัยได้ทำงาน KM ส่วนใหญ่ทำงานด้วยความเชื่อมั่นว่า KM เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในการทำงาน ... เราไม่ได้ทำเพราะว่า กพร. มาสั่งให้ทำ

 

กล่าวต้อนรับจาก CKO กรมอนามัยค่ะ ท่านรองอธิบดีกรมอนามัย นพ.ประเสริฐ หลุยเจริญ และ รู้จัก KM กรมอนามัยสักเล็กน้อย จาก ประธาน KM กรมอนามัย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์

ท่านรองฯ ประเสริฐ กล่าวต้อนรับค่ะ ...

  • วันนี้คงมี Keyword ที่สำคัญ คือ การแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน
  • กรมอนามัยได้มีการใช้ KM เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานมาในระยะพอสมควรแล้ว ก็มีรากฐานว่าทุกหน่วยงานก็สามารถดำเนินการได้ดี แต่ว่า ลักษณะของงานอาจจะแตกต่างกัน ก็อาจทำให้บางเรื่องเป็นเรื่องของระเบียบล้วนๆ เพราะเดินออกนอกระเบียบไม่ได้ บางส่วนงานก็เป็นส่วนของนักวิชาการ ก็จะมีลูกเล่น และมักใช้ KM เป็นเครื่องมือในการทำงานได้ง่ายกว่า
  • ขอให้ท่านได้เปิดใจแลกเปลี่ยน ก็จะได้ความรู้กลับไป
  • กรมอนามัยโชคดีที่มีบุคลากรที่มีความสามารถ มีการปรับตัว และยอมรับเรื่องต่างๆ ได้เร็ว เพราะฉะนั้น เราก็สามารถดำเนินการได้
  • ต่อไปก็จะเป็นบทบาทของผู้ที่มีความสามารถของกรมอนามัย ผมก็เป็นผู้ Facilitate ให้กับผู้ที่มีความสามารถ
  • และขอมอบเวลาต่อให้กับ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการจัดการความรู้ ของกรมอนามัยครับ

นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ กล่าวนำเล็กน้อยค่ะ ก็เรื่องราว KM กรอนามัยที่ผ่านมา

  • เราย่างเข้าปีที่ 3 ที่อยากจะบอกพวกเราทุกคนว่า กรมอนามัย 3 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ในเรื่องเครือข่าย เรื่องของงาน KM
  • แต่สิ่งที่สำคัญมาก ใน 3 ปีที่ผ่าน ในฐานะของคนที่เป็นผู้ประสาน KM และทางกรมฯ ได้ตั้งสำนักงานขึ้นมา สิ่งหนึ่งที่กรมอนามัยได้ทำงาน KM ส่วนใหญ่ทำงานด้วยความเชื่อมั่นว่า KM เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในการทำงาน ... เราไม่ได้ทำเพราะว่า กพร. มาสั่งให้ทำ
  • แน่นอนในปีแรกๆ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะคำนี้ฟังเหมือนเป็นของใหม่ คนอยากจะทำ มีคำสั่ง มีกฎระเบียบ มีกติกา ให้เราต้องทำ
  • แต่จากการที่ได้ทำงานกับกรมอนามัยมา ก็รู้สึกได้ว่า พวกเรามีความรัก ความอยากทำงานจัดการความรู้มากขึ้น
  • ผมพยายามอธิบายว่า ปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง คือ คนกรมอนามัย ที่เราถูกเรียกว่าเป็นกรมวิชาการ
  • ท่านที่ไม่ได้รู้จักกระทรวงสาธารณสุขมาก อาจจะได้ประโยชน์ถ้าได้ทราบว่า กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เราได้ปรับโครงสร้างมาในช่วงประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว เรามีการพูดมาชัดเจนว่า เรามีหน่วยงาน คือ กรมวิชาการ กับกรมบริการ เรามีการรวมศูนย์งานบริการไปอยู่ที่สำนักปลัดฯ กรมอื่นก็จะเป็นกรมวิชาการ พยายามที่จะพัฒนาบทบาทในเชิงวิชาการของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่า ไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัย
  • กรมอนามัยเป็นกรมวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ตัวเองเป็นหน่วยงานที่ทำงานวิชาการ เอาไปพัฒนางานได้อย่างแท้จริง
  • และถ้าพวกเราที่สนใจ หรือรู้เรื่องแนวคิดการจัดการความรู้ และลงมือทำ ก็จะพบว่า ถ้าเราทำงานวิชาการหรือเป้าหมายเพื่อวิชาการ การที่จะเอาแนวคิด KM มาใช้นี่ เป็นเรื่องซึ่งตรงไปตรงมามาก คือว่า มีประโยชน์
  • รูปธรรมอันหนึ่งที่ผมเข้าใจว่าเป็นตัวอย่างของกรมอนามัย คือ ในทางวิชาการ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราได้นำความรู้ไปใช้ เราไม่ได้ทำงานวิชาการ เพื่อตีพิมพ์เป็นเอกสาร เอาไปสอนหนังสือ หรือไปทำให้ความรู้เพิ่มพูน ทำให้เอาความรู้ในตัวไปใช้ประโยชน์ จะเป็นการทำแผนงานโครงการ จะเป็นการเสนอแนะนโยบาย หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ อันนี้ก็จะเป็นธรรมชาติของการจัดการความรู้นี้เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่
  • แม้โดยธรรมชาติของเราเป็นแบบนั้น พอเจอคำว่า จัดการความรู้ เราก็เมา เมา เหมือนกัน ... ซึ่งก็เป็นธรรมดาละครับ อาจารย์ประพนธ์ก็บอกว่า ถ้าทำแล้วยิ่งงง ก็พบว่า ถูกทางแล้ว ...
  • เมื่อปีที่แล้วมีคนมาเยี่ยมงานเรา ผมก็พูดประโยคนี้ให้ฟังว่า ที่กรมอนามัย เราทำเรื่องจัดการความรู้ เราถือหลัก Learning by confusion คือ หลักการสำคัญหนึ่งก็คือว่า อย่าเพิ่งจับทฤษฎีมาก ลงมือทำแล้วจะเรียนรู้ได้ดีขึ้น เราไม่เคยสอนไวยากรณ์ให้เด็กเกิดใหม่ แต่เด็กเกิดใหม่พอโตขึ้นก็พูดภาษาไม่ผิดไวยากรณ์ ลองดูสิครับ เด็กฝรั่งนี่พูดภาษาอังกฤษได้ถูกไวยากรณ์ เป็นเรื่องธรรมดา
  • เรื่องจัดการความรู้ จะอาศัยสัจจธรรมแห่งการเรียนรู้ของคน ไม่ได้อาศัยทฤษฎี ก่อนจะรู้ก็ต้องงงก่อน ไม่งงก่อนก็ไม่อาจจะรู้ได้
  • อาจารย์หมอวิจารณ์ชอบเปรียบเทียบกับการขี่จักรยาน ... แต่ผมชอบเปรียบเทียบกับการทำกับข้าว ทำกับข้าวก็คงไม่มีใครรู้ว่าอะไรดีที่สุด รู้สูตรไม่ลงมือทำก็ยังทำไม่เป็น สูตรเดียวกัน คนทำ 4 คน ก็ทำไม่เหมือนกัน มันก็มีสิ่งที่เรียกว่า รายละเอียดของการทำงานอยู่ตลอด ก็จะเป็นกรุ๊ปที่ดี อ่านตำรา หรือซื้อตำรามาก็ยังทำไม่ได้ และก็ต้องทำเยอะแยะ ผมก็ยังเคยหุงข้าวไหม้ เมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
  • พวกเราชาวกรมอนามัยที่ได้ทำเรื่อง KM มา ก็คงมีประสบการณ์คล้ายๆ กัน ก็คือว่า เวลาทำแล้วงงๆ ... แต่ก็ไม่ได้หยุดทำ มันก็อยากเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าหยุดเมื่อไรก็จะอยู่แค่นั้น
  • ที่นี้ความอยากทำนั้นมันจะอาศัยอำนาจบังคับคงไม่ได้ ถ้าพวกเราไม่ได้รักจริง เพราะฉะนั้นก็เลยมีข้อสรุปเบื้องต้นอีกอันหนึ่งซึ่งผมคิดว่า กรมอนามัยได้พิสูจน์ ว่า ถ้าเราทุกคนทำงานเรื่องการจัดการความรู้ มีความเชื่อมั่นในพลังเรื่องนี้ ผมใช้คำว่า ศรัทธาในพลังของ KM และอาจจะสำคัญ ว่า ถ้าเราไม่เชื่อว่ามีประโยชน์ เราก็จะเลิก
  • ผมก็ยกตัวอย่างให้กับทีมงานเป็นระยะๆ เนื่องจากเคยทำงานที่สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขมาก่อน และก็ได้มีการริเริ่มทำเรื่องการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล อย่างที่พวกเราอาจจะเคยได้ยินว่า เป็นเรื่อง HA เราได้เชิญที่ปรึกษาจากต่างประเทศมา จากแคนาดามาท่านหนึ่ง เขาได้มาเปิดประชุมสมัยนั้น เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ก็มีคนถามกันเยอะเลยว่า ทำ HA แล้ว รพ. จะดีขึ้นหรือเปล่า ... แกก็บอกว่า ที่แคนาดาก็มีคนถามอยู่เป็นประจำ และวิธีตอบของแกก็ง่ายๆ บอกว่า ก็ให้ถามตัวเอง ว่าตอนจะแต่งงานนี่ เคยมั่นใจไหมว่า ชีวิตแต่งงานจะดี ... ไม่เคยมีใครมั่นใจ แต่ที่แน่ๆ คือ ตัดสินใจแต่งงานแล้ว ก็ต้องทำให้มันดี เพราะฉะนั้น คนที่ไม่มีความศรัทธาในสถาบันครอบครัว ก็อาจลำบากหน่อย ทำไปไล่ตอบคำถามไป หรือไม่ทำเลย หรือไม่แต่งเลย หรือแต่งแล้วก็ถามคำถามตัวเองไปเรื่อยๆ จะดีเร้อ จริงเร้อ ไม่เห็นมันดีเลย เพราะว่าถ้าทำอย่างนี้ โอกาสจะล้มเหลวคงจะเยอะกว่าความสำเร็จ
  • สรุปก็คือ ถ้าคุณเชื่อว่ามันจะดี หน้าที่ของคุณก็คือ จงทำให้มันดี นี้ก็เป็นสิ่งที่ผมพบว่า คนของกรมอนามัยจำนวนไม่น้อยก็อาจเป็นแบบนี้ จึงได้พยายามที่จะทำไม่เลิก และทำไปเรื่อยๆ
  • ผมเชื่อว่า ท่านที่ได้ทำการจัดการความรู้มานั้น คงได้ผ่านวิธีคิด ผ่านช่วงเวลา ผ่านคำถามเหล่านี้มาเป็นระยะๆ ในสิ่งที่เราได้ประสบกันมาก่อนหน้านี้ คงเป็นประโยชน์บ้างเพื่อเสริมความมั่นใจให้พวกท่าน ก็คงจะเป็นเรื่องดี
  • ในส่วนที่สอง วันนี้เป็นการประชุมภาคีราชการ ความจริงแล้ว เราก็อยากฟังภาคีที่อื่นเยอะๆ เพราะรายการก็จัดให้เราไปพูดเสียส่วนใหญ่ ก็ไม่เป็นไร
  • ผมขออนุญาตเรียนทุกท่านว่า ตอนที่ท่านไปเรียนรู้งาน KM ของเราในช่วงบ่าย กรุณาถาม และติงเยอะๆ กรุณาแลกเปลี่ยนเยอะๆ อย่าปล่อยให้คนกรมอนามัยเล่าให้ฟังแต่เพียงอย่างเดียว
  • ข้อตกลงที่เราทำกันอยู่เสมอ ในแต่ละฐานที่ไปนั้น จะให้เจ้าของงานพูดน้อยๆ พูดสั้นๆ และให้พวกเราถาม และแลกเปลี่ยนเยอะๆ และกรุณาให้คำแนะนำด้วยครับ

ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการเกริ่นนำเรื่องก่อนเข้าเรื่องที่จะ ลปรร. กันละค่ะ 

รวมเรื่อง ภาคีจัดการความรู้ภาคราชการ plus กรมอนามัย Open House  

 

หมายเลขบันทึก: 125815เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2007 22:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
KM เหมือนแต่งงาน  ที่ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แล้วจะดีในที่สุด  อืมมมม...น่าสนใจคะ  แต่กบกลัวประเภทหนีไปแต่งงานใหม่ซะซิคะ....เพราะรู้สึกยากที่จะปรับตัวน่ะคะ  แซวเล่นนะคะ
  • เออ หนูกบ โรงเรียนพ่อแม่ เข้าใจเปรียบเทียบเน๊าะ
  • ถ้าเปรียบเทียบว่า KM เหมือนแต่งงาน ก็คงต้องมาเชื่อมโยงกับความรัก ว่า รัก ก็คือ การให้ กระมังคะ
  • ให้ และเราก็จะ เข้าใจ และเราก็จะ มีความรู้ไปเรื่อยๆ จริงบ่
  • ถ้าทำได้ คงไม่หนีไปแต่งงานใหม่แน่นอน เลย เน๊าะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท